ธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มองว่า ไม่น่าเป็นไปได้สำหรับสูตรจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะรัฐบาลควรเป็นเสียงข้างมาก แต่หากตั้งได้ก็ว่ากันไป พร้อมชี้ว่า หากตั้งรัฐบาลไม่ได้ พรรคที่ 2 หรือ 3 ก็มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาล
“ถึงอย่างไรก็มั่นใจว่ารัฐบาลต้องเป็นเสียงข้างมาก แต่จะสำเร็จหรือไม่อย่างไร ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ตนคิดว่า ก้าวแรกของพรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้สำเร็จแล้ว มันยังมีเวลา บางครั้งเราเห็นหน้าฉากกับหลังฉากในทางการเมือง มักจะแตกต่างกัน ดังนั้นตนคิดว่ายังมีเวลา แล้วเราก็เอาใจช่วยทุกพรรคอยู่แล้ว” ธนกร ระบุ
พร้อมระบุหลังจากได้เห็น MOU จัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล มองว่าการตัดสินใจโหวตนายกฯ ยังเหมือนเดิม และทุกฝ่ายก็มองออก ทั้งนี้ การทำ MOU มีการปรับลดอะไรต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนเชื่อว่า ส.ส. และ ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ ก็ทราบว่าเจตนาพิเศษคืออะไร ดังนั้น จึงคิดว่าต้องไปดูเนื้อใน นอกจากนี้ มองว่า แม้ใน MOU ไม่ได้มีการเขียนเรื่องมาตรา 112 แต่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องดังกล่าวต่อไป
“เขาบอกว่าเป็นสิทธิของพรรคที่ทำได้ ในหลายๆนโยบาย ซึ่งตนคิดว่าเขาทำอยู่แล้ว” ธนกร ระบุ
เมื่อถามว่า มองเป็นการแสดงละครหน้าฉากหรือไม่ ธนกร ตอบว่า ตนไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น การร่วมรัฐบาลมีวิธีการหลายรูปแบบ บางครั้งขนาดทำ MOU กันแล้วก็เปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูเงื่อนไขที่ลงตัวมากกว่า และกระบวนการเลือกนายกฯ ก็มีหลายขั้นตอน ตนเอาใจช่วยอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ใจเย็นๆ นิ่งๆ หมายความว่า ยังมีความหวังในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ ธนกร ตอบว่า “คงไม่ นายกฯ ก็เป็นคนอย่างนี้ อยากให้กำลังใจคนอื่น จริงๆ แล้วพวกเราอยากให้กำลังใจท่าน แต่ด้วยความที่ท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ มีประสบการณ์เยอะ ก็แนะนำ ส.ส.ใหม่ และแนะนำคนที่พ่ายแพ้ว่าอย่าท้อแท้ เส้นทางยังอีกยาวไกล ก็ให้กำลังใจพวกเราในการต่อสู้ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์คือคำแนะนำของท่าน ถ้าเรานำไปทบทวนและไปปรับ อนาคตก็คิดว่าเราจะสามารถเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ในอนาคต”
ส่วนจะหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ไปจนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้อันดับ 1 ใช่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่พูดถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างบางพรรคหาเสียง ลงพื้นที่พบปะประชาชนมา 2 ปีแล้ว แต่พวกเราตั้งพรรคใหม่มาเพียงแค่ 3-4 เดือน ก็ต้องปรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ จะยุบพรรค เพื่อย้าย ส.ส. มารวมเสียงกับพรรคเพื่อไทย นั้นสามารถทำได้หรือไม่
“ขนาดสื่อมวลชนยังรู้สึกว่าใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นคนไทยก็ตั้งข้อสังเกตได้ ก็ต้องรอดูว่ามันทำได้หรือเปล่า แต่จริงๆ อยากให้มันจบๆ ไป” ธนกร ระบุ ก่อนเปรยว่า “ผมก็เป็นฝ่ายค้านก็ดี”
“ถึงอย่างไรก็มั่นใจว่ารัฐบาลต้องเป็นเสียงข้างมาก แต่จะสำเร็จหรือไม่อย่างไร ก็ต้องรอดูต่อไป แต่ตนคิดว่า ก้าวแรกของพรรคที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้สำเร็จแล้ว มันยังมีเวลา บางครั้งเราเห็นหน้าฉากกับหลังฉากในทางการเมือง มักจะแตกต่างกัน ดังนั้นตนคิดว่ายังมีเวลา แล้วเราก็เอาใจช่วยทุกพรรคอยู่แล้ว” ธนกร ระบุ
พร้อมระบุหลังจากได้เห็น MOU จัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล มองว่าการตัดสินใจโหวตนายกฯ ยังเหมือนเดิม และทุกฝ่ายก็มองออก ทั้งนี้ การทำ MOU มีการปรับลดอะไรต่างๆ เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่ในข้อเท็จจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนเชื่อว่า ส.ส. และ ส.ว. ผู้ทรงเกียรติ ก็ทราบว่าเจตนาพิเศษคืออะไร ดังนั้น จึงคิดว่าต้องไปดูเนื้อใน นอกจากนี้ มองว่า แม้ใน MOU ไม่ได้มีการเขียนเรื่องมาตรา 112 แต่เชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะผลักดันเรื่องดังกล่าวต่อไป
“เขาบอกว่าเป็นสิทธิของพรรคที่ทำได้ ในหลายๆนโยบาย ซึ่งตนคิดว่าเขาทำอยู่แล้ว” ธนกร ระบุ
เมื่อถามว่า มองเป็นการแสดงละครหน้าฉากหรือไม่ ธนกร ตอบว่า ตนไม่ได้หมายถึงอย่างนั้น การร่วมรัฐบาลมีวิธีการหลายรูปแบบ บางครั้งขนาดทำ MOU กันแล้วก็เปลี่ยนแปลงได้ ต้องดูเงื่อนไขที่ลงตัวมากกว่า และกระบวนการเลือกนายกฯ ก็มีหลายขั้นตอน ตนเอาใจช่วยอยู่แล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้ใจเย็นๆ นิ่งๆ หมายความว่า ยังมีความหวังในการที่จะจัดตั้งรัฐบาลใช่หรือไม่ ธนกร ตอบว่า “คงไม่ นายกฯ ก็เป็นคนอย่างนี้ อยากให้กำลังใจคนอื่น จริงๆ แล้วพวกเราอยากให้กำลังใจท่าน แต่ด้วยความที่ท่านผ่านร้อนผ่านหนาวมาทุกรูปแบบ มีประสบการณ์เยอะ ก็แนะนำ ส.ส.ใหม่ และแนะนำคนที่พ่ายแพ้ว่าอย่าท้อแท้ เส้นทางยังอีกยาวไกล ก็ให้กำลังใจพวกเราในการต่อสู้ แต่สิ่งที่เป็นประโยชน์คือคำแนะนำของท่าน ถ้าเรานำไปทบทวนและไปปรับ อนาคตก็คิดว่าเราจะสามารถเป็นพรรคอันดับ 1 ได้ในอนาคต”
ส่วนจะหมายความว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่ไปจนถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ จะได้อันดับ 1 ใช่หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ แต่พูดถึงคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างบางพรรคหาเสียง ลงพื้นที่พบปะประชาชนมา 2 ปีแล้ว แต่พวกเราตั้งพรรคใหม่มาเพียงแค่ 3-4 เดือน ก็ต้องปรับ พร้อมตั้งข้อสังเกตถึงกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ จะยุบพรรค เพื่อย้าย ส.ส. มารวมเสียงกับพรรคเพื่อไทย นั้นสามารถทำได้หรือไม่
“ขนาดสื่อมวลชนยังรู้สึกว่าใช่หรือเปล่า เพราะฉะนั้นคนไทยก็ตั้งข้อสังเกตได้ ก็ต้องรอดูว่ามันทำได้หรือเปล่า แต่จริงๆ อยากให้มันจบๆ ไป” ธนกร ระบุ ก่อนเปรยว่า “ผมก็เป็นฝ่ายค้านก็ดี”
