ปราการ ‘ผบ.เหล่าทัพ’ รอรับ ‘เศรษฐา’ เปลี่ยนผ่าน ‘อำนาจ’

24 ส.ค. 2566 - 09:51

  • เรียกว่าเป็น ‘โผทหารส่งท้าย’ ก่อนที่ ‘บิ๊กตู่’ จะพ้นจาก ‘อำนาจ’ ในการจัดแถว ‘กองทัพ’ ตั้ง 4 ผบ.เหล่าทัพ ชุดใหม่ ช่วงเปลี่ยนผ่านอำนาจ จาก ‘บิ๊กตู่’ มาเป็น ‘เศรษฐา’ ผ่านการตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ที่ยังมี ‘ร่างทรง 3ป.’ อยู่

Srettha-Pheuthai-Party-PM-Army-Commander-of-the-army-SPACEBAR-Thumbnail
เรียกว่าเป็น ‘โผทหารส่งท้าย’ ในการแต่งตั้งโยกย้ายนายพล ต.ค.2566 ที่ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมต.กลาโหม ใช้ ‘จังหวะโค้งสุดท้าย’ บ่ายวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการโปรดเกล้าฯ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ เป็นนายกฯ คนที่ 30 ในช่วงเย็น นำประชุมคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล กระทรวงกลาโหม ‘บอร์ด 7 เสือกลาโหม’ โดยการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้เปลี่ยนเก้าอี้ 4 ผบ.เหล่าทัพ ผลัดใบจาก ตท.22 สู่ยุค ตท.23-24 

โดยกองบัญชาการกองทัพไทย ‘บิ๊กอ๊อบ’ พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองผบ.ทหารสูงสุด (ตท.24) บุตรชาย พล.อ.อิสระพงศ์ หนุนภักดี อดีต ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด สำหรับ พล.อ.ทรงวิทย์ เป็น ‘ทหารคอแดง’ ขึ้นเป็น ผบ.ทหารสูงสุด คนที่ 2 โดย พล.อ.ทรงวิทย์ เติบโตมาจาก ร.11 รอ. เป็น ‘ราบ 11 คอนเนกชั่น’ ก่อนโยกออก ทบ. มาเติบโตที่ บก.กองทัพไทย เพราะไม่สามารถขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ได้ เนื่องจากไม่ได้จบ ร.ร.นายร้อย จปร. เพราะจบจาก Virginia Military Institute ที่สหรัฐฯ จึงติด ‘ม่านประเพณี’ ที่ ผบ.ทบ. ต้องจบนายร้อย จปร. 

สำหรับ กองทัพบก ‘บิ๊กต่อ’พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ (ตท.23) รอง ผบ.ทบ. ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. โดย พล.อ.เจริญชัย เติบโตมาจาก ร.21 รอ. เป็นทหารเสือฯ เหมือนกับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นระยะเวลา 8 ปี ที่ทหารสายทหารเสือฯ ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ซึ่งคนล่าสุดคือ ‘บิ๊กโด่ง’ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร อดีต ผบ.ทบ. และเป็นในรอบ 5 ปี ที่ ผบ.ทบ. มาจากสายบูรพาพยัคฆ์ ที่เคยเป็น ผบ.พล.ร. 2 รอ.  

มากันที่ ‘กองทัพอากาศ’ จบที่ชื่อ ‘บิ๊กไก่’ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล (ตท.24) ผู้ช่วย ผบ.ทอ. ขึ้นเป็น ผบ.ทอ. เรียกว่ามาแบบ ‘พลิกโผเดิม’ สำหรับ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี มีอายุราชการอีก 2 ปี ซึ่งเป็นจุดที่ถูกนำมาใช้พิจารณาของ ทอ. ที่ต้องให้ ผบ.ทอ. ดำรงตำแหน่ง 2 ปี เพื่อให้มี ‘ความต่อเนื่อง’ ในการบริหารโครงการต่างๆ โดยเฉพาะการจัดหาเครื่องบินขับไล่ทดแทน หลังสหรัฐฯ ไม่อนุมัติขาย F-35 ให้ไทย  

ซึ่งที่ผ่านมา พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ได้รับมอบหมายให้ดูโครงการสำคัญของ ทอ. เป็นนักบิน F-16  ผู้บังคับฝูงบิน 103 โคราช ผู้บังคับฝูงบิน 403  ตาคลี ผู้บังคับการกองบิน 7 กริฟเพน ผู้ช่วยทูตลอนดอน  ทำงานด้านสายงานกำลังพล ด้านยุทธการ ก่อนมาดำรงตำแหน่ง รองเจ้ากรมยุทธการ ทอ. ขึ้นเจ้ากรมข่าว ทอ. รองเสนาธิการทหารอากาศ ขึ้นเป็น เสธ.ทอ. ช่วงที่ ‘บิ๊กป้อง’ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ เป็น ผบ.ทอ.  

อีกทั้งชื่อ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี ถูกมองว่าจะมา ‘สลายขั้ว’ ภายใน ‘ลูกทัพฟ้า’ ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา 

สำหรับเหล่าทัพที่ถูกจับตาในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ คือ ‘กองทัพเรือ’ ที่ขับเคี่ยวกัน 3 แคนดิเดต ระหว่าง ตท.23-25 ได้แก่ ‘บิ๊กวิน’ พล.ร.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร. (ตท.25) น้องชาย ‘บิ๊กปั๊ด’ พล.ร.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีต ผบ.ตร. ซึ่งถือว่าอาวุโสสูงสุด เพราะติดยศพบเรือเอกก่อนรุ่นพี่ ตท.23 ได้แก่ ‘บิ๊กโอ๋’ พล.ร.อ.ชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสธ.ทร. และ ‘บิ๊กดุง’ พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.กองเรือยุทธการ  

ที่สุดท้ายแล้วเก้าอี้ ผบ.ทร. เป็นของ พล.ร.อ.อะดุง ที่เหลืออายุราชการเพียง 1 ปี ส่วน พล.ร.อ.สุวิน กับ พล.ร.อ.ชลธิศ ยังเหลืออายุราชการคนละ 2 ปี จึงสามารถลุ้นได้ในปีหน้า แต่ในปีหน้าก็จะมี ‘แคนดิเดต ผบ.ทร.’ คนอื่นๆ เข้ามาอีก 

ทั้งหมดนี้เป็น ผบ.เหล่าทัพ ที่จะขึ้นมา ‘คุมกองทัพ’ ในช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล จาก พล.อ.ประยุทธ์ มาสู่ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกฯ คนใหม่ ที่มาจาก ‘พรรคเพื่อไทย’ ผ่านภาพ ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ที่มี ‘พรรคร่างทรง’ ของขั้วอำนาจ ‘3ป.’ อยู่ร่วมรัฐบาลด้วย สิ่งที่ต้องจับตาจากนี้คือ ‘สัมพันธ์’ ระหว่าง ‘กองทัพ-พรรคเพื่อไทย’ จะเป็นอย่างไร รวมทั้ง รมต.กลาโหม คนใหม่ จะเป็นใคร ที่ในเวลานี้มีการระบุว่าเป็น ‘โควต้าส่วนกลาง’ ที่จะนำขึ้นมาพิจารณา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์