#ทักษิณกลับบ้าน เป็นประเด็นที่ไม่เคยหายไป ตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549
“...ผมตัดสินใจอยากกลับเมืองไทย เพราะว่าคุณหญิงรับภาระแทนผมไว้เยอะ สงสารเขา” ทักษิณเผยความในใจในหนังสือ Thaksin Shinawatra: Theory and Thought เล่มล่าสุด ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2565)
ตัวเลขราคาและจำนวนพิมพ์ครั้งแรก ซ้อนนัยยะเกี่ยวกับวันเดือนปีเกิดของทักษิณ
ราคา 726 คือ 26 กรกฎาคม
จำนวนพิมพ์ 2,492 คือ ปี พ.ศ. เกิด
ล่าสุด (9 พฤษภาคม) ตัวเลขดังกล่าวกลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เมื่อทักษิณทวีตประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันเกิดปีนี้
“...ผมตัดสินใจอยากกลับเมืองไทย เพราะว่าคุณหญิงรับภาระแทนผมไว้เยอะ สงสารเขา” ทักษิณเผยความในใจในหนังสือ Thaksin Shinawatra: Theory and Thought เล่มล่าสุด ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้ว (พ.ศ.2565)
ตัวเลขราคาและจำนวนพิมพ์ครั้งแรก ซ้อนนัยยะเกี่ยวกับวันเดือนปีเกิดของทักษิณ
ราคา 726 คือ 26 กรกฎาคม
จำนวนพิมพ์ 2,492 คือ ปี พ.ศ. เกิด
ล่าสุด (9 พฤษภาคม) ตัวเลขดังกล่าวกลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง เมื่อทักษิณทวีตประกาศจะเดินทางกลับประเทศไทยก่อนวันเกิดปีนี้
ต่อมาเวลา 10.26 น. ทักษิณทวีตข้อความเพิ่มเติมในรายละเอียดว่า การกลับมาของเขาจะไม่เป็นภาระพรรคเพื่อไทย พร้อมเข้าสู่กระบวนการกฎหมายภายใต้รัฐบาลรักษาการของพลเอกประยุทธ์
และย้ำว่า “ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเอง ด้วยความรักผูกพันกับครอบครัว แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”
และย้ำว่า “ทั้งหมดคือการตัดสินใจของผมเอง ด้วยความรักผูกพันกับครอบครัว แผ่นดินเกิดและเจ้านายของเรา”
หากย้อนดูทวิตเตอร์ของทักษิณ จะพบว่าเขาสื่อสารเรื่องการกลับบ้านผ่านการทวีตสามครั้งล่าสุด คล้ายจะแสดงความปรารถนาและส่งสัญญาณให้รู้ว่า ‘กลับจริง’
จุดเริ่มต้นในการทวีตกลับบ้านของทักษิณเกิดขึ้นหลังแพทองธารคลอดลูกชาย ‘ธาษิณ’ หลานคนที่ 7 เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยทักษิณบอกว่า “ผมอายุจะ 74 ปีแล้ว” และย้ำอีกครั้งในทวีตล่าสุด “ผมก็แก่แล้วครับ”

การกลับบ้านของทักษิณเป็นเรื่องที่ไม่เคยหายไป ตั้งแต่เขาถูกรัฐประหาร พ.ศ.2549 ตอนนั้นทักษิณอายุ 57 ปี แม้จะเคยกลับมาช่วงสั้นๆ เมื่อ พ.ศ.2551 เพื่อรายงานตัวในคดีทุจริตที่ดินย่านรัชดาภิเษก ก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง และไม่เคยกลับมาอีกเลย
1,780,000 คือจำนวนผลการค้นหาในกูเกิ้ล เมื่อพิมพ์ ทักษิณ ชินวัตร
ตัวเลขผลการค้นหาข้างต้นสะท้อนว่า ประเด็นการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงและให้ความสนใจไม่น้อยในโลกอินเทอร์เน็ต
มีทั้งคนที่เห็นด้วยและคัดค้าน และเมื่อใดที่ทักษิณหรือใครจุดประเด็นนี้ขึ้นมา เหมือนการโยนฟืนเข้ากองไฟที่ไม่เคยมอด
ไม่ช้าเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องร้อนที่สื่อและสังคมไทยให้ความสนใจ
‘กลับบ้าน’ เรื่องที่ใหญ่กว่าตัวทักษิณ
3,550,000 คือจำนวนผลการค้นหาในกูเกิ้ล เมื่อพิมพ์ ทักษิณ กลับบ้าน1,780,000 คือจำนวนผลการค้นหาในกูเกิ้ล เมื่อพิมพ์ ทักษิณ ชินวัตร
ตัวเลขผลการค้นหาข้างต้นสะท้อนว่า ประเด็นการกลับบ้านของทักษิณ ชินวัตร เป็นเรื่องที่มีคนพูดถึงและให้ความสนใจไม่น้อยในโลกอินเทอร์เน็ต
มีทั้งคนที่เห็นด้วยและคัดค้าน และเมื่อใดที่ทักษิณหรือใครจุดประเด็นนี้ขึ้นมา เหมือนการโยนฟืนเข้ากองไฟที่ไม่เคยมอด
ไม่ช้าเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องร้อนที่สื่อและสังคมไทยให้ความสนใจ

คำขาดคุณหญิงพจมาน “หากกลับเมืองไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เราขาดกัน”
บทสัมภาษณ์ คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร ในหนังสือ Thaksin Shinawatra: Theory and Thought พูดถึงการกลับบ้านว่าเป็นหนึ่งในความปรารถนาของอดีตสามีคุณทักษิณให้สัมภาษณ์ว่า “เวลามองกระจกแล้วเห็นคุณหญิง รู้สึกสงสารคุณหญิง” คิดว่าทำไมคุณทักษิณถึงรู้สึกแบบนั้น เพราะอะไร?
(ยิ้ม) “ไม่รู้เหมือนกัน เพราะคำพูดที่เคยเตือน แล้วท่านคงจำได้ดี และตอนนี้ท่านคงเข้าใจแล้ว และคงรู้สึกเศร้า และท่านคงอยากจะกลับมาเลี้ยงหลาน เป็นตายาย ปู่ย่า เหมือนครอบครัวปกติ”
และ “...แต่คุณตาจะได้กลับมาเห็นความเติบโตของหลานไหม ก็แอบคิดว่าคงมีสักวันแน่นอนที่หลานๆ ทุกคนจะได้อยู่พร้อมหน้ากับคุณตาอันเป็นที่รัก”

คุณหญิงพจมานและคนในครอบครัวชินวัตรรู้มาเสมอว่า การกลับบ้านคือสิ่งที่ทักษิณปรารถนา แต่ครั้งหนึ่งคุณหญิงพจมานก็เคยยื่นคำขาดไม่ให้เขากลับบ้าน
เอม-พิณทองทา ลูกสาวคนแรกให้สัมภาษณ์ในหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ (ตีพิมพ์ พ.ศ.2552) ว่า ในช่วงแรกที่ลี้ภัยอยู่อังกฤษ ทักษิณอยากกลับบ้านมาก แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองในช่วงนั้น แม่ไม่อนุญาตให้พ่อกลับ
“เอมอยู่กับพ่อ วันนั้นไม่รู้ว่าพ่อจะอยู่อังกฤษได้ถึง 2 เดือนหรือเปล่า ต้องกลับเมืองไทยแน่เลย แต่พ่อก็อยู่ได้ปีกว่าๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแม่ยื่นคำขาดว่า 'หากกลับเมืองไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เราขาดกัน เราเป็นหุ้นส่วนชีวิตกัน ถ้าเธอไม่ฟังแล้วกลับเมืองไทย ทุกอย่างตรงนั้นมันจบ' แม่ห่วงพ่อมาก คุยกับเอมตลอดเวลา กลัวว่าพ่อจะแอบหนีเข้าเมืองไทยด้วยอุดมการณ์แรงกล้า แม่พยายามดึงให้พ่อไม่กลับ...”
เอม-พิณทองทา ลูกสาวคนแรกให้สัมภาษณ์ในหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ (ตีพิมพ์ พ.ศ.2552) ว่า ในช่วงแรกที่ลี้ภัยอยู่อังกฤษ ทักษิณอยากกลับบ้านมาก แต่ด้วยสถานการณ์การเมืองในช่วงนั้น แม่ไม่อนุญาตให้พ่อกลับ
“เอมอยู่กับพ่อ วันนั้นไม่รู้ว่าพ่อจะอยู่อังกฤษได้ถึง 2 เดือนหรือเปล่า ต้องกลับเมืองไทยแน่เลย แต่พ่อก็อยู่ได้ปีกว่าๆ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะแม่ยื่นคำขาดว่า 'หากกลับเมืองไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากฉัน เราขาดกัน เราเป็นหุ้นส่วนชีวิตกัน ถ้าเธอไม่ฟังแล้วกลับเมืองไทย ทุกอย่างตรงนั้นมันจบ' แม่ห่วงพ่อมาก คุยกับเอมตลอดเวลา กลัวว่าพ่อจะแอบหนีเข้าเมืองไทยด้วยอุดมการณ์แรงกล้า แม่พยายามดึงให้พ่อไม่กลับ...”
วันที่ทักษิณได้กลับบ้าน
พ.ศ.2551 ทักษิณเคยเดินทางกลับเมืองไทยมารายงานตัวคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯ ภาพที่คนจดจำและเห็นในหน้าสื่อคือ ภาพทักษิณก้มกราบพื้นที่หน้าห้องรับรองพิเศษ ก่อนจะโบกมือทักทายประชาชนที่มารอต้อนรับ
ส่วนภาพเบื้องหลังเมื่อทักษิณกลับมาถึงบ้าน เอม-พิณทองทา เล่าไว้ในหนังสือเล่มเดียวกันว่า "พอมาถึงที่บ้านคุณพ่อก็วิ่งขึ้นไปบนห้องนอนกระโดดลงเตียงตัวเอง แล้วตะโกน 'โอ๊ย คิดถึงเตียง คิดถึงบ้าน' พวกเราก็ยืนหัวเราะกัน...
“พ่อกระโดดดึ๋งๆ เหมือนเด็กเลย บอกว่า 'สบายนะเนี่ย ไม่มีเตียงที่ไหนสบายเหมือนอย่างนี้อีกแล้ว' แล้วก็นอนกลิ้งไปทั้งชุดสูท พวกเราก็มองพ่อน่ารักเหมือนเด็กเลย แล้วก็ร้องไห้ เพราะมันรู้สึกกินใจมาก แล้วพ่อก็ลุกขึ้นมากอดลูกแล้วก็พูดว่า ‘ลูก... พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกๆ ต้องลำบาก’ พ่อพูดสั้นๆ แต่ทุกคนรู้ว่า ที่พ่อพูดขอโทษนั้น หมายถึงอะไร”
ระหว่างที่คดีที่ดินรัชดาฯ ดำเนินต่อไป ทักษิณและคุณหญิงพจมานเดินทางออกไปต่างประเทศอีกครั้ง จากนั้นศาลอ่านคำวินิจฉัยว่า ทักษิณมีความผิด
นับตั้งแต่วันนั้นทักษิณก็ไม่เคยกลับมาเมืองไทยอีกเลย
“พ่อกระโดดดึ๋งๆ เหมือนเด็กเลย บอกว่า 'สบายนะเนี่ย ไม่มีเตียงที่ไหนสบายเหมือนอย่างนี้อีกแล้ว' แล้วก็นอนกลิ้งไปทั้งชุดสูท พวกเราก็มองพ่อน่ารักเหมือนเด็กเลย แล้วก็ร้องไห้ เพราะมันรู้สึกกินใจมาก แล้วพ่อก็ลุกขึ้นมากอดลูกแล้วก็พูดว่า ‘ลูก... พ่อขอโทษที่ทำให้ลูกๆ ต้องลำบาก’ พ่อพูดสั้นๆ แต่ทุกคนรู้ว่า ที่พ่อพูดขอโทษนั้น หมายถึงอะไร”
ระหว่างที่คดีที่ดินรัชดาฯ ดำเนินต่อไป ทักษิณและคุณหญิงพจมานเดินทางออกไปต่างประเทศอีกครั้ง จากนั้นศาลอ่านคำวินิจฉัยว่า ทักษิณมีความผิด
นับตั้งแต่วันนั้นทักษิณก็ไม่เคยกลับมาเมืองไทยอีกเลย

ความฝันที่รอคอย
อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ที่วันนี้มาเล่นบทนำทางการเมืองในฐานะหนึ่งในแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย เคยให้สัมภาษณ์ในหนังสือ คนอื่นเรียกนายกฯ แต่เราเรียก...พ่อ เมื่อ 14 ปีที่แล้ว เมื่อถูกถามว่า จะขอให้พ่อหย่าขาดจากการเมืองหรือไม่?เธอตอบชัดเจน ไม่ว่าอย่างไร ขอให้เราอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง
“อิ๊งคิดว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาทำให้คุณพ่อได้เรียนรู้อะไรเยอะ ทั้งเรื่องคนและเรื่องการเมือง เพราะฉะนั้นพ่อตัดสินใจอย่างไร เราเคารพการตัดสินใจของพ่อ และพร้อมสนับสนุนพ่อในทุกทางที่พ่อตัดสินใจ”
“แต่วันหนึ่ง ขอให้แน่ใจว่าพ่อจะต้องได้มาอยู่เลี้ยงหลาน อยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นสถานะไหน ก็ไม่สำคัญ”

เข็มนาฬิกาเดินไปข้างหน้า สายน้ำไม่เคยไหลย้อนกลับ นับจากวันรัฐประหารปี 49 ทักษิณทำเวลาของตัวเองหล่นหายไปจากประเทศไทยกว่า 17 ปี
เป็น 17 ปีที่นานพอที่เปลี่ยนชายวัยกลางคนเข้าสู่วัยชรา ตัวเลขอายุ 57 สู่ 74
“ถ้ากลับไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว มันก็จบทุกอย่าง ซึ่งวันนั้น วันที่ผมกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงขึ้นเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป” -- Thaksin Shinawatra: Theory and Thought หน้า 109
เป็น 17 ปีที่นานพอที่เปลี่ยนชายวัยกลางคนเข้าสู่วัยชรา ตัวเลขอายุ 57 สู่ 74
“ถ้ากลับไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง ได้กลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว มันก็จบทุกอย่าง ซึ่งวันนั้น วันที่ผมกลับไปอยู่กับครอบครัว ผมก็ต้องทำตัวให้แข็งแรงขึ้นเพื่อชดเชยเวลาที่หายไป” -- Thaksin Shinawatra: Theory and Thought หน้า 109

ทักษิณรู้ดีว่า สิ่งที่มีค่ามากที่สุดคือเวลา และไม่มีใครรู้ว่า เวลาของตัวเองเหลืออยู่เท่าไหร่
“ผมเป็นประเภท let bygones be bygones เราอยู่กับปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่มันผ่านไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เราไม่สามารถ reverse the clock”
เวลาไม่เคยหมุนกลับ การกลับบ้านของทักษิณจะเป็นความจริง หรือเป็นความฝันต่อไป หรือตลอดไป
กรกฎาคมนี้คงได้รู้กัน...
“ผมเป็นประเภท let bygones be bygones เราอยู่กับปัจจุบันและอนาคต สิ่งที่มันผ่านไปแล้วเอาคืนไม่ได้ เราไม่สามารถ reverse the clock”
เวลาไม่เคยหมุนกลับ การกลับบ้านของทักษิณจะเป็นความจริง หรือเป็นความฝันต่อไป หรือตลอดไป
กรกฎาคมนี้คงได้รู้กัน...