‘สวัสดิการ’ อีกหนึ่งนโยบายที่หลายพรรคการเมืองชูเป็นจุดเด่นในศึกเลือกตั้งครั้งนี้
แม้ว่าประเด็นเรื่องสวัสดิการมักจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็น ‘นโยบายประชานิยม’ ที่เน้นการแจกเงินเป็นหลัก ถ้าหากมองในมุมกฎหมาย สวัสดิการถือเป็นสิทธิที่ประชาชนพึงได้รับตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก
- สิทธิสวัสดิการด้านสาธารณสุขและการแพทย์ เช่น การได้รับบริการสาธารณสุขพื้นฐานอย่างทั่วถึง การคุ้มครองและช่วยเหลือหญิงตั้งครรภ์ก่อนและหลังคลอด
- สิทธิสวัสดิการในการเจริญเติบโตและปัจจัยในการดำรงชีพ เช่น การช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้เพียงพอหรือบุคคลยากไร้ การพัฒนาสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างทั่วถึง การคุ้มครองแรงงาน และการประกันรายได้
- สิทธิสวัสดิการในการได้รับการศึกษา
อ้างอิง: อภิชัย พันธ์เสน, วัฒนชัย วินิจจะกูล (บ.ก), สมุดภาพเดือนตุลา (กรุงเทพมหานคร : สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทยและพรรคแสงธรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 2531), หน้า 119-120
ปัจจุบันสวัสดิการไทยยังมีปัญหาจากหลายปัจจัย เช่น ความล่าช้าของระบบราชการ และขาดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ทำให้ประชาชนไม่ได้รับสิทธิเหล่านี้อย่างทั่วถึง
และนี่คือ ‘ไพ่เด็ด’ ของนโยบายด้านสวัสดิการจาก 9 พรรค
ส่องนโยบายสวัสดิการ 9 พรรค
รวมไทยสร้างชาติ- บัตรสวัสดิการพลัส 1,000 บาทต่อเดือน
- เบิกส่วนประกันตน 30% มาใช้ก่อนได้
- ให้ทุนเรียนวิชาชีพ 100 ทุน/ อำเภอ
- ฟรีแลนซ์เข้าระบบประกันสังคม
- ปรับเบี้ยผู้สูงวัย ทุกช่วงอายุได้ 1,000 บาท/ เดือน
- สร้างศูนย์สันทนาการสำหรับดูแลผู้สูงวัย
- คืน 30% ของเงินสะสมชราภาพให้ผู้ประกันตน มาตรา 33 โดยไม่ต้องรอถึงอายุ 60 ปี
- ลดภาษีให้ผู้ประกอบการที่จ้างผู้สูงวัยทำงาน
พลังประชารัฐ
- เพิ่มเงินบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท/ เดือน
- เบี้ยผู้สูงวัยแบบขั้นบันได 3,000-5,000 บาท
- ผู้ตั้งครรภ์ 4-9 เดือน รับเดือนละ 10,000 บาท x 5 เดือน
- ค่าเลี้ยงดูลูก 3,000 บาท/ เดือน x 6 ปี
- เพิ่มจำนวนและพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็กกว่า 50,000 แห่งทั่วประเทศ
เพื่อไทย
- ให้เครดิตถุงเงินกับผู้ตั้งครรภ์ครบ 8 เดือน สำหรับซื้อของจำเป็น
- พ่อมีสิทธิ์ลางานช่วยดูแลลูกหลังคลอด
- กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นร่วมดูแลเด็ก
- ยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคเพื่อตอบโจทย์ผู้สูงอายุ
- สร้างรายได้ให้ประเทศเพื่อจัดทำสวัสดิการที่เจาะกลุ่มและทั่วถึง
- ผู้สูงอายุและประชาชนใช้บริการรพ. ใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ไม่มีค่าใช้จ่าย
สวัสดิการก้าวหน้า ดูแลตั้งแต่เกิดจนวันสุดท้ายของชีวิต
- เกิด
- เงินดูแลเด็กเล็ก 1,200 บาท/เดือน
- พ่อแม่มีสิทธิ์ลาคลอดรวมกัน 180 วัน
- เติบโต
- คูปองเปิดโลก เรียนรู้นอกห้องเรียน
- ผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน ไม่เก็บ VAT
- ทำงาน
- เจ็บป่วยได้เงินชดเชย-ค่าเดินทาง
- เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัด
- สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมง/สัปดาห์
- สูงวัย
- สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
- ค่าทำศพ 10,000 บาท รวมในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า
- ทุกวัย
- น้ำประปาดื่มได้ทุกที่
- เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ
- เติมเน็ตฟรี 1GB/เดือน
- เงินคนพิการ 3,000 บาท
ประชาธิปัตย์
- ปรับระบบสวัสดิการให้ยั่งยืน
- ปฏิรูปการคลังเพื่อเติมกองทุนประกันสังคม
- ให้ผู้สูงอายุเข้าสู่ระบบประกันสังคมและได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุด 5,000 บาท
- เงินสมทบที่ลูกจ้างจ่ายเข้าประกันสังคม
- การออมโดยสมัครใจยามเกษียณ
- ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาท ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน
- จัดหางานให้ผู้สูงอายุ 5 แสนตำแหน่ง ค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท
- เงินปรับปรุงบ้านที่มีผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป 50,000 บาท
- เด็กแรกเกิด-6 ปี รับ 2,000 บาท/ปี
- เงินสนับสนุนศูนย์ดูแลเด็กเล็ก
- สวัสดิการแม่และเด็ก
- เรียนฟรีจนถึงปริญญาตรี
- กองทุนคนตัวเล็ก สร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุน ลดการเป็นหนี้นอกระบบ
- บำนาญประชาชน 3,000 บาท/เดือน
- พักหนี้ หยุดเงินต้นและพักดอกเบี้ย 3 ปี
- รักษามะเร็งและฟอกไตฟรี
- เข้าโครงการหลังคาโซลาร์เซลล์ฟรี
- ลดค่าไฟ 450 บาท/เดือน
- ค่าคลอดบุตร 5,000 บาท ค่าเลี้ยงดูบุตรปีละ 10,000 บาท
- อีก 10 ปี ถ้าไม่ป่วยหรือสุขภาพดี จะได้เงินคืน 3,000 บาท
- สร้างงานสร้างรายได้ให้ผู้สูงวัย

รวมนโยบายสำหรับผู้สูงวัย 9 พรรค
ปี 2022 ประเทศไทยเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) โดยมีจำนวนประชากรสูงวัยกว่า 12.1 ล้านคน หรือ 18.3% ของประชากรทั้งหมด 70 กว่าล้านคนโดยประมาณ อีกทั้งยังมีจำนวนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป มากกว่าจำนวนเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีไม่เพียงเท่านั้น มีการคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) ในปี 2030 โดยมีผู้สูงอายุมากกว่า 28% ของประชากรทั้งประเทศ
แล้วพรรคการเมืองไทยมีนโยบายรับมือกับความท้าทายนี้อย่างไรบ้าง
รวมไทยสร้างชาติ
- ผู้สูงวัยทุกช่วงอายุรับ 1,000 บาท/ เดือน
- สร้างศูนย์สันทนาการสำหรับดูแลผู้สูงวัย
- ลดภาษีให้ผู้ประกอบการที่จ้างผู้สูงวัยทำงาน
- เงินผู้สูงวัย 3,000 บาท/เดือน
- สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง
- ค่าทำศพ 10,000 บาท รวมในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า
- ยกระดับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคให้ตอบโจทย์ผู้สูงอายุ
- ใช้บริการรพ. ใกล้บ้าน ไม่ต้องรอคิวนาน ใช้บัตรประชาชนใบเดียว ไม่มีค่าใช้จ่าย
- พลังประชารัฐ
- เบี้ยผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นได้ 3,000 บาท 70 ปีขึ้นไป 4,000 บาท 80 ปีขึ้นไป 5,000 บาท
- ขยายอายุเกษียณจาก 60 ปี เป็น 63 ปี
- สร้างงาน 1 ล้านตำแหน่ง จูงใจให้บริษัทต่างๆ จ้างงานผู้สูงอายุ
- จัดหางานให้ผู้สูงอายุ 5 แสนตำแหน่ง ค่าตอบแทนเดือนละ 5,000 บาท
- เงินปรับปรุงบ้านที่มีผู้สูงอายุแบบอารยสถาปัตย์
- 60 ปีขึ้นไปรับสิทธิกองทุนประกันชีวิต 60 ปี ไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันชีวิต
- กู้เงินได้ไม่เกิน 20,000 ไม่ต้องมีคนค้ำ ไม่เป็นภาระลูกหลาน
- เมื่อเสียชีวิตได้เงิน 100,000 บาท เป็นมรดกให้ลูกหลาน
- เข้าระบบประกันสังคม รับสิทธิประโยชน์สูงสุด 5,000 บาท
- การออมโดยสมัครใจยามเกษียณ
- ชมรมผู้สูงอายุรับ 30,000 บาท ทุกหมู่บ้าน ทุกชุมชน
- นโยบายสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุ
- งานเสวนา นโยบายสวัสดิการ "ของใคร แบบไหน โดนใจชาวบ้าน" 4 องค์กรประชาชน ถาม 9 พรรคตอบ
- งานเสวนาหัวข้อ “พรรคการเมือง : สวัสดิการเด็กเล็ก ถึงเวลาต้องถ้วนหน้า ได้หรือยัง” โดยคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเด็กเล็กถ้วนหน้า
