‘เพื่อไทย’ ไฮบริด แลก ‘ทักษิณ’ กลับไทย

26 ก.ค. 2566 - 09:55

  • ‘ทักษิณ’ กลับไทย มีแต่เป็นคุณต่อ ‘อีลีทไทย’ เพื่อปิดทาง ‘ก้าวไกล’ มีอำนาจ เพื่อจัดสมดุลใหม่ ‘อำนาจ 2 ขั้ว’ เพื่อเป็น ‘กันชน’ สู้กลุ่ม ‘ความคิดสุดโต่ง’ ดำรง ‘ประชาธิปไตยแบบไทย’ สุดท้าย ‘เพื่อไทย’ จะกลายเป็น ‘พรรคไฮบริด’

Pheuthai-Party-Hybrid-Neo-Conservative-SPACEBAR-Hero
ชัดเจนแล้วว่า ‘ทักษิณ ชินวัตร’ จะกลับถึงไทย 10 ส.ค.นี้ ลงเครื่องที่สนามบินดอนเมือง ตามที่ ‘อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร’ ได้ออกมาเปิดเผย ซึ่ง ‘เลื่อน’ จากกำหนดการเดิมไม่มากนัก ตามที่ ‘ทักษิณ’ เคยประกาศจะกลับไทยช่วงวันเกิด 26 ก.ค.นี้ แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่ยังไม่มี ‘นายกฯ คนที่ 30’ และ ‘รัฐบาลใหม่’ ทำให้การเดินทางกลับต้อง ‘ขยายเวลา’ ส่วนจะขยายจาก 10 ส.ค.นี้ ออกไปหรือไม่ ต้องจับตาศาล รธน. จะรับคำร้อง ‘ผู้ตรวจการแผ่นดิน’ หรือไม่ ในกรณีสภาฯมีมติห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯซ้ำ ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ขัด รธน. หรือไม่ 

ก่อนหน้านี้ ‘แพทองธาร’ เคยระบุว่าคุณพ่อจะเลื่อนกลับไทย โดยรอให้ ‘สถานการณ์นิ่ง’ ก่อน เพราะไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา ซึ่งก็คาดกันว่าหลังได้ นายกฯ แล้วนั่นเอง แต่ยังเป็นห้วงรอยต่อ ‘รัฐบาลเก่า-ใหม่’ ที่ยังมี ‘บิ๊กตู่’พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็น ‘รัฐบาลรักษาการ’ เพื่อป้องกันครหาต่างๆ ถ้ากลับมาในยุค ‘รบ.เพื่อไทย’ แล้ว 

แน่นอนว่าการ ‘กลับไทย’ ย่อมต้องมี ‘ต้นทุนที่ต้องจ่าย’ หนึ่งในนั้นคือการต้อง ‘ยอมกลืนเลือด’ เพื่อตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ขึ้นมา ผลพวงจากที่ ‘ก้าวไกล’ ชนะเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 จึงตามมาด้วย ‘สูตรสมการอำนาจ’ ที่ได้เวลา ‘ปรับดุลอำนาจ’ ครั้งใหญ่ โดยมี ‘เพื่อไทย-ขั้วทักษิณ’ เป็นตัวละครหลักครั้งนี้ ผ่าน ‘ละครโรงใหญ่’ ที่ยาวนานมา 2 เดือนแล้ว ในการ ‘ลอยแพก้าวไกล’ ให้ไปเป็น ‘ฝ่ายค้าน’ นั่นเอง 

การกลับไทยของ ‘ทักษิณ’ ในสถานการณ์เช่นนี้ มีแต่เป็นคุณต่อ ‘ชนชั้นนำไทย’ และแทบไม่เป็น ‘ผลเสีย’ ต่อชนชั้นนำ เพราะวันนี้ ‘ศัตรูตัวใหม่’ ของชนชั้นนำไทย คือ ‘ขั้วก้าวไกล-อนาคตใหม่’ นั่นเอง ที่มีแนวคิด ‘รื้อโครงสร้างการเมือง-ทุนไทย-กองทัพ’ ที่ผงาดขึ้นมาผ่าน 14 ล้านเสียง ชนะเลือกตั้งมาเป็นที่ 1 ทำให้ ‘ซิแนริโอ’ ที่ฝ่ายการเมือง-ชนชั้นนำมองไว้ ต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด กลายเป็น ‘สูตรรัฐบาลข้ามขั้ว’ เพื่อ ‘ปิดทาง’ ไม่ให้ ‘ก้าวไกล’ ขึ้นมามี ‘อำนาจ’ ปกครองประเทศ 

สถานะของ ‘เพื่อไทย’ นับจากนี้ก็จะเปลี่ยนไป มีภารกิจในการ ‘จัดสมดุลอำนาจใหม่’ ระหว่าง ‘พรรคฝ่ายซ้าย-พรรคฝ่ายขวาเดิม’ ทำให้พรรคเพื่อไทย จะกลายเป็น ‘พรรคไฮบริด’ ที่มีความเป็น ‘ลูกผสม’ มากขึ้น ระหว่างแนวคิด ‘เสรีนิยม-อนุรักษนิยม’ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็น “Neo-Conservative” และจะเป็น ‘พรรคคู่แข่ง’ กับ ‘พรรคก้าวไกล’ ด้วย ทำให้พรรคเพื่อไทย กลายเป็น ‘พรรคตัวแทน’ ในการต่อสู้กับ ‘แนวคิดสุดโต่ง’ 

ซึ่งเรื่องนี้ ‘ทักษิณ’ เคยพูดในคลับเฮ้าส์ 25ม.ค.2566 ตอนหนึ่งว่า “บางทีคนพูดว่า เพื่อไทยสนแต่เศรษฐกิจ ไม่สนใจการเมือง แต่มันไม่ใช่ เพราะจุดยืนทางการเมืองในการที่จะทำอะไรบางอย่างมันก็เป็นความต่างกันของเพื่อไทย และก้าวไกลอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าแฟนคลับชอบแบบเอ็กซ์ตรีมก็ไปที่ก้าวไกล ชอบปากท้องต้องมาก่อน และประชาธิปไตยที่เหมาะสมก็มาเพื่อไทย” 

นอกจากนี้ภารกิจของ ‘เพื่อไทย’ ในอนาคตคือการเป็น ‘กันชนทางการเมือง’ ระหว่าง ‘กลุ่มแนวคิดสุดโต่ง’ กับ ‘ประชาธิปไตยแบบไทย’ ที่ผ่านมา ‘ช่องว่าง’ จุดนี้ถูกทำลายลง ทำให้เกิด ‘ภาวะกระอักกระอ่วน’ ในทางการเมือง ทำให้ ‘ประชาธิปไตยแบบไทย’ ถูกสั่นคลอนอย่างมาก ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะเข้ามา ‘จัดสมดุลอำนาจ-ปรับช่องว่าง’ ตรงนี้ใหม่ ที่อยู่กับ ‘อีลีทไทย’ ได้ และยังมีฐานเสียง ‘ชนชั้นกลาง-รากหญ้า’ อยู่ด้วย กลายเป็น ‘พรรคไฮบริด-ฝ่ายขวาใหม่’ ซึ่ง ‘ทักษิณ’ รอเวลานี้มา 20 ที่จะเป็น ‘ที่รัก’ ของ ‘อีลีทไทย’  

เว้นแต่จะ ‘โดนหลอกซ้ำ-หลอกซ้อน’ บทละครก็จะ ‘พลิก’ ทันที 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/3FFeLjYYmDfOk3Ha1L5Fpg/456135d1df72014be421d07da12edd01/Pheuthai-Party-Hybrid-Neo-Conservative-SPACEBAR-Photo_V01
Photo: Facebook: Ing Shinawatra

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์