









3 ก.ค. 66 ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้มีคณะผู้บริหารพรรค และ ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ มาร่วมกันถ่ายรูปหมู่โดยพร้อมเพรียงกัน ก่อนที่จะเดินทางไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในเวลา 17.00 น.
‘อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์’ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า หลังจากถ่ายรูปหมู่แล้ว ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรค และ ‘เอกนัฏ พร้อมพันธ์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคจะนำ ส.ส.ทั้ง 36 คนไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเฝ้ารับเสด็จ ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ และ ‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมรมชิน’ เสด็จในเวลา 17.00 น.
อัครเดช กล่าวว่า การทำงานหลังจากนี้ไปในฐานะพรรคการเมืองพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จากการประชุมร่วมกันมาโดยมี ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี’ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติร่วมประชุมด้วย ได้ประชุม ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้ง ได้กำหนดกรอบในการทำงานคร่าวๆ แล้ว พรรคได้รับทราบปัญหาของประชาชนตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งแล้ว หลังเลือกตั้งได้จัดตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อนำกลไกของพรรคและกลไกของรัฐสภามาแก้ปัญหาให้ประชาชน
ทั้งนี้ ในส่วนแรกมีการเปิดตัวทีมโฆษกพรรคและรองโฆษกพรรค ตรงนี้จะเป็นทีมสื่อสารนโยบายของพรรค นำอุดมการณ์ของภาค จุดยืนของพรรคไปสู่ประชาชนเพื่อขยายแนวร่วมให้ประชาชนมาสนับสนุนพรรคมากขึ้น และเข้าใจบทบาทของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำหน้าที่ในสภาฯ โดยได้มีการพูดคุยกันระดับหนึ่งแล้ว หลังจากนี้จะมีความชัดเจนในเรื่องการตั้งคณะกรรมการประสานของพรรคหรือวิปพรรค รวมถึงตั้งทีมงานต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคมมาดูภารกิจในแต่ละด้านสนองต่อการทำงานให้ประชาชน หลังจากนี้จะปรากฏภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า แม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่บุคลากรของพรรคล้วนมีผู้ความรู้ มีประสบการณ์ทางการเมือง รวมถึง ส.ส.ใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีความลงตัวของคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเป็น ส.ส.จึงไม่มีความกังวล เพราะนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และอีกหลายคนก็ทำงานการเมืองการมาหลายปี เข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ส.ส.จะใช้กลไกเหล่านี้ในการขับเคลื่อนงานให้ประเทศชาติและประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า แม้เราจะเป็นพรรคใหม่ แต่บุคลากรของพรรคมีความลงตัวในหลายกลุ่มวัย ตนเชื่อมั่นว่า ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพจะได้เห็นผลงานของพรรคในด้านต่างๆ ต่อไป
“ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อกว่า 4.7 ล้านคะแนน ถือว่ามากพอสมควร พรรคจะนำความไว้วางใจในครั้งนี้มาเป็นต้นทุน มาขับเคลื่อนการทำงานการเมือง ส่วน ส.ส.เขตที่ได้รับเลือกตั้งมานอกจากภารกิจในการดูแลประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังต้องดูแลประชาชนทั้งจังหวัดถือเป็นนโยบายของพรรค โดยจะทำงานเชื่อมโยงกับแกนนำในเขตอื่น และผู้สมัครที่ยังไม่ได้รับการเลือกตั้ง ในอนาคตเชื่อว่า ประชาชนจะให้โอกาสถ้าได้ทำงานเชื่อมโยงกัน พรรคจะต้องวางกลไกและเครือข่ายในการรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อให้ ส.ส.ทั้ง 36 คน นำมาขับเคลื่อนในสภาฯ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พรรคจะทำให้เป็นรูปธรรม จึงขอให้ประชาชนมั่นใจและช่วยกัน ขยายผลงานของพรรคไปในสื่อทุกช่องทางเพื่อขยายแนวร่วมให้พรรคขับเคลื่อนในการดูแลประชาชนและประเทศชาติต่อไป
‘อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์’ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า หลังจากถ่ายรูปหมู่แล้ว ‘พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค’ หัวหน้าพรรค และ ‘เอกนัฏ พร้อมพันธ์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคจะนำ ส.ส.ทั้ง 36 คนไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเฝ้ารับเสด็จ ‘พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ และ ‘สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมรมชิน’ เสด็จในเวลา 17.00 น.
อัครเดช กล่าวว่า การทำงานหลังจากนี้ไปในฐานะพรรคการเมืองพรรครวมไทยสร้างชาติ จะทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จากการประชุมร่วมกันมาโดยมี ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี’ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติร่วมประชุมด้วย ได้ประชุม ส.ส.ที่ได้รับเลือกตั้ง ได้กำหนดกรอบในการทำงานคร่าวๆ แล้ว พรรคได้รับทราบปัญหาของประชาชนตั้งแต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งแล้ว หลังเลือกตั้งได้จัดตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อนำกลไกของพรรคและกลไกของรัฐสภามาแก้ปัญหาให้ประชาชน
ทั้งนี้ ในส่วนแรกมีการเปิดตัวทีมโฆษกพรรคและรองโฆษกพรรค ตรงนี้จะเป็นทีมสื่อสารนโยบายของพรรค นำอุดมการณ์ของภาค จุดยืนของพรรคไปสู่ประชาชนเพื่อขยายแนวร่วมให้ประชาชนมาสนับสนุนพรรคมากขึ้น และเข้าใจบทบาทของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำหน้าที่ในสภาฯ โดยได้มีการพูดคุยกันระดับหนึ่งแล้ว หลังจากนี้จะมีความชัดเจนในเรื่องการตั้งคณะกรรมการประสานของพรรคหรือวิปพรรค รวมถึงตั้งทีมงานต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคมมาดูภารกิจในแต่ละด้านสนองต่อการทำงานให้ประชาชน หลังจากนี้จะปรากฏภาพชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ
โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า แม้พรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่บุคลากรของพรรคล้วนมีผู้ความรู้ มีประสบการณ์ทางการเมือง รวมถึง ส.ส.ใหม่ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา พรรครวมไทยสร้างชาติจึงมีความลงตัวของคนที่มีประสบการณ์และคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเป็น ส.ส.จึงไม่มีความกังวล เพราะนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค และอีกหลายคนก็ทำงานการเมืองการมาหลายปี เข้าใจบทบาทการทำหน้าที่ส.ส.จะใช้กลไกเหล่านี้ในการขับเคลื่อนงานให้ประเทศชาติและประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า แม้เราจะเป็นพรรคใหม่ แต่บุคลากรของพรรคมีความลงตัวในหลายกลุ่มวัย ตนเชื่อมั่นว่า ด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพจะได้เห็นผลงานของพรรคในด้านต่างๆ ต่อไป
“ต้องขอบคุณประชาชนที่ให้ความไว้วางใจ เลือกพรรครวมไทยสร้างชาติ เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อกว่า 4.7 ล้านคะแนน ถือว่ามากพอสมควร พรรคจะนำความไว้วางใจในครั้งนี้มาเป็นต้นทุน มาขับเคลื่อนการทำงานการเมือง ส่วน ส.ส.เขตที่ได้รับเลือกตั้งมานอกจากภารกิจในการดูแลประชาชนในพื้นที่แล้ว ยังต้องดูแลประชาชนทั้งจังหวัดถือเป็นนโยบายของพรรค โดยจะทำงานเชื่อมโยงกับแกนนำในเขตอื่น และผู้สมัครที่ยังไม่ได้รับการเลือกตั้ง ในอนาคตเชื่อว่า ประชาชนจะให้โอกาสถ้าได้ทำงานเชื่อมโยงกัน พรรคจะต้องวางกลไกและเครือข่ายในการรับฟังปัญหาของประชาชน เพื่อให้ ส.ส.ทั้ง 36 คน นำมาขับเคลื่อนในสภาฯ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พรรคจะทำให้เป็นรูปธรรม จึงขอให้ประชาชนมั่นใจและช่วยกัน ขยายผลงานของพรรคไปในสื่อทุกช่องทางเพื่อขยายแนวร่วมให้พรรคขับเคลื่อนในการดูแลประชาชนและประเทศชาติต่อไป