



วันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชาติ (ปช.) ในฐานะประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุมกับรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน เพื่อแบ่งงาน ว่า วันที่ 13 กรกฎาคม จะนัดประชุมเวลา 09.30 น. โดยวาระสำคัญคือเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งการดำเนินการประชุมจะโดยยึดรัฐธรรมนูญและข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา ส่วนจะต้องมีการซักซ้อมหรือไม่นั้น ตนคิดว่าคงไม่ต้องมีอะไรมาก แต่เพื่อให้เวลาการประชุมกระชับขึ้นในวันพรุ่งนี้ (11 กรกฎาคม) จะเชิญวิป ส.ว. และตัวแทนพรรคการเมืองมาประชุมร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าใจกันก่อนในระดับหนึ่ง
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า การประชุมรัฐสภาหรือการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกสามารถอภิปรายได้ตามข้อบังคับ ส่วนวิปเพียงแต่หาแนวทาง เพื่อให้การอภิปราย หรือการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมจะมาเยิ่นเย้อจนเกินไป ส่วนจะให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่นั้น ในข้อบังคับไม่ได้มีการกำหนดไว้ เหมือนกับการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ แต่หากมีสมาชิก ในที่ประชุมเสนอขึ้นมาเป็นญัตติ ก็จะต้องถามที่ประชุมว่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม
เมื่อถามว่าทางพรรคก้าวไกล ระบุว่าได้เสียง ส.ว. ครบแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะสามารถโหวตจบในครั้งเดียวได้ หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถรับทราบกรณีความเห็นใดๆ เพราะประธานสภาฯ ต้องวางตัวเป็นกลาง ก็เป็นเรื่องของสมาชิก ส.ว. และเป็นเรื่องของพรรคการเมืองในสภาฯ
ส่วนวันนี้จะมีการแบ่งงานระหว่างประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ หรือไม่นั้น หลังจากที่ตนได้ฟัง วิปของสภาผู้แทนราษฎร จะหารือกับรองประธานสภาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเรื่องทั่วๆ ไปรวมถึงเรื่องการแบ่งงานให้กับรองประธานสภาทั้งสองคนด้วย
เมื่อถามว่า จะให้รองประธานสภาฯ คนไหนดูเรื่องการพิจารณาบรรจุญัตติ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องมาคุยกัน โดยยึดเอาคำสั่งเก่าๆ มาดู และต้องดูว่ารองประธานสภาฯ ทั้งสองว่าแต่ละคนอยากจะไปดูเรื่องอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน ประธานสภาฯ ก็อยากจะให้รองประธานสภาฯ ทั้งสองคนสบายใจในเรื่องของการแบ่งงาน เพราะเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
เมื่อถามถึงกรณีหากยึดตามหลักการเดิมรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง จะเป็นคนพิจารณาเรื่องการบรรจุญัตติ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นคำสั่งของ ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และในสมัยเก่าก็เป็นลักษณะคล้ายกัน ทั้งนี้ ต้องมาคุยกันก่อนตนไม่อยากบอกล่วงหน้า หากรองประธานสภาทั้งสองคน มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ต้องมาคุยกัน
เมื่อถามถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่ประชาชนจะมารอฟังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบไปแล้วทั้งของสภาฯ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้วางแผนให้รอบคอบที่สุด เรายินดีและจะเปิดพื้นที่บางส่วน บริเวณตรงข้ามถนนทหาร ซึ่งเป็นสถานที่ของ กทม. เนื่องจากบริเวณหน้ารัฐสภามีการก่อสร้างอยู่เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสามารถบรรจุคนได้เกือบหมื่นคน โดยทาง กทม. ก็ยินดีให้ใช้ ขอขอบคุณทาง กทม. ในส่วนนี้ด้วย และเราพร้อมบริการอำนวยความสะดวกในเรื่องของห้องน้ำ เต็นท์เนื่องจากเป็นหน้าฝน และคิดว่าหากอยู่ตรงนั้นอาจเพียงพอ ส่วนบริเวณอื่นๆ เจ้าหน้าที่จะจัดการเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยอาจจะใช้ประกาศ ชุมนุมในที่สาธารณะเป็นหลัก ซึ่งเราจะพยายามไม่ให้มีความรู้สึกระหว่างประชาชนกับสภาฯ เป็นอย่างอื่น แต่เราจะต้องให้การประชุมรัฐสภานั้นสามารถกระทำได้ด้วยความเรียบร้อยเพราะเป็นการประชุมสำคัญ และเพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวลต่อการเข้าร่วมประชุมของสมาชิกรัฐสภา
“เขาไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบเข้ามาและออก เพราะจะเกิดความไม่ปลอดภัย เราห้ามไม่ได้ ฉะนั้นบรรยากาศที่ผมในฐานะประธานสภาฯ จะต้องทราบ เพื่อไม่ให้สมาชิกเกิดความวิตกกังวล เพื่อให้สามารถประชุมและลงมติได้อย่างเต็มที่ และอิสระ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ประชาชนที่มา ทั้งนี้ก็คงต้องขอความร่วมมือ เพราะเป็นการประชุมที่สำคัญ และรัฐสภาแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญของบ้านเมือง แต่เราก็พยายามให้คนที่อยากจะมา ซึ่งหากท่านไม่มาก็สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ในหลายช่องทางอยู่แล้ว หากฝนตกแดดออก เราก็เตรียมสถานที่ไว้ให้ หากไม่เกินหมื่นคน ซึ่งผมกับทาง กทม. ได้จัดพื้นที่ให้ โดยเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นสภาฯ ได้ชัดเจนกว่าที่อื่น” วันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาเรื่องหุ้นของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะยังไม่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ข้อเสนอของ ส.ว. ที่บอกว่าหากไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ในรอบแรกได้ ขอให้มีการปัดตกชื่อได้มีการคุยกับทางประธานวุฒิสภาแล้วหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
จากนั้น วันมูหะมัดนอร์ พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ประชุมร่วมกับนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงรองประธานเลขาฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งงานให้กับรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน
วันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า การประชุมรัฐสภาหรือการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกสามารถอภิปรายได้ตามข้อบังคับ ส่วนวิปเพียงแต่หาแนวทาง เพื่อให้การอภิปราย หรือการแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมจะมาเยิ่นเย้อจนเกินไป ส่วนจะให้แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่นั้น ในข้อบังคับไม่ได้มีการกำหนดไว้ เหมือนกับการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรที่ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องมีการแสดงวิสัยทัศน์ แต่หากมีสมาชิก ในที่ประชุมเสนอขึ้นมาเป็นญัตติ ก็จะต้องถามที่ประชุมว่าจะให้มีการแสดงวิสัยทัศน์หรือไม่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับที่ประชุม
เมื่อถามว่าทางพรรคก้าวไกล ระบุว่าได้เสียง ส.ว. ครบแล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่จะสามารถโหวตจบในครั้งเดียวได้ หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถรับทราบกรณีความเห็นใดๆ เพราะประธานสภาฯ ต้องวางตัวเป็นกลาง ก็เป็นเรื่องของสมาชิก ส.ว. และเป็นเรื่องของพรรคการเมืองในสภาฯ
ส่วนวันนี้จะมีการแบ่งงานระหว่างประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ หรือไม่นั้น หลังจากที่ตนได้ฟัง วิปของสภาผู้แทนราษฎร จะหารือกับรองประธานสภาทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเรื่องทั่วๆ ไปรวมถึงเรื่องการแบ่งงานให้กับรองประธานสภาทั้งสองคนด้วย
เมื่อถามว่า จะให้รองประธานสภาฯ คนไหนดูเรื่องการพิจารณาบรรจุญัตติ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ต้องมาคุยกัน โดยยึดเอาคำสั่งเก่าๆ มาดู และต้องดูว่ารองประธานสภาฯ ทั้งสองว่าแต่ละคนอยากจะไปดูเรื่องอะไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกัน ประธานสภาฯ ก็อยากจะให้รองประธานสภาฯ ทั้งสองคนสบายใจในเรื่องของการแบ่งงาน เพราะเป็นการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง
เมื่อถามถึงกรณีหากยึดตามหลักการเดิมรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง จะเป็นคนพิจารณาเรื่องการบรรจุญัตติ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นคำสั่งของ ชวน หลีกภัย อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และในสมัยเก่าก็เป็นลักษณะคล้ายกัน ทั้งนี้ ต้องมาคุยกันก่อนตนไม่อยากบอกล่วงหน้า หากรองประธานสภาทั้งสองคน มีความเห็นเป็นอย่างอื่น ก็ต้องมาคุยกัน
เมื่อถามถึง มาตรการรักษาความปลอดภัยในกรณีที่ประชาชนจะมารอฟังการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ตนได้คุยกับผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบไปแล้วทั้งของสภาฯ ฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยได้วางแผนให้รอบคอบที่สุด เรายินดีและจะเปิดพื้นที่บางส่วน บริเวณตรงข้ามถนนทหาร ซึ่งเป็นสถานที่ของ กทม. เนื่องจากบริเวณหน้ารัฐสภามีการก่อสร้างอยู่เกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าสามารถบรรจุคนได้เกือบหมื่นคน โดยทาง กทม. ก็ยินดีให้ใช้ ขอขอบคุณทาง กทม. ในส่วนนี้ด้วย และเราพร้อมบริการอำนวยความสะดวกในเรื่องของห้องน้ำ เต็นท์เนื่องจากเป็นหน้าฝน และคิดว่าหากอยู่ตรงนั้นอาจเพียงพอ ส่วนบริเวณอื่นๆ เจ้าหน้าที่จะจัดการเพื่อให้เกิดความปลอดภัย โดยอาจจะใช้ประกาศ ชุมนุมในที่สาธารณะเป็นหลัก ซึ่งเราจะพยายามไม่ให้มีความรู้สึกระหว่างประชาชนกับสภาฯ เป็นอย่างอื่น แต่เราจะต้องให้การประชุมรัฐสภานั้นสามารถกระทำได้ด้วยความเรียบร้อยเพราะเป็นการประชุมสำคัญ และเพื่อไม่ให้เกิดความวิตกกังวลต่อการเข้าร่วมประชุมของสมาชิกรัฐสภา
“เขาไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรีบเข้ามาและออก เพราะจะเกิดความไม่ปลอดภัย เราห้ามไม่ได้ ฉะนั้นบรรยากาศที่ผมในฐานะประธานสภาฯ จะต้องทราบ เพื่อไม่ให้สมาชิกเกิดความวิตกกังวล เพื่อให้สามารถประชุมและลงมติได้อย่างเต็มที่ และอิสระ รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับสมาชิก ประชาชนที่มา ทั้งนี้ก็คงต้องขอความร่วมมือ เพราะเป็นการประชุมที่สำคัญ และรัฐสภาแห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญของบ้านเมือง แต่เราก็พยายามให้คนที่อยากจะมา ซึ่งหากท่านไม่มาก็สามารถติดตามการถ่ายทอดสดได้ในหลายช่องทางอยู่แล้ว หากฝนตกแดดออก เราก็เตรียมสถานที่ไว้ให้ หากไม่เกินหมื่นคน ซึ่งผมกับทาง กทม. ได้จัดพื้นที่ให้ โดยเป็นบริเวณที่สามารถมองเห็นสภาฯ ได้ชัดเจนกว่าที่อื่น” วันมูหะมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามถึง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะพิจารณาเรื่องหุ้นของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล จะมีผลต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้หรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เรายังไม่สามารถคาดการณ์ได้ เพราะยังไม่เกิดขึ้น
เมื่อถามว่า ข้อเสนอของ ส.ว. ที่บอกว่าหากไม่สามารถโหวตนายกรัฐมนตรีได้ในรอบแรกได้ ขอให้มีการปัดตกชื่อได้มีการคุยกับทางประธานวุฒิสภาแล้วหรือไม่ วันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
จากนั้น วันมูหะมัดนอร์ พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ประชุมร่วมกับนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงรองประธานเลขาฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อแบ่งงานให้กับรองประธานสภาฯ ทั้ง 2 คน