ละครโรงใหญ่ ลอยแพ ‘ก้าวไกล’

17 พ.ค. 2566 - 08:41

  • เปิดแผนสำรองตั้งรัฐบาล! อ่านเกม ‘ผู้มีอำนาจ’ ละครโรงใหญ่ ‘เพื่อไทย’ แสตนบาย ปล่อย ‘ก้าวไกล’ ทำไปก่อน ชะตากรรม ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ ปลดล็อค ‘ทางตัน’ อุดช่อง ‘เช็กบิลย้อนหลัง’

Pheuthai-MoveForward-Government-Policy-Layoff-SPACEBAR-Thumbnail
สถานการณ์ภายในประเทศในฝั่ง ‘ผู้มีอำนาจ’ อยู่ในสภาวะอึมครึม เป็น ‘ความเงียบ’ ที่เต็มไปด้วย ‘ความเคลื่อนไหว’ หลังพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้งมาที่ 1 ตามมาด้วย ‘เพื่อไทย’ ลำดับที่ 2 เมื่อทั้ง ‘เพื่อไทย-ก้าวไกล’ รวมเสียงกัน ทะลุเกิน 251 เสียง สามารถตั้ง ‘รัฐบาลเสียงข้างมาก’ ได้ แต่ยังติด 250 ส.ว. ทำให้ฝั่ง ‘ก้าวไกล’ ต้องรวมเสียงพรรคอื่นๆ ให้เกิน 375 เสียง เพื่อเสนอชื่อ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ เป็นนายกฯ ให้ได้ แต่ ‘โลกแห่งความเป็นจริง’ ไม่ง่ายเช่นนั้น เพราะเป็นไปด้วย ‘เงื่อนไข’ ที่ทำให้แม้แต่ ‘เพื่อไทย’ ทำได้เพียง ‘รับไมตรี’ แต่ยังไม่ ‘จับมือ’ อย่างเป็นทางการ

ชนวนสำคัญอยู่ที่เรื่อง ม.112 ที่แทบทุกพรรคไม่เอาด้วยกับ ‘ก้าวไกล’ ที่ลดเพดานจาก ‘ยกเลิก’ มาเป็น ‘แก้ไข’ แทน แต่พรรคอื่นๆ มองว่า ม.112 ไม่ใช่เพียง กม.อาญาทั่วไป แต่เป็น กม.ความมั่นคง ในการคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ท่าทีของอดีตขั้วรัฐบาลเดิมชัดเจนไม่จับมือกับพรรคที่แตะต้อง ม.112 แม้แต่ ‘เพื่อไทย’ ยังอยู่ในสภาวะ ‘น้ำท่วมปาก’ ทำได้เพียงโยนให้สภาฯ พิจารณาเพื่อสร้าง ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ในการพูดคุยเท่านั้น 

หากเช็กท่าทีของ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกฯ ก็ออกมาส่งสัญญาณการจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับ ‘ก้าวไกล’ โดย ‘ทักษิณ’ กล่าวในคลับเฮาส์ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า สมมุติถ้าพรรคเพื่อไทยร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล สิ่งไหนที่ ‘ก้าวไกล’ จะทำ แต่ตนคิดว่า ‘ไม่ทำ’ ทำในสิ่งที่ กระทบกระเทือนสถาบันฯ เราก็คงไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา แต่เราไม่เป็น ‘ขวาจัด ตกขอบ’ แต่เราถือว่าเป็นคนไทย เราเคารพในสถาบันฯ แค่นั้นเอง ชัดเจน ไม่มีบิดพริ้ว 

ทั้งนี้ต้องอ่านเกมของ ‘ผู้มีอำนาจ’ จะยอมให้ ‘ก้าวไกล’ ได้ตั้งรัฐบาลหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวสะพัดถึงการตั้งรัฐบาลในสูตรที่ 2 คือ ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ ต้องถอยออกมา โดยการ ‘วางมือการเมือง’ เพื่อ ‘ปลดล็อกสถานการณ์’ ให้ไปต่อได้ เพราะซีก ‘เพื่อไทย’ ประกาศชัดเรื่อง ‘ไม่เอา 2 ลุง’ แล้ว อีกทั้งเป็นการ ‘ลดเงื่อนไข’ ต่างๆ ออกไป อย่างน้อยรัฐบาลใหม่ก็จะไม่มี ‘2ป.ประยุทธ์-ประวิตร’ ทั้งนี้คาดกันว่า ‘บิ๊กป้อม’ จะไปทำงานการเมืองหลังฉากแทน ส่วน ‘บิ๊กตู่’ มองกันว่ามี ‘ตำแหน่งสำคัญ’ รออยู่  

นอกจากนี้มีการมองกันว่าสุดท้ายแล้ว ‘รวมไทยสร้างชาติ’ อาจต้อง ‘ยุติบทบาท’ ลงไป และให้บรรดดา ส.ส. ย้ายไปพรรคอื่นๆ ตามที่ รธน. เปิดช่องไว้ โดยเฉพาะพรรคพลังประชารัฐ ของ ‘บิ๊กป้อม’ เพื่อให้ ส.ส. ยังอยู่ในมือ ‘ขั้วอำนาจ 3ป.’ หากรวมเสียง ส.ส. ทั้ง 2 พรรค ก็จะอยู่ที่ 76 เสียง ซึ่งจะมากที่สุดในขั้วรัฐบาลเดิม ซึ่งจะเป็น ‘พรรคตัวแปรใหญ่’ ทันที ไว้คุม ‘เพื่อไทย’ อีกขึ้น ไม่ให้มา ‘เช็กบิลย้อนหลัง’ ได้ 

ดังนั้นจึงเกิดสูตร ‘เพื่อไทย’ นำจัดตั้งรัฐบาลขึ้นมา โดยจับมือกับขั้วอดีตรัฐบาลเดิม และทำการ ‘ลอยแพ’ พรรคก้าวไกล ให้เป็นฝ่ายค้าน หากดูท่าที ส.ว. บางส่วนจะพบว่า หากเป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทยยังพอรับได้ หากเป็นชื่อ ‘พิธา’ เสียง ส.ว. ไม่เห็นด้วย แต่ ส.ว.บางคน ก็พูดเปิดช่องทำนองจะโหวตให้พรรคที่รวมเสียงได้เกิน 250 เสียง เท่ากับว่าก็หมายถึง ‘เพื่อไทย’ ด้วย ซึ่งที่ ส.ว. พอรับได้ คือชื่อ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ แต่งานนี้ว่ากันว่าคง ‘วัดพลังกัน’ ในสภาฯ หลายรอบ กว่าจะได้ นายกฯ คนที่ 30 หรือสุดท้ายจะได้ ‘นายกฯ คนนอก’ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่โจทย์หลังเลือกตั้ง-ได้รัฐบาลใหม่ เริ่มมีการพูดกันคือการแก้ไข รธน.  

อย่างไรก็ตามมีกระแสข่าวว่าเริ่มมีการ ‘คุยทางลับ’ เกิดขึ้น ทำให้แกนนำแต่ละพรรคไม่ออกมาพูดอะไร เพราะยังอยู่ในช่วงการ ‘เจรจา-วางแผน’ ต่างๆ แต่ในอีกทางก็ ‘ทำที’ ปล่อยให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลไป แต่ละพรรคออกแถลงการ ‘พูดตามหลักการ’ ให้พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาล ส่วนจะทำได้ไหม ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในโลกแห่งความเป็นจริง ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในเวลานี้จึงเป็น ‘ละครโรงใหญ่’ เท่านั้น

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์