ฟังเสียงคนไทย ‘พิธา’ VS ‘พลเอกประยุทธ์’ คนหนึ่งมาแรง อีกคนไม่เคยแผ่ว

‘พิธา’ มาแรงมาก! (แต่ 'พลเอกประยุทธ์' ก็ไม่แผ่ว) 
 
กระแสในโลกโซเชียลมีเดียจาก Social Listening ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (18-24 เมษายน) บอกเราเช่นนั้น 
 
แม้ว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล จะกล่าวในคืนวันปราศรัยใหญ่ (22 เมษายน) ณ สามย่านมิตรทาวน์ว่า ไม่ใช่นายกฯ โซเชียล แต่คนรุ่นใหม่ที่เป็นกลุ่มโซเชียลมีเดียแอคทีฟดูจะส่งเสียงถึงพิธาดังมากกว่าทุกคน

ชีพจรของพิธาบนโลกโซเชียลเริ่มเต้นแรงตั้งแต่วันพุธที่แล้ว (19 เมษายน) แซงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มาแรงแซงทุกคนในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา หลัง ‘ลุงตู่’ ตัดสินใจสวมเสื้อลายดอก ถือกระบอกฉีดน้ำ บุกถนนข้าวสาร เล่นน้ำท่ามกลางฝูงชน พร้อมลงพื้นที่หาเสียงตลาดบองมาเช่และตลาดนัดจตุจักร (อ่านเพิ่มเติม: ฟังเสียงคนไทย แคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกพูดถึงมากสุดช่วงสงกรานต์) 
 
กระแสพิธาในโลกโซเชียลในสัปดาห์นี้ กับกระแสพลเอกประยุทธ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีจุดร่วมเหมือนกันคือเกิดจากเหตุการณ์และคอนเทนต์ (ปั่นๆ) ที่ชวนให้คนอยากพูดถึงและเอ็นเกจ 
 
SPACEBAR พบว่าจุดที่ทำให้ชีพจรโซเชียลของพิธาเต้นแรงมาจาก 2 เหตุการณ์ 

เหตุการณ์แรก: กรรมกรข่าว เปิดอกคุย (20 เมษายน) 

สรยุทธ สุทัศนะจินดา ยังคงเป็นแม่เหล็กรายการ Hard Talk ในช่วงเลือกตั้ง 66 เนื้อหาสาระสัมภาษณ์เข้มข้น คำถามแทนใจประชาชน ส่วนคำตอบของพิธาก็ตอบตรงไปตรงมาสไตล์พรรคก้าวไกล 
 
ประเด็นที่คนสนใจและพูดถึงมากในโลกโซเชียล คือคำตอบของพิธาที่เกี่ยวกับเรื่องรัฐประหาร 
 
“คุณพ่อผมเสียชีวิตในคืนรัฐประหาร 2549 ผมอยู่กับนายกฯ ทักษิณที่นิวยอร์ก ผมบินกลับมาที่กองทัพอากาศ งานศพพ่อผมคืนแรกก็ไปไม่ได้ เพราะถูกกักตัวในกองทัพ คืนแรกผมไปไม่ได้ เค้ารื้อคอมฯ ผม เค้าทำผมทุกอย่าง แล้วผมไม่มีเงินจ่ายค่าทำศพพ่อ เพราะโดนแช่แข็งบัญชี ผมไปที่ธนาคารจะไปเบิกเงินมาจ่ายค่าทำศพพ่อตัวเอง ผมยังทำไม่ได้เลย ต้องยืมเงินคนอื่น มาจ่ายค่าทำศพคุณพ่อ” 

เหตุการณ์ที่สอง: ก้าวไกลปราศรัยใหญ่ ‘ทัพใหญ่ก้าวไกล ปราศรัยโค้งสุดท้าย’ ณ สามย่านมิตรทาวน์ (22 เมษายน) 

ภาพแสงไฟจากมือถือส่องสว่างเต็มลานสามย่านมิตรทาวน์ ประชาชนมาฟังปราศรัยกันเนื่องแน่น แกนนำพรรคและตัวละครสำคัญขึ้นพูดปราศรัย ภาพและคลิปในคืนวันนั้นถูกแชร์เต็มฟีดโซเชียลและโลกออนไลน์ 
 
“มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” คำประกาศจุดยืนที่ชัดเจนตรงไปตรงมาของพิธา เป็นหนึ่งใน Quote of The Day ที่สื่อมวลชนและชาวเน็ตแชร์เต็มโลกออนไลน์ 
 
เหตุการณ์นี้ส่งผลให้ชีพจรโซเชียลของพิธาในวันนั้นพุ่งสูงจุดสูงสุด (298,000 mentions) ทิ้งห่างแคนดิเดตที่มีกระแสอันดับรองลงอย่างพลเอกประยุทธ์ (69,010 mentions) ถึง 4 เท่า และแพทองธาร ชินวัตร (3,400 mentions) ไปไกลลิบ 

กระแส ‘ลุงตู่’ แรงสม่ำเสมอ ‘อุ๊งอิ๊ง’ แผ่วผิดคาด 

ชีพจรโซเชียลของพิธาดูหวือหวาเร้าใจ แต่จุดที่น่าสนใจกว่าคือ ชีพจรโซเชียลของพลเอกประยุทธ์ที่เต้นแรงสม่ำเสมอ มีความเสถียร และเป็นที่พูดถึง (ทั้งเชิงลบและเชิงบวก) อยู่ตลอดเวลา

จนกระทั่งวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 เมษายน) ชีพจรโซเชียลของพลเอกประยุทธ์กลับขึ้นมานำอีกครั้ง หลังกระแสปราศรัยใหญ่เริ่มซา ชีพจรพิธาเต้นแผ่วลง 
 
วันนั้นพลเอกประยุทธ์ลงพื้นที่ปราศรัยที่จังหวัดอุดรธานี 3 เวที พูดหาเสียงเปรียบเทียบตัวเองเป็นกัปตันขับเครื่องบิน แม้จะแก่ แต่ก็มีชั่วโมงบินสูง 
 
“กัปตันเค้าเป็นคนควบคุมคอนโทรล เพราะฉะนั้นกัปตันจะไม่ค่อยมีหนุ่มๆ เท่าไหร่ มันจะมีแก่ๆ แบบนี้” (ชี้ตัวเอง) 
 
“คุณจะขึ้นเครื่องบินที่นักบินมีประสบการณ์อย่างผม หรือจะขึ้นอย่างวัยรุ่นที่มาขับเครื่องบินน่ะ ยังไงก็ถึงที่หมาย เพราะว่าประสบการณ์มี อยู่มาตั้งหลายปี รู้ปัญหาทุกคน”

ขณะที่กระแสในโลกโซเชียลของแพทองธารสัปดาห์ที่ผ่านมาแผ่วกว่าที่คาด แม้ชีพจรของเธอจะกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในวันปราศรัยที่เขตดอนเมือง (23 เมษายน) เพื่อทิ้งทวนก่อนขอลาคลอด แต่ก็ไม่ได้เต้นหวือหวาเท่ากับคำว่า ‘แลนด์สไลด์’ 
 
เป็นไปได้หรือไม่ว่าพรรคเพื่อไทยมีตัวละครหลายหน้า ความสนใจจึงถูกแบ่งสรรปันส่วนไปที่แคนดิเดตคนอื่น และตัวพรรค แทนที่จะเป็นอุ๊งอิ๊งหรือใครคนใดคนหนึ่ง

ทั้งหมดนี้คือกระแสจาก Social Listening ของ SPACEBAR ที่เราได้ยินในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่สะท้อนว่า ‘ใคร’ ถูกพูดถึง (mentions) มากน้อยเท่าไหร่ แต่จำนวนดังกล่าวอาจไม่ได้สะท้อนความนิยม มากกว่ากระแสและความสนใจในช่วงเวลานั้นของคนกลุ่มหนึ่งที่แอคทีฟในโลกออนไลน์ 
 
มาติดตามกันว่า ในช่วงโค้งสุดท้าย แคนดิเดตคนไหนจะมาแรงช่วงชิง ‘แสง’ ในโลกออนไลน์ได้มากกว่ากัน 
 
อย่าลืมว่าแสงช่วยให้ถูกมองเห็น และอาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจสำหรับคนที่ยังลังเล 
 
โดยเฉพาะในยุคนี้ที่คนติดตามการเมืองผ่านโลกโซเชียล และแชร์ข่าวกันผ่านกรุ๊ปไลน์!