ถอดรหัส ‘หัวใจสีม่วง’ ของ ‘ประยุทธ์’ ผู้เชื่อว่าคนใกล้ตายจะไม่โกหก

“ผมเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก แต่เป็นคนจริงใจ ฉะนั้นเราจะต้องมีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ผมมีหัวใจสีม่วง วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกพูดให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่เพราะเคยเป็นทหารมาก่อน กรมทหารคือมีสัญลักษณ์หัวใจสีม่วง ต้องถามหมอเหรียญทองอีกที คำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร หัวใจของคนใกล้ตาย” 

นี่คือคำพูดของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่กล่าวไว้ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมกับการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส. 400 เขตทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566  

วันเดียวกันนั้น รวมไทยสร้างชาติยังเปิดตัว พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคด้วย และเป็นโอกาสที่ พล.อ. ประยุทธ์ จะตอกย้ำความเป็นตัวตนของตน ในฐานะทหารเก่า ในฐานะนายกฯ คนปัจจุบัน และในฐานะหนึ่งในผู้แย่งชิงอำนาจแห่งอนาคต

หัวใจทหารเสือราชินี 

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะทหารอาชีพเคยเป็น ‘ทหารเสือราชินี’ มาก่อน ทหารเสือราชินีคือสมญานามของกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง (ร.21 รอ.) และตราประจำกรมคือรูปหัวใจสีม่วงที่อยู่เบื้องหลังตราพระนามาภิไธยย่อ ส.ก. (สิริกิติ์)  

ดังนั้น หัวใจสีม่วงที่ พล.อ. ประยุทธ์ เอ่ยก็คือหัวใจม่วงของทหารเสือราชินีนี่เอง อย่างที่เจ้าตัวบอกเองว่า “กรมทหารคือมีสัญลักษณ์หัวใจสีม่วง” 

นายทหารที่ชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผูกพันกัน ‘กรมทหาร’ แห่งนี้อย่างลึกซึ้ง เพราะเขาเติบใหญ่และไต่เต้าขึ้นมาจากกหน่วยนี้  

เริ่มจากผู้บังคับหมวดปืนเล็กกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์, ผู้บังคับกองร้อย, ผู้บังคับการกองพัน, ขยับขึ้นมาเป็นเสนาธิการกรม, เป็นรองผู้บังคับการกรม และเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ในที่สุด 

เขาจึงเป็นทหารเสือราชินีหัวใจสีม่วงตั้งแต่เริ่มอาชีพจนถึงจุดสูงสุดในกรม 

หัวใจของคนตาย 

ในหนังสือ ‘เส้นทางพยัคฆ์ ประยุทธ์ จันทรโอชา’ (สำนักพิมพ์มติชน, 2557, หน้า 77) ของวาสนา นาน่วม ผู้สื่อข่าวสายทหารที่มีชื่อเสียงได้อธิบายความหมายของหัวใจสีม่วงเอาไว้ว่า  

“โดยเฉพาะ ‘หัวใจสีม่วง’ ประดับพระนามาภิไธยย่อ สก. นั้น ทรงให้คำอธิบายไว้ว่าหมายถึงผู้บริสุทธิ์ ซื่อสัตย์ สุจริต และจริงใจ เพราะผู้ที่ใกล้ตายหัวใจจะกลายจากสีแดงเป็นสีม่วง ในห้วงเวลานั้นบุคคลนั้นจะไม่พูดปดหรีอปิดบังสิ่งใดๆ" 

ดังนั้น ในคำพูดเดียวกัน พล.อ. ประยุทธ์ ยังบออกด้วยว่า “ต้องถามหมอเหรียญทองอีกที คำว่าหัวใจสีม่วงคืออะไร หัวใจของคนใกล้ตาย" 

หมอเหรียญทองในที่นี่คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก พล.ต. นพ. เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ผู้ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในฐานะผู้สนับสนุนแนวคิดปกป้องสถาบันหลักของชาติ

คนตายไม่พูดโกหก 

คำอธิบายนี้ตรงกับคำกล่าวของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่บอกว่า “วันนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาโกหกพูดให้ตัวเองดูดี" และย้ำว่าตัวเขามีหัวใจของคนที่ใกล้ตาย ย่อมหมายความว่าจะไม่โกหกหลอกลวง  

ย้อนกลับไปตอนที่ พล.อ. ประยุทธ์ รับตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกใหม่ๆ นิตยสาร Positioning มีรายงานพิเศษเรื่อง ‘พลโทประยุทธ์ จันทร์โอชา แม่ทัพฯ หัวใจสีม่วง’ ในรายงานอ้างคำพูดของเพื่อนเตรียมทหารรุ่น 12 ของ พล.อ. ประยุทธ์ ที่บอกว่า “ตู่ ... ไม่หักหลังคนอื่น มีแต่คนที่จะหลอกมัน” 

จนทุกวันนี้ ผู้ชายชื่อตู่ก็ยังยืนยันว่าเขาไม่เคยโกหก และไม่ชอบการโกหก 

แม้แต่ในสถานการณ์คอขาดบาดตาย ก่อนการทำรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 บิ๊กตู่ก็พยายามพูดบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอดเรื่องการทำรัฐประหาร  

ไม่เคยยืนยันว่าจะไม่ทำ ไม่เคยบอกว่าจะไม่ทำ …ถ้าการพูดนั้นไม่มีเงื่อนไขเวลากำกับ 

สีม่วงในหัวใจบิ๊กตู่ 

หากไม่นับความเป็นทหารเสือราชินีเก่าแล้ว ดูเหมือน พล.อ. ประยุทธ์ จะหลงไหลในสีม่วงเป็นพิเศษ อย่างที่เคยบอกว่า “ใครบอกว่าผมเกลียดสีแดง ผมไม่เคยพูดนะ แต่ผมชอบสีม่วง สวยมาก” แม้จะพูดถึงขนาดนี้ แต่ในกองทัพบกมักตกแต่งด้วยสีม่วง และหลีกเลี่ยงสีแดงเพื่อให้บิ๊กตู่อารมณ์ดี (จากหนังสือ ‘ลับ ลวง พราง: ภาค 5. ศึกชิงอํานาจผ่าแผนปฏิวัติเลือด’, สำนักพิมพ์มติชน, 2558 หน้า 202) 

เขาพูดคำนั้นออกมาในช่วงเวลาที่รับใช้ชาติในฐานะผู้บัญชาการทหารบก และในช่วงเวลาที่ตอนนั้นคือ ‘รัฐบาลเสื้อแดง’ ที่นำโดย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 

เราจึงรู้ว่าสีม่วงเป็นสีโปรดของ พล.อ. ประยุทธ์ มาแต่ไหนแต่ไร อาจเพราะเป็นสีประจำกรมกองที่เขาเป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา อาจเกี่ยวข้องกับความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เรายังควรทราบว่า พล.อ. ประยุทธ์ เกิดวันเสาร์ และสีประจำวันเสาร์ก็ยังเป็นสีม่วง

หัวใจของผู้นำ 

หัวใจสีม่วง (Purple Heart) ยังเป็นชื่อของเหรียญกล้าหาญที่ประธานาธิบดีสหรัฐจะมอบให้กับทหารที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตขณะกำลังปฏิบัติหน้าที่  

มีคำอธิบายที่แตกต่างกันเรื่องสีของม่วงของเหรียญกล้าหาญ บางแหล่งข้อมูลบอกว่าสีม่วงเป็นสีแห่งความกล้าหาญ บางแหล่งข้อมูลบอกว่าเพราะครั้งแรกที่มีการมอบเหรียญนี้ คือการมอบให้กับจอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐ และมีการผูกเหรียญกับริบบิ้นสีม่วง  

การใช้ริบบี้สีม่วงมอบให้กับ วอชิงตัน เพื่อแสดงถึงความสูงส่งและอำนาจบารมี เพราะในขนบวัฒนธรรมตะวันตก สีม่วงคือสีของผู้ปกครอง มีแต่ผู้นำเท่านั้นที่ครอบครองวัตถุสีม่วงได้ 

เพราะในสมัยโบราณ สีม่วงจากเมืองไทร์ (Tyrian purple) ในดินแดนเลบานอน จะสกัดจากหอยที่หาได้ยากแถบทะเลเมดิเตอเรเนี่ยน สีม่วงที่สกัดมาได้จะนำมาย้อมเสื้อผ้าของชนชั้นสูงระดับกษัตริย์หรือจักรพรรดิเท่านั้น  

สีม่วงกับเลข1, 2 และ 3 

จากบันทึกโบราณระบุว่า กว่าจะได้สีม่วงแค่ 1.4 กรัมจะต้องมีหอย “ล้มตายกว่า 12 พัน เกลื่อนชายฝั่งเมืองไทร์” 

ในบันทึกโบราณใช้คำว่า “12 พัน” (Twelve thousand) นับแบบไทยก็คือ 12,000 สีม่วงของผู้นำจึงผูกกับเลข 1 และ 2 อยู่กลายๆ  

เป็นเรื่องบังเอิญ ที่ชีวิตของ พล.อ. ประยุทธ์ก็ผูกอยู่กับเลข 1 2 และ 3 มาตลอดชีวิต 

เขาเกิดวันที่ 21 เดือน 3 จบเตรียมทหาร รุ่นที่ 12 จปร. รุ่นที่ 23 ไต่เต้าขึ้นมาใน ร.21 พัน 2 รอ. หรือ ‘ทหารเสือราชินี’ ต่อมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 และหมายเลข 1 ของกองทัพบกในฐานะผู้บัญชาการทหารบก  

จนกระทั่ง ผบ.ทบ. หัวใจสีม่วงคนนนี้ก่อรัฐประหารในวันที่ 22