“โนคอมเมนต์” รัวๆ ปมรัฐบาลใหม่

23 พ.ค. 2566 - 07:45

  • ‘บิ๊กตู่’ วอนสื่อฯ หยุดจับจ้องความเคลื่อนไหว

  • ระบุเป็นช่วงที่ต้องช่วยกันรักษาสถานการณ์ให้เป็นปกติมากที่สุด

  • เผยข่าวดี สิงหาคมนี้แนวโน้มราคาพลังงานลดลง

  • พร้อม “โนคอมเมนต์” รัวๆ ปมรัฐบาลใหม่ ชี้ปล่อยเดินตามกระบวนการประชาธิปไตย

Prime-Minister-No-comment-about-new-government-SPACEBAR-Thumbnail
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง โดยการประชุมเสร็จสิ้นลงในเวลา 10.45 น. หลังเริ่มประชุมในเวลาประมาณ 09.53 น. ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางกลับออกไปก่อน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังคงใช้เวลาพูดคุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีคนอื่นพักใหญ่ 

จากนั้น เวลาประมาณ 11.11 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวติงสื่อฯ ถึงการจับตาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ เช่น การมีปัญหากับแว่นตา ในช่วงเช้าที่ผ่านมา  

“รู้สึกจับตาดูทุกอย่างเลยนะ จะเดินอะไรก็ไม่ได้ อะไรหลุดก็ไม่ได้ทำนองนี้ ขอร้องว่าอย่าจุกจิกอะไรกับฉันมากนักเลยนะ ขอร้องเถอะ มันไม่ใช่เรื่อง ไม่ใช่ประเด็น มันจะยิ่งทำให้คนมีความรู้สึกว่ามันแย่มาก ก็ขอร้องแล้วกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องรักษาสถานการณ์ ให้ปกติมากที่สุด ก็ขอร้องกันให้ทุกคนอยู่ในความสงบเรียบร้อย ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนของการตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งเราก็พร้อม และวันนี้ก็ได้มีการย้ำเตือนในเรื่องของผลงานต่างๆ ของรัฐบาล ก็ขอให้มีการเตรียมการไว้ให้ดี ว่ามีรายละเอียดอะไรอย่างไรบ้าง เพราะวันข้างหน้า ก็ต้องมีการส่งต่อให้กับรัฐบาลใหม่อยู่แล้ว เมื่อได้ผ่านกระบวนการและขั้นตอนแล้วทุกขั้นตอนด้วยความเรียบร้อย ซึ่งใครจะเป็นก็แล้วแต่ ซึ่งเราก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่ายังอยู่อีกหลายขั้นตอน ช่วงนี้เราก็เป็นรัฐบาลรักษาการอยู่ ก็มีปัญหาอย่างเดียวคือมาตรา 169 ในเรื่องของการใช้งบประมาณใหม่ ซึ่งขณะนี้ ยังทำไม่ได้ เพราะเป็นภาระผูกพันของรัฐบาลใหม่ นั่นก็คือปัญหาที่เราจะทำเรื่องอะไรใหม่ๆไม่ได้มากนัก เพราะงบประมาณมันไม่มี จำเป็นต้องประสานกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในทุกๆ เรื่อง อย่างเช่น เรื่องค่าไฟที่ผ่านมา เราก็ได้รับความเห็นชอบกลับมาแล้วถึงทำได้ ที่ลดไป 70 สตางค์ ที่ผ่านมา ซึ่งแนวโน้มในเรื่องของสถานการณ์เรื่องพลังงานต่างๆ ก็น่าจะดีขึ้นจากการประเมินในช่วงนี้” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ 

นายกฯ ยังเผยด้วยว่า หลังจากเดือนสิงหาคมไปแล้ว แนวโน้มราคาพลังงานน่าจะลดลง แต่ก็พร้อมที่จะขึ้นได้ตลอดเวลา เนื่องจากยังมีปัจจัยเรื่องของสงคราม อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงพลังงาน จะบริหารเรื่องดังกล่าวอย่างดีที่สุด พร้อมเผยถึงเรื่องแหล่งพลังงานภายในประเทศ โดยเฉพาะก๊าซ ที่อยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านเรื่องของสัญญากับบริษัทเชฟร่อน ซึ่งทาง ปตท. ได้เข้าไปทำแทนแล้ว และอยู่ระหว่างการส่งมอบพื้นที่ หรือเป็นช่วงรอยต่อที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งอาจยังมีปัญหาในทางกฎหมาย และคาดว่ามีแนวโน้มที่จะสามารถนำขึ้นมาใช้ได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปริมาณจำกัด แต่ก็พยายามจะใช้ประโยชน์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นแผนที่ได้วางไว้ 

พล.อ.ประยุทธ์ ยังปฏิเสธให้ความเห็นในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล รวมถึงการพลิกกลับมาจัดตั้งรัฐบาล หรือแม้แต่สเปครัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ของรัฐบาลใหม่ ส่วนการปลุกระดมมวลชนผ่านโซเชียลฯ มาปิดล้อมรัฐสภา หวังกดดัน ส.ว. นั้น พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายกฎหมายดำเนินการอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องสั่งอะไร พร้อมย้ำถึงการปล่อยให้ทุกอย่างเดินตามกระบวนการประชาธิปไตย อะไรจะเกิดขึ้นถือเป็นเรื่องของอนาคต ส่วน ณ วันนี้ ในฐานะรัฐบาลรักษาการณ์ ก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และขอให้บ้านเมืองสงบ อย่าสร้างความขัดแย้ง ก่อนย้ำว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ถึงเรื่องอนาคตทางการเมือง และยืนยันว่า มีมาตรการรองรับ หลังต่างชาติเทขายพันธบัตรจำนวนมาก  
“เขาก็ไม่แน่ใจว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป นั่นคือเรื่องมุมมองของต่างประเทศ แต่เราก็ทำของเราดีที่สุด จะไปบังคับให้เขาขายหรือซื้อมันคงไม่ใช่และไม่ได้ ก็อยู่ที่พวกเราทุกคนจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยเปลี่ยนผ่านไปได้ด้วยดี ความมั่นคงมันก็กลับมาที่เดิม ซึ่งสถาบันการเงินการคลังของเรายังแข็งแรงอยู่ในปัจจุบัน มันอาจจะมีความไม่แน่ใจไม่แน่นอนอยู่ในสถานการณ์ทางการเมืองก็แล้วแต่ ถ้าไม่ช่วยกันทำ วันหน้ามันก็คือปัญหานั่นแหละ” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ   

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่มีปัญหา ในกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 8 ต่อ 1 วินิจฉัยว่า พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 พ.ศ. 2566 ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 172 วรรคหนึ่ง และให้ พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ “ไม่มีผลใช้บังคับ” มาตั้งแต่ต้น (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566) ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 173 วรรคสาม ส่วนวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค. 2566) จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์พายุฝนถล่มที่ ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์