ถือเป็น ‘มือใหม่การเมือง’ สำหรับ ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ที่ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี ในการขึ้นเป็น นายกฯ คนที่ 30 จึงเกิดคำถามถึง ‘ความอิสระ’ ในการทำงาน จะพ้นจาก ‘เงาตระกูลชินวัตร’ หรือไม่ เพราะทั้ง ‘ทักษิณ-ชินวัตร’ เปรียบเป็น ‘ผู้นำจิตวิญญาณ’ ของพรรคเพื่อไทย อีกทั้งการเคลื่อนไหวของ ‘ตระกูลชินวัตร’ จะส่งผลต่อเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่
“ผมขอเวลาในการบริหารราชการ และขออีกสัก 6 หรือ 3 เดือน สื่อมาถามอีกที ผมเชื่อว่าผมมีอิสระทางด้านความคิด ไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร หากใครมีข้อมูลดีๆ มีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ผมมาวันนี้รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ใครที่มีข้อมูลหรือการแนะนำที่ดีคนก็รับฟัง” เศรษฐา ชี้แจง
สิ่งที่สำคัญคือ ‘ขุนพล-คีย์แมน’ ข้างกายของ ‘เศรษฐา’ ที่ผสานทั้ง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า - บ้านแจ้งวัฒนะ’ รวมกัน เพราะงานนี้ ‘เพื่อไทย’ ทุ่มหมดหน้าตัก เช่นที่ ‘เศรษฐา’ เคยกล่าวไว้
ขุนพลที่เคียงข้าง ‘เศรษฐา’ เสมือนเป็น ‘เงาตามตัว’ คนหนึ่งคือ ‘เพ้า-จักรพงษ์ แสงมณี’ รมช.การต่างประเทศ ที่เข้ามาพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ปี 52 เคยเป็น กก.บห.เพื่อไทย ทีมหาเสียงของ ‘ยิ่งลักษณ์’ อดีตทีมงาน ‘กิตติรัตน์ ณ ระนอง’ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ต่อมาปี 66 ‘จักรพงษ์’ ทำหน้าที่เลขานุการศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายให้ติดตาม ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ช่วงหาเสียง และเป็น ‘นายทะเบียนพรรค’ ด้วย
‘วิม รุ่งวัฒนจินดา’ อดีตมือทำงานข้างกาย ‘ยิ่งลักษณ์’ ปรากฏกายช่วงที่ ‘เศรษฐา’ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ซึ่ง ‘วิม’ เคยเป็น กก.บห. อดีตพรรคไทยรักษาชาติ ยังอยู่ระหว่างตัดสิทธิการเมือง 10 ปี ย้อนไปไกลกว่านั้นยุค รบ.ยิ่งลักษณ์ เคยเป็นโฆษก ศปภ. ช่วงน้ำท่วมใหญ่ เคยเป็นเลขานุการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าฝ่ายประสานงานและเผยแพร่นโยบายรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ (โฆษกเศรษฐกิจ)
ทีม ‘นักรบห้องแอร์’ ที่เป็นขุนพลมาตั้งแต่ยุค ‘ไทยรักไทย’ ได้แก่ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ กลุ่มคนเดือนตุลา ในขั้วทักษิณ เคยเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ประจำสำนักประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือชินวัตร ช่วงปี 2540-41 เคยเป็นรองเลขาธิการ พรรคไทยรักไทย ถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี ก่อนกลับเข้าสู่พรรคเพื่อไทย ซึ่งในการตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ครั้งนี้ ‘ภูมิธรรม’ มีบทบาทอย่างมาก จนได้รับปูนบำเหน็จเป็น รองนายกฯ คนที่ 1 ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ หาก ‘เศรษฐา’ ไม่อยู่ในประเทศ และควบ รมต.พาณิชย์
นอกจากนี้ คือ ‘หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช’ ประธานกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย หนึ่งในนักรบห้องแอร์ คนเดือนตุลา หวนคืนสู่ทำเนียบฯ ในรอบ 17 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็น ‘เลขาธิการนายกฯ’ ที่เปรียบเป็น ‘นายกฯ น้อย’ เป็นคนที่โลว์โปร์ไฟล์ ไม่ค่อยเดินข้างนายกฯ แต่จะเดินหลบมุม ซึ่ง นพ.พรหมินทร์ เคยเป็น เลขาธิการ นายกฯ สมัย รบ.ทักษิณ ที่โดนรัฐประหาร 2549 พ้นตำแหน่งกลางอากาศ ที่สำคัญ ‘หมอมิ้ง’ เป็น 1 ใน 3 คน ที่ได้ถือ ‘เอกสารต้านปฏิวัติ’ ช่วงปี 2549 ที่เริ่มมีสัญญาณทำรัฐประหาร อีกคน 2 คือ ทักษิณ และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ สะท้อนถึง ‘ความไว้ใจ’
การที่ ‘หมอมิ้ง’ มาเป็น เลขาฯ ข้างกาย ‘เศรษฐา’ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของ ‘เศรษฐา’ มีความคล้าย ‘ทักษิณ’ โดย ‘หมอมิ้ง’ ระบุว่า ทั้งคู่เหมือนกันตรงที่ทำงานเร็ว - ทำงานเยอะ
นอกจากนี้มีอดีตขุนพล ‘ไทยรักษาชาติ’ ที่เป็น ‘คนรุ่นใหม่’ เช่น ‘ป๋อม’ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช , ‘เอิง’คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิท ‘แพทองธาร’ ตั้งแต่เรียนที่ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ , ต้น ณ ระนอง ลูกชาย ‘กิตติรัตน์’ รองนายกฯ และรมต.พาณิชย์ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ , ‘แซน’ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ลูกสาว ‘เยาวเรศ ชินวัตร’ น้องสาว ‘ทักษิณ’ ที่มาเป็นทีมงานของ ‘เศรษฐา’ ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็น ‘ขุนพล’ ข้างกาย ‘เศรษฐา’ ที่ได้หวนคืน สู่ ‘ทำเนียบรัฐบาล’ อีกครั้ง ในวันที่ ‘ทางลมอำนาจ’ เปลี่ยนแปลง ภายใต้ ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ และการหย่าศึก ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า-บ้านแจ้งวัฒนะ’ ที่เคยถูกเปรียบว่าเป็น ‘ศึกสายน้ำผึ้ง’ มาก่อนหน้านี้
“ผมขอเวลาในการบริหารราชการ และขออีกสัก 6 หรือ 3 เดือน สื่อมาถามอีกที ผมเชื่อว่าผมมีอิสระทางด้านความคิด ไม่ใช่แค่ครอบครัวชินวัตร หากใครมีข้อมูลดีๆ มีเรื่องราวดีๆ ที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ผมมาวันนี้รัฐบาลนี้ทำงานเพื่อประชาชน อะไรที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ใครที่มีข้อมูลหรือการแนะนำที่ดีคนก็รับฟัง” เศรษฐา ชี้แจง
สิ่งที่สำคัญคือ ‘ขุนพล-คีย์แมน’ ข้างกายของ ‘เศรษฐา’ ที่ผสานทั้ง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า - บ้านแจ้งวัฒนะ’ รวมกัน เพราะงานนี้ ‘เพื่อไทย’ ทุ่มหมดหน้าตัก เช่นที่ ‘เศรษฐา’ เคยกล่าวไว้
ขุนพลที่เคียงข้าง ‘เศรษฐา’ เสมือนเป็น ‘เงาตามตัว’ คนหนึ่งคือ ‘เพ้า-จักรพงษ์ แสงมณี’ รมช.การต่างประเทศ ที่เข้ามาพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่ปี 52 เคยเป็น กก.บห.เพื่อไทย ทีมหาเสียงของ ‘ยิ่งลักษณ์’ อดีตทีมงาน ‘กิตติรัตน์ ณ ระนอง’ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ต่อมาปี 66 ‘จักรพงษ์’ ทำหน้าที่เลขานุการศูนย์ปฏิบัติการการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ได้รับมอบหมายให้ติดตาม ‘เศรษฐา ทวีสิน’ ช่วงหาเสียง และเป็น ‘นายทะเบียนพรรค’ ด้วย
‘วิม รุ่งวัฒนจินดา’ อดีตมือทำงานข้างกาย ‘ยิ่งลักษณ์’ ปรากฏกายช่วงที่ ‘เศรษฐา’ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ซึ่ง ‘วิม’ เคยเป็น กก.บห. อดีตพรรคไทยรักษาชาติ ยังอยู่ระหว่างตัดสิทธิการเมือง 10 ปี ย้อนไปไกลกว่านั้นยุค รบ.ยิ่งลักษณ์ เคยเป็นโฆษก ศปภ. ช่วงน้ำท่วมใหญ่ เคยเป็นเลขานุการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าฝ่ายประสานงานและเผยแพร่นโยบายรัฐบาล ด้านเศรษฐกิจ (โฆษกเศรษฐกิจ)
ทีม ‘นักรบห้องแอร์’ ที่เป็นขุนพลมาตั้งแต่ยุค ‘ไทยรักไทย’ ได้แก่ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ กลุ่มคนเดือนตุลา ในขั้วทักษิณ เคยเป็น ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ประจำสำนักประธานบริหารกลุ่มบริษัทในเครือชินวัตร ช่วงปี 2540-41 เคยเป็นรองเลขาธิการ พรรคไทยรักไทย ถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปี ก่อนกลับเข้าสู่พรรคเพื่อไทย ซึ่งในการตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ครั้งนี้ ‘ภูมิธรรม’ มีบทบาทอย่างมาก จนได้รับปูนบำเหน็จเป็น รองนายกฯ คนที่ 1 ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ หาก ‘เศรษฐา’ ไม่อยู่ในประเทศ และควบ รมต.พาณิชย์
นอกจากนี้ คือ ‘หมอมิ้ง-นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช’ ประธานกรรมการนโยบาย พรรคเพื่อไทย หนึ่งในนักรบห้องแอร์ คนเดือนตุลา หวนคืนสู่ทำเนียบฯ ในรอบ 17 ปี ได้รับแต่งตั้งเป็น ‘เลขาธิการนายกฯ’ ที่เปรียบเป็น ‘นายกฯ น้อย’ เป็นคนที่โลว์โปร์ไฟล์ ไม่ค่อยเดินข้างนายกฯ แต่จะเดินหลบมุม ซึ่ง นพ.พรหมินทร์ เคยเป็น เลขาธิการ นายกฯ สมัย รบ.ทักษิณ ที่โดนรัฐประหาร 2549 พ้นตำแหน่งกลางอากาศ ที่สำคัญ ‘หมอมิ้ง’ เป็น 1 ใน 3 คน ที่ได้ถือ ‘เอกสารต้านปฏิวัติ’ ช่วงปี 2549 ที่เริ่มมีสัญญาณทำรัฐประหาร อีกคน 2 คือ ทักษิณ และ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ สะท้อนถึง ‘ความไว้ใจ’
การที่ ‘หมอมิ้ง’ มาเป็น เลขาฯ ข้างกาย ‘เศรษฐา’ จึงทำให้ภาพลักษณ์ของ ‘เศรษฐา’ มีความคล้าย ‘ทักษิณ’ โดย ‘หมอมิ้ง’ ระบุว่า ทั้งคู่เหมือนกันตรงที่ทำงานเร็ว - ทำงานเยอะ
นอกจากนี้มีอดีตขุนพล ‘ไทยรักษาชาติ’ ที่เป็น ‘คนรุ่นใหม่’ เช่น ‘ป๋อม’ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช , ‘เอิง’คณาพจน์ โจมฤทธิ์ เพื่อนสนิท ‘แพทองธาร’ ตั้งแต่เรียนที่ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ , ต้น ณ ระนอง ลูกชาย ‘กิตติรัตน์’ รองนายกฯ และรมต.พาณิชย์ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ , ‘แซน’ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ลูกสาว ‘เยาวเรศ ชินวัตร’ น้องสาว ‘ทักษิณ’ ที่มาเป็นทีมงานของ ‘เศรษฐา’ ด้วย
ทั้งหมดนี้เป็น ‘ขุนพล’ ข้างกาย ‘เศรษฐา’ ที่ได้หวนคืน สู่ ‘ทำเนียบรัฐบาล’ อีกครั้ง ในวันที่ ‘ทางลมอำนาจ’ เปลี่ยนแปลง ภายใต้ ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ และการหย่าศึก ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า-บ้านแจ้งวัฒนะ’ ที่เคยถูกเปรียบว่าเป็น ‘ศึกสายน้ำผึ้ง’ มาก่อนหน้านี้