https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2Jf52ze76lPpqUZFiLexcm/3076c48e11c3e3c8dab5feb7226489a7/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/ViVKX3YqwwPcCsihHbBUm/cb6eeff25b0f774e0331586d647b8b77/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4ofXXSoXLSo4rzxGYtCIa1/674cc6b74013479ec4d8372937fe161b/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2TXXXc339e3x45eGsxF6ZD/e3a85ffc15072aa8a5843be0a5e8182b/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo03

Photo Sotry: ‘ชูวิทย์’ เอาคืน! ฟ้องกลับ ‘เศรษฐา-วิญญัติ’ 3 ข้อหา เรียกค่าเสียหาย 9 หมื่นบาท

16 ส.ค. 2566 - 09:49

  • ‘ชูวิทย์’ ลุยฟ้องกลับ ‘เศรษฐา-วิญญัติ’ 3 ข้อหา เรียกค่าเสียหาย 9 หมื่นบาท

  • ก่อนร้องสภาทนายความ ยื่นสอบมรรยาททนายความของ วิญญัติ

  • ส่วนพรุ่งนี้ เตรียมนำหลักฐานยื่น ‘บิ๊กโจ๊ก’ เพื่อเรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดมาสอบ

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2Jf52ze76lPpqUZFiLexcm/3076c48e11c3e3c8dab5feb7226489a7/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo00
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/ViVKX3YqwwPcCsihHbBUm/cb6eeff25b0f774e0331586d647b8b77/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo01
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4ofXXSoXLSo4rzxGYtCIa1/674cc6b74013479ec4d8372937fe161b/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo02
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/2TXXXc339e3x45eGsxF6ZD/e3a85ffc15072aa8a5843be0a5e8182b/Photo-Story-Chuwit-sues-Settha-and-Winyat-3-charges-SPACEBAR-Photo03
ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เดินทางมาที่ศาลอาญารัชดา เพื่อยื่นคำฟ้องเอาผิด เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย และ วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ ในข้อหาฟ้องเท็จ, หมิ่นประมาท และละเมิด พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พร้อมเรียกค่าเสียหาย 9 หมื่นบาท ภายหลังถูก เศรษฐา ส่ง วิญญัติ ยื่นฟ้องร้องไปเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา กล่าวหากรณีหลีกเลี่ยงภาษีซื้อที่ดินย่านถนนสารสิน และขอให้ลบข้อความวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับการแสดงข้อมูลในครั้งนั้น และเรียกค่าเสียหาย 500 ล้านบาท 

ชูวิทย์ ย้ำว่า ในฐานนะตนเองเป็นประชาชน มีสิทธิตรวจสอบได้ทุกประการ ทั้งเรื่องที่ดินสารสิน 12 คน โอน 12 วัน ที่ดินที่ทองหล่อซอย 12 ล่าสุดที่ตนแฉไป และเผยว่า ที่เรียกค่าเสียหายเพียง 9 หมื่นบาท มาจากจำนวนเงินวันละ 1 หมื่นบาท นับตั้งแต่ที่ วิญญัติ มายื่นฟ้องตนเมื่อวันที่ 7 สิหาคมที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 15 สิงหาคม จำนวน 9 วัน เพื่อแสดงให้เห็นว่า ตนเองไม่ได้อยากได้เงิน แต่ต้องการเพียงข้อเท็จจริงเท่านั้น แต่ทางฝั่ง เศรษฐา กลับเรียกเงินจากตนเองจำนวนถึง 500 ล้านบาท พร้อมมั่นใจว่า การยื่นฟ้องในครั้งนี้ ศาลจะรับคำฟ้องแน่นอน  

ชูวิทย์ บอกด้วยว่า วานนี้มีการแฉ EP.2 ซึ่งเป็นการขุดหลุมพรางไว้ ซึ่งบริษัทแสนสิริ ก็ตกหลุมพรางในทันที โดยการแถลงข่าวตอบโต้ บอกว่าไม่รู้เรื่อง และหากจำได้ ตนแฉเอกสารที่เป็นสัญญาจำนองที่ดิน พร้อมตั้งคำถามว่า หากบริษัทจะซื้อที่ก็ซื้อไปเลยทำไมต้องทำสัญญาจำนอง พร้อมถามว่าคนที่ไปซื้อคิดได้ยังไงจะซื้อที่แต่ไปทำสัญญาจำนองก่อน แล้วค่อยครอบสัญญาจำนองโดยสัญญาจะซื้อจะขาย 

จากนั้น ชูวิทย์ ได้โชว์สัญญาจำนอง บริษัทอักษรย่อ N และบริษัทอักษรย่อ อ. ซึ่งเป็นบริษัทลูกของแสนสิริ หุ้น 99.99% พร้อมจำนวนเงิน 1 พันล้าน พร้อมถามย้ำว่า ทำไมถึงทำสัญญาจำนองก่อนค่อยทำสัญญาซื้อขายในเวลาต่อมา นั่นเพราะว่าคุณจ่ายเงิน 1 พันล้านบาท ให้กับนอมินี และเอา 1 พันล้าน บวกค่าที่หายไปแล้วค่อยไปซื้อ ซึ่งตนมองว่าตรงนี้มันแปลก และอยากรู้ว่าทำแบบนี้ไปทำไม พร้อมถามอีกว่าแล้วเงินทอน 435 ล้านบาท ไปไหน รวมทั้งยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า เจ้าของลายเซ็นในสัญญาจำนองนาย ส. ที่เป็น รปภ.เป็นคนเซ็น ซึ่งมีหุ้น 1 หุ้น ต่อมานาย ส.ขายทิ้ง ก่อนที่จะเอานาย ย. มาแทน ก่อนที่จะปล่อยบริษัททิ้งร้างโดยไม่ส่งงบฯ ต่อกัน 5 ปี 

ชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า เศรษฐา จะขึ้นเป็นนายกฯ การกระทำพฤติการณ์ซ่อนเร้นแบบนี้ พ่อค้าอย่างตนรู้เช่นเห็นชาติดี ซึ่งกล้ามาฟ้องตน ตนก็กล้าฟ้องกลับ แลกกันหมัดต่อหมัดที่ศาล ยืนยันมีพยานหลักฐานครบถ้วน พร้อมกันนี้ยังคงยืนยันว่า เรื่องนี้พูดเพื่อประโยชน์ของแผ่นดิน อีกอย่างการเป็นบริษัทมหาชน ต้องมีธรรมาภิบาลโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่คุณกลับให้แม่บ้านและ รปภ. มากู้ แล้วเหตุใดตอนชี้แจงทำไมไม่ชี้แจงประเด็นนี้ ซึ่งเจ้าของเก่าคือหมอ น. ซึ่งอยู่ รพ.บำรุงราษฎร์ ให้ไปถามหรือว่าเจ้าของดั้งเดิมคนนี้คุยกับใครในการขาย แม่บ้านหรือ รปภ.เหรอ จากนั้น ชูวิทย์ ยกบอร์ดขึ้นมาให้ไปตามหาบุคคลหนึ่ง ชื่อนาง ว. ที่ถือหุ้น 33.33% ของ บริษัทรักษาความปลอดภัย อักษรย่อ พ. ว่าคนๆ นี้เป็นพี่สาวของใคร ยังเชื่อว่าแม้ว่าจะมีการโหวตให้ เศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ก็จะอยู่ไม่ถึง 3 เดือน เพราะจากหลักฐานที่เปิดโปงนั้น แสดงให้เห็นพฤติกรรมของ เศรษฐา 

นอกจากนี้ ยังถามกลับว่า ที่ปล่อยเงินกู้ 1 พันล้านบาท ให้แม่บ้านและ รปภ. ไม่เคยเจอตัวกันเลยหรอ ไม่เคยอยากรู้เหรอว่าเขาทำอาชีพอะไร ทำงานอะไรที่ไหนถึงปล่อยเงินกู้ไปตั้ง 1 พันล้านบาท และ ชูวิทย์ ยังฝากไปถึงแม่บ้าน เชื่อว่าจะต้องมีการได้ส่วนแบ่งไม่มากก็น้อยแต่อาจจะได้ไม่เยอะ และบอกอีกว่า แม่บ้านจะต้องเลือกว่าจะเป็นพยานหรือเป็นผู้ต้องหา แต่กรณีนี้เพราะเชื่อว่าแม่บ้านดังกล่าวมีคนไปบอกให้เงียบ และบอกไปว่าไม่เกี่ยวข้อง ถ้าเป็นอย่างงั้นจะถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จ และยังบอกอีกว่า พฤติกรรมของเศรษฐาที่ปล่อยกู้ให้กับแม่บ้านและ รปภ. ถึง 1 พันล้านบาท ยังไม่เป็นที่กับที่น่าสงสัยอีกหรอ 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการโหวตนายกฯ จะราบรื่นหรือไม่ เนื่องจากว่าพรรคเพื่อไทย ยังคงยืนยันว่าจะเสนอชื่อ เศรษฐา ชูวิทย์ ก็ถามกลับว่า พรรคเพื่อไทยถาม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วหรือยัง เพราะเมื่อเช้ามีคนรายงานไปให้ ทักษิณ ทราบแล้วว่าเรื่องราวเป็นแบบนี้เหมือนกับเจ้าตัวอย่างมาก  

“ตอนท่านนั้นซุกหุ้นให้กับคนขับรถและแม่บ้าน ส่วนกรณีนี้ก็ให้มัดจำซื้อขายมูลค่า 1,000 ล้านบาท กับแม่บ้านและ รปภ. จะทำยังไงดี” ชูวิทย์ ระบุ 

เมื่อถามถึง รปภ. คือนาย ส. หากไปสืบค้นดู เคยเป็นกรรมการบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลายแห่ง แสดงว่ามีกระบวนการแบบนี้ในภาคธุรกิจใช่หรือไม่ ชูวิทย์ กล่าวว่า มีมากกว่านั้น นาย ส. มีชื่อเป็นกรรมการอีก 4 บริษัท ล้วนเกี่ยวกับ บริษัทแสนสิริทั้งสิ้น โดยมีร่องรอยทางบัญชี โกหกกันไม่ได้ ส่วน EP.หน้า เตรียมแฉที่ดินที่ตั้งที่ สุขุมวิท 12 (ศิวแลนด์)  

ทั้งนี้ ภายหลังจากที่ยื่นฟ้องที่ศาลอาญารัชดาแล้ว ชูวิทย์ ยังเดินทางไปที่สภาทนายความ เพื่อยื่นสอบมรรยาททนายความของ วิญญัติ อีกด้วย ส่วนพรุ่งนี้ (17 ส.ค.) เวลา 10.00 น. เจ้าตัวจะนำข้อมูลเรื่องที่แฉไปให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อต้องการให้เรียกบุคคล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนอมีนีทุกคนมาสอบปากคำ โดยอ้างว่า พฤติกรรมของ เศรษฐา เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจรูปแบบหนึ่ง จากนั้น จะเดินทางไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้สอบสวนบริษัทแสนสิริ ว่ามีการทำสัญญาซื้อขาย กู้ รวมถึงรายรับรายจ่ายทั้งหมดของบริษัท เพราะถือว่าตนเองก็เป็น 1 ในผู้เสียหาย เนื่องจากถือหุ้นแสนสิริ เช่นกัน จำนวน 2 หมื่นหุ้น 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์