











พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แถลงข่าวเปิดตัว 3 วีไอพี เป็นสมาชิกพรรค ประกอบด้วย ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ชุมพล กาญจนะ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และ ชัชวาลล์ คงอุดม หรือ ชัช เตาปูน อดีตประธานที่ปรึกษาพรรคพลังท้องถิ่นไท โดยทั้ง 3 คน ได้ลงนามเป็นสมาชิกพรรค พร้อมสวมเสื้อพรรค
จากนั้น พีระพันธุ์ กล่าวต้อนรับว่า ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรครู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้อาวุโส ทั้งทางการเมืองและที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ได้ตัดสินใจที่จะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา ชื่อก็บอกว่าเราต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และเราก็มีแนวทางที่ว่าการเมืองต่อไปจะต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ประสบการณ์ในอดีต รวมถึงแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน ที่ผ่านมาพวกเราได้รับการติดต่อและได้รับความสนใจจากนักการเมืองในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่านที่มาร่วมงานกับพวกเราเพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
ด้าน ไตรรงค์ กล่าวถึงเหตุผลในการเข้าร่วมพรรคว่า ตนก็ตื่นเต้น ส่วนตัวของตนได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใครๆ ก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของตนก็มีความมั่นใจ มีคนสนใจอยู่เยอะ และมี 7-8 พรรคที่อยากให้ตนไปร่วมงาน เพราะตนมีประสบการณ์ในการทำงาน และนายกฯ ตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็ยินดีมากที่ท่านได้เชิญตนไปพบ ว่าขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์เยอะ และมีอะไรที่ท่านก็จะได้สอบถามตนได้ ตนก็ตอบตกลงท่านไปว่ายินดี เพราะตนยังพอไหว แต่ตั้งตนมาทำงานไม่ต้องการรับเงินเดือน เพราะไม่อยากเป็นขี้ปาก ตนจึงขอไม่รับเงินเดือน ซึ่งนายกฯ ก็ตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจแบบไม่รับเงินเดือน แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตำแหน่งให้ไปเบิกที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นความกรุณาของนายกฯ แต่ตนตั้งใจว่าจะไม่เบิก จะขอใช้เงินส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครมาระแวงว่าตนจะไปเบิกเงิน ไม่อยากมานั่งโต้เถียงกับเรื่องไร้สาระ หลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ตนก็ได้พูดคุยกับนายกฯ เป็นการส่วนตัวหลายครั้งมากกว่า 2 ครั้ง จนในที่สุดเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ
ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ความทุกข์ของตนและนายกฯจะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี สำหรับประเทศนี้ จึงเห็นว่านายกฯ น่าสงสาร ท่านไม่รู้จะระบายกับใคร ตนจึงเข้าใจว่าทำไมท่านจึงตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ย้ำว่าท่านไม่มีเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องของประชาชนและประเทศชาติ ความทุกข์ของนายกฯ รวมกับตนมี 3 เรื่องที่จะต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นมันจะยากเกินแก้ ปัญหาแรกคือ 1.จะต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้มีความสะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมากมีการทุจริตคอร์รัปชันทุกวงการมากกว่าในอดีตมาก ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20 % แต่ตอนนี้เก็บ 40-50 % เราจะต้องแก้ไขกฏหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอหรือไม่ จะจบเรื่องนี้ยังไง ย้ำว่าปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันนายกฯ เป็นทุกข์มาก 2. จะต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืดต้องหาแสงสว่างให้กับเขาเพราะเขามีรายได้ไม่พอที่จะดำรงชีพ รัฐจะต้องช่วยคนกลุ่มนี้ และ 3.ความไม่สงบ จะต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ให้มีการใช้ซุปเปอร์พาวเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เรื่องเหล่านี้ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯ อยู่ได้อีก 2 ปีจะต้องเร่งทำ ความไม่สะอาด ความไม่สว่าง และความไม่สงบ
เมื่อถามว่า จะมีคนจากพรรคประชาธิปัตย์ย้ายมารวมไทยสร้างชาติอีกหรือไม่ และพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นประชาธิปัตย์ สาขา 2 หรือไม่ ไตรรงค์ ย้อนถามว่าพรรคการเมืองมีสาขาด้วยหรือ ก่อนกล่าวอีกว่า ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ สาขา 2 พรรคการเมืองไม่ใช่ธนาคาร ไม่ใช่เซเว่น พรรคการเมืองมีศักดิ์ศรีและจุดยืนของตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกันเพื่อให้เกิดความมั่นคง สำหรับพวกเราในการที่จะผลักดันนโยบาย แก้ปัญหาประเทศใน 3 ด้านคือ สะอาด สว่าง และสงบ ทั้งนี้ ดูขนาดนี้ยังไม่มีใครมีบารมีซื่อสัตย์สุจริตนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมต.กลาโหม ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอร์รัปชัน
ด้าน ชัชวาลล์ กล่าวถึงเหตุผลที่ย้ายพรรคว่าเพราะมีจุดประสงค์ทำให้กับคนยากคนจน โดยที่ตนตั้งใจว่าจะให้เด็กเรียนหนังสือฟรี ให้คนที่ยากจนปลดหนี้หมดสินได้ จึงคิดว่าหากพรรคตนพรรคเดียวยังไม่ใหญ่พอที่จะทำให้กับประเทศชาติได้ขนาดนั้น จึงต้องมาขอร่วมงานกับพรรรครวมไทยสร้างชาติ โดยคิดว่าหากร่วมแล้วเราน่าจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ เช่นให้เด็กเรียนหนังสือฟรีตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรีและดอกเตอร์ ขณะที่ชาวไร่ชาวนาเป็นหนี้เป็นสิน เอานโยบายคาสิโนมาให้ถูกกฎหมายและเอาภาษีมาใช้หนี้ให้เขา ตนคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีความสามารถที่จะทำได้แน่นอน นายกฯ ได้กลับมาอย่างน้อยก็อีก 2 ปีมันเป็นสิ่งที่ตนได้มาพรรคนี้
ขณะที่ ชุมพล กล่าวว่า ตนอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศเดิมๆ เมื่อหลังปีก่อนและไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้มาหลายปีแล้ว เคยเป็นผู้แทนมาหลายสมัย และวันนี้ลูกสาวก็เป็นท้ายที่สุด มันก็จะต้องเห็นสัจธรรม พี่น้องเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข การที่มาอยู่จุดนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่จะทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผลักดันนโยบาย ทั้งนี้ตนชื่นชอบนายกฯ เป็นการส่วนตัว ถ้าผู้นำมือไม่สะอาดประชาชนจะหวังอะไรได้วันนี้เราสรรหาคนที่เป็นผู้นำที่จะเป็นคนใจซื่อมือสะอาดตอนนี้ติดตามดูนายกฯ คนนี้มาหลายปีแล้วท่ามกลางวิกฤติบ้านเมืองจนไม่เหลืออะไรนายกคนนี้เข้ามากอบกู้ไปได้มากพอสมควร งานที่ข้างคาอยู่หลายอย่างมั่นใจว่านายกฯ จะทำสำเร็จเพื่อนำความสุขไปสู่ประเทศชาติ วันนี้ต้องขอบคุณน้องๆ ที่จะนำแนวคิดเหล่านี้เดินไปข้างหน้า เหนื่อยไปด้วยกัน
เมื่อถามถึงกรณี วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จะมาเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ ชุมพล กล่าวว่า เขาเป็น ส.ส.สมัยแรก มีความคิดความอ่านของเขา สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เขาบอกว่า ขอทำหน้าที่ ส.ส.จนครบวาระ ส่วนจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ส่วนในอดีตที่เป็นคู่แข่งนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ชุมพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว ยืนยันไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะมีการพูดคุยกันเรื่องบ้าน เรื่องเมืองอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วการเลือกตั้ง ไม่มีการแบ่งเขต แบ่งคนละครึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเป็นเรื่องของประชาชน
จากนั้น พีระพันธุ์ กล่าวต้อนรับว่า ในนามของคณะกรรมการบริหารพรรครู้สึกดีใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ท่านผู้อาวุโส ทั้งทางการเมืองและที่มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ เพื่อเป็นประโยชน์กับชาติบ้านเมือง ได้ตัดสินใจที่จะมาร่วมทำงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ และเป็นพี่เลี้ยงให้กับพวกเรา ชื่อก็บอกว่าเราต้องการรวมคนที่มีความตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองด้วยกัน และเราก็มีแนวทางที่ว่าการเมืองต่อไปจะต้องเป็นการเมืองของคนทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนรุ่นเก่า ที่ต้องมาช่วยกันนำความรู้ประสบการณ์ในอดีต รวมถึงแนวทางความคิดของคนรุ่นใหม่มาร่วมกัน ที่ผ่านมาพวกเราได้รับการติดต่อและได้รับความสนใจจากนักการเมืองในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ ทั้งนี้ ในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอขอบคุณทั้ง 3 ท่านที่มาร่วมงานกับพวกเราเพื่อทำให้ชาติบ้านเมืองเดินไปข้างหน้า
ด้าน ไตรรงค์ กล่าวถึงเหตุผลในการเข้าร่วมพรรคว่า ตนก็ตื่นเต้น ส่วนตัวของตนได้ลาออกจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ใครๆ ก็ต้องการมีลมหายใจของตัวเอง ไม่ต้องเกรงใจใคร ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของตนก็มีความมั่นใจ มีคนสนใจอยู่เยอะ และมี 7-8 พรรคที่อยากให้ตนไปร่วมงาน เพราะตนมีประสบการณ์ในการทำงาน และนายกฯ ตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งตนก็ยินดีมากที่ท่านได้เชิญตนไปพบ ว่าขอให้มาเป็นที่ปรึกษาฯ เพราะมีประสบการณ์เยอะ และมีอะไรที่ท่านก็จะได้สอบถามตนได้ ตนก็ตอบตกลงท่านไปว่ายินดี เพราะตนยังพอไหว แต่ตั้งตนมาทำงานไม่ต้องการรับเงินเดือน เพราะไม่อยากเป็นขี้ปาก ตนจึงขอไม่รับเงินเดือน ซึ่งนายกฯ ก็ตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านเศรษฐกิจแบบไม่รับเงินเดือน แต่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในตำแหน่งให้ไปเบิกที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นความกรุณาของนายกฯ แต่ตนตั้งใจว่าจะไม่เบิก จะขอใช้เงินส่วนตัวเพื่อไม่ให้ใครมาระแวงว่าตนจะไปเบิกเงิน ไม่อยากมานั่งโต้เถียงกับเรื่องไร้สาระ หลังจากเป็นที่ปรึกษานายกฯ ตนก็ได้พูดคุยกับนายกฯ เป็นการส่วนตัวหลายครั้งมากกว่า 2 ครั้ง จนในที่สุดเรามีความเห็นตรงกันหลายเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ
ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า ความทุกข์ของตนและนายกฯจะต้องแก้ไขภายใน 2 ปี สำหรับประเทศนี้ จึงเห็นว่านายกฯ น่าสงสาร ท่านไม่รู้จะระบายกับใคร ตนจึงเข้าใจว่าทำไมท่านจึงตั้งตนเป็นที่ปรึกษานายกฯ ย้ำว่าท่านไม่มีเรื่องส่วนตัว มีแต่เรื่องของประชาชนและประเทศชาติ ความทุกข์ของนายกฯ รวมกับตนมี 3 เรื่องที่จะต้องมีคนจัดการให้กับประเทศนี้โดยเร่งด่วน เพราะไม่เช่นนั้นมันจะยากเกินแก้ ปัญหาแรกคือ 1.จะต้องปัดกวาดประเทศนี้ให้มีความสะอาด ประเทศเราเริ่มสกปรกเยอะมากมีการทุจริตคอร์รัปชันทุกวงการมากกว่าในอดีตมาก ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น เมื่อก่อนเลวร้ายเก็บ 10-20 % แต่ตอนนี้เก็บ 40-50 % เราจะต้องแก้ไขกฏหมาย เช่น เรื่องตู้ห่าว ชนตอหรือไม่ จะจบเรื่องนี้ยังไง ย้ำว่าปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันนายกฯ เป็นทุกข์มาก 2. จะต้องแก้ปัญหาความยากจน คนพวกนี้อยู่ในที่มืดต้องหาแสงสว่างให้กับเขาเพราะเขามีรายได้ไม่พอที่จะดำรงชีพ รัฐจะต้องช่วยคนกลุ่มนี้ และ 3.ความไม่สงบ จะต้องดูแลบ้านเมืองให้เกิดความสงบ ปฏิรูปการศึกษาให้เด็กรุ่นใหม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไม่ให้มีการใช้ซุปเปอร์พาวเวอร์มาปั่นหัวเด็ก ทำให้เกิดความไม่สงบในสังคม เรื่องเหล่านี้ต้องทำภายใน 2-3 ปี นายกฯ อยู่ได้อีก 2 ปีจะต้องเร่งทำ ความไม่สะอาด ความไม่สว่าง และความไม่สงบ
เมื่อถามว่า จะมีคนจากพรรคประชาธิปัตย์ย้ายมารวมไทยสร้างชาติอีกหรือไม่ และพรรครวมไทยสร้างชาติถือว่าเป็นประชาธิปัตย์ สาขา 2 หรือไม่ ไตรรงค์ ย้อนถามว่าพรรคการเมืองมีสาขาด้วยหรือ ก่อนกล่าวอีกว่า ไม่ใช่ประชาธิปัตย์ สาขา 2 พรรคการเมืองไม่ใช่ธนาคาร ไม่ใช่เซเว่น พรรคการเมืองมีศักดิ์ศรีและจุดยืนของตัวเอง แต่อุดมการณ์อาจจะใกล้เคียงกันเพื่อให้เกิดความมั่นคง สำหรับพวกเราในการที่จะผลักดันนโยบาย แก้ปัญหาประเทศใน 3 ด้านคือ สะอาด สว่าง และสงบ ทั้งนี้ ดูขนาดนี้ยังไม่มีใครมีบารมีซื่อสัตย์สุจริตนอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมต.กลาโหม ที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นจริง ซึ่งเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ ครั้งนี้ไม่ต้องเกรงใจหน้าอินทร์หน้าพรหมแล้ว ต้องปราบทุจริตคอร์รัปชัน
ด้าน ชัชวาลล์ กล่าวถึงเหตุผลที่ย้ายพรรคว่าเพราะมีจุดประสงค์ทำให้กับคนยากคนจน โดยที่ตนตั้งใจว่าจะให้เด็กเรียนหนังสือฟรี ให้คนที่ยากจนปลดหนี้หมดสินได้ จึงคิดว่าหากพรรคตนพรรคเดียวยังไม่ใหญ่พอที่จะทำให้กับประเทศชาติได้ขนาดนั้น จึงต้องมาขอร่วมงานกับพรรรครวมไทยสร้างชาติ โดยคิดว่าหากร่วมแล้วเราน่าจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ เช่นให้เด็กเรียนหนังสือฟรีตั้งแต่อนุบาลจนจบปริญญาตรีและดอกเตอร์ ขณะที่ชาวไร่ชาวนาเป็นหนี้เป็นสิน เอานโยบายคาสิโนมาให้ถูกกฎหมายและเอาภาษีมาใช้หนี้ให้เขา ตนคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะมีความสามารถที่จะทำได้แน่นอน นายกฯ ได้กลับมาอย่างน้อยก็อีก 2 ปีมันเป็นสิ่งที่ตนได้มาพรรคนี้
ขณะที่ ชุมพล กล่าวว่า ตนอยู่ในท่ามกลางบรรยากาศเดิมๆ เมื่อหลังปีก่อนและไม่ได้เจอบรรยากาศแบบนี้มาหลายปีแล้ว เคยเป็นผู้แทนมาหลายสมัย และวันนี้ลูกสาวก็เป็นท้ายที่สุด มันก็จะต้องเห็นสัจธรรม พี่น้องเคยร่วมทุกข์ร่วมสุขและพูดคุยหารือแลกเปลี่ยนเรื่องการเมืองว่าจะทำอย่างไรให้บ้านเมืองอยู่เย็นเป็นสุข การที่มาอยู่จุดนี้ ทำให้ตนมีความสุขที่จะทำให้คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าผลักดันนโยบาย ทั้งนี้ตนชื่นชอบนายกฯ เป็นการส่วนตัว ถ้าผู้นำมือไม่สะอาดประชาชนจะหวังอะไรได้วันนี้เราสรรหาคนที่เป็นผู้นำที่จะเป็นคนใจซื่อมือสะอาดตอนนี้ติดตามดูนายกฯ คนนี้มาหลายปีแล้วท่ามกลางวิกฤติบ้านเมืองจนไม่เหลืออะไรนายกคนนี้เข้ามากอบกู้ไปได้มากพอสมควร งานที่ข้างคาอยู่หลายอย่างมั่นใจว่านายกฯ จะทำสำเร็จเพื่อนำความสุขไปสู่ประเทศชาติ วันนี้ต้องขอบคุณน้องๆ ที่จะนำแนวคิดเหล่านี้เดินไปข้างหน้า เหนื่อยไปด้วยกัน
เมื่อถามถึงกรณี วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ จะมาเข้าร่วมพรรครวมไทยสร้างชาติด้วยหรือไม่ ชุมพล กล่าวว่า เขาเป็น ส.ส.สมัยแรก มีความคิดความอ่านของเขา สามารถที่จะตัดสินใจได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เขาบอกว่า ขอทำหน้าที่ ส.ส.จนครบวาระ ส่วนจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขา ส่วนในอดีตที่เป็นคู่แข่งนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งถือเป็นแกนนำพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ชุมพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา ผู้ใหญ่พาไปทานข้าวที่บ้านตนแล้ว ยืนยันไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะมีการพูดคุยกันเรื่องบ้าน เรื่องเมืองอย่างเดียว ยืนยันว่าไม่มีการฮั้วการเลือกตั้ง ไม่มีการแบ่งเขต แบ่งคนละครึ่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพราะเป็นเรื่องของประชาชน