









วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนพรรคการเมือง และวิปวุฒิสภา ประกอบไปด้วย 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ได้แก่ ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ,พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ,พริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ,สุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ,จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่พรรคเพื่อไทย ,พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ ,ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานีพรรคภูมิใจไทย ,ภราดร ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ,เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและเลขาธิการพรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ ,วิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ,ชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ,ภาคภูมิ บุญประมุข ส.ส. ตาก พรรคพลังประชารัฐ ตัวแทนพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปไตยใหม่ รวมถึง มหรรณพ เดชวิทักษ์ และ วรารัตน์ อติแพทย์ จากวิปวุฒิสภา
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม วันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวขอบคุณตัวแทนพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภาที่เสียสละเวลามาร่วมการประชุม เพื่อหารือวาระสำคัญของรัฐสภา แม้ว่า ทุกคนจะมีภารกิจ แต่เพื่อให้งานของเรามีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสไว้ ซึ่งวันนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาประชุมไม่นาน เพราะถือเป็นการประชุมภายในของสภา เพราะทุกคนต่างเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เป็นเหมือนวิป 2 ฝ่าย เพราะตอนนี้เรายังไม่สามารถมีรัฐบาลได้ ในวันนี้ ส.ส.จึงมาในฐานะตัวแทนของพรรคการเมืองด้วย ตนต้องขอบคุณทุกคนที่มาร่วมประชุม
จากนั้น วันมูหะมัดนอร์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมฯ มีความเห็นร่วมกัน จะทำให้การประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และคาดว่า น่าจะมีการลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งก่อนจะลงมตินั้น จะมีการเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว.อภิปรายก่อน โดยแบ่งเป็นเวลาของ วุฒิสภา 2 ชั่วโมง และ ส.ส.ทุกพรรครวมกัน 4 ชั่วโมง โดยไม่กำหนดเวลาของ ส.ส.ผู้ที่จะอภิปรายแต่ละคน และหากมีการพาดพิง ก็สามารถชี้แจงได้ในกำหนดเวลาที่เหมาะสม
ส่วนการเปิดโอกาสให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงมติหรือไม่นั้น วันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ตามขั้นตอนจะมีการเสนอชื่อบุคคล ที่มีคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญ และ กกต.กำหนด และพรรคการเมืองสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อน จากนั้นจะอภิปรายโดย ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งก่อนที่จะลงมติ ก็สามารถอภิปรายถึงความเหมาะสม คุณสมบัติ และเรื่องต่าง ๆ ได้ เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วก่อนมีการลงมติ หากมี ส.ส. หรือ ส.ว.เสนอให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อแสดงวิสัยทัศน์ ก็จะต้องขอมติจากที่ประชุมก่อน เนื่องจากข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดขั้นตอนนี้ไว้
วันมูหะมัดนอร์ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่หากรัฐสภา ไม่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในครั้งแรกในการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งถัดไปจะสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้อีกหรือไม่ เนื่องจากยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า การลงมติครั้งแรกผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากไม่ผ่านก็จะต้องมาพิจารณาอีกครั้ง โดยยึดรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุม และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินในอดีต และหน่วยงานที่เกี่ยวมาพิจารณาว่าจะ ดำเนินการต่อไปอย่างไร จึงขอให้การประชุมฯ ครั้งแรกผ่านพ้นไปก่อน หากยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐสภาก็จะต้องดำเนินการหาตัวบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐสภา
วันมูหะมัดนอร์ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อการอภิปรายบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากมีข้อบังคับการประชุมกำกับไว้แล้ว จึงไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆ เช่นเดียวกับ การมีมวลชนมาติดตามการประชุมในวันดังกล่าว ซึ่งมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของ ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่มาปฏิบัติหน้าที่ และในวันนี้ (11 ก.ค.) ตนได้นัดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติหลังจะมีการประกาศสถานการณ์การชุมนุมสาธารณะให้ผู้ที่จะมาชุมนุมต้องปฏิบัติตามกติกาและกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้ รวมถึงจะมีการถ่ายทอดระบบภาพ และเสียงการประชุมไปยังสถานที่ที่กรุงเทพมหานคร จะจัดไว้รองรับให้ โดยหวังว่า การประชุมในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงยังหวังว่า ทุกพรรคการเมือง ที่จะนำมวลชนมาส่วนหนึ่งไปพูดคุยกับมวลชนให้เข้าใจตรงกัน และเชื่อในเจตนาดีของประชาชน ที่ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง พร้อมเชื่อว่า หากเกิดเหตุความวุ่นวายทำให้การประชุมไม่เรียบร้อย ก็จะทำให้การได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าช้า และกระทบต่อความเชื่อถือของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย จึงขอให้มวลชนคิดให้หนัก
วันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอให้มีการเลื่อนการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะจะต้องรอดูในวันประชุมจริงก่อนว่าจะมีการเสนอหรือไม่
ทั้งนี้ ก่อนการประชุม วันมูหะมัดนอร์ ได้กล่าวขอบคุณตัวแทนพรรคการเมืองและสมาชิกวุฒิสภาที่เสียสละเวลามาร่วมการประชุม เพื่อหารือวาระสำคัญของรัฐสภา แม้ว่า ทุกคนจะมีภารกิจ แต่เพื่อให้งานของเรามีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัสไว้ ซึ่งวันนี้คาดว่าน่าจะใช้เวลาประชุมไม่นาน เพราะถือเป็นการประชุมภายในของสภา เพราะทุกคนต่างเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา เป็นเหมือนวิป 2 ฝ่าย เพราะตอนนี้เรายังไม่สามารถมีรัฐบาลได้ ในวันนี้ ส.ส.จึงมาในฐานะตัวแทนของพรรคการเมืองด้วย ตนต้องขอบคุณทุกคนที่มาร่วมประชุม
จากนั้น วันมูหะมัดนอร์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมฯ มีความเห็นร่วมกัน จะทำให้การประชุมดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และคาดว่า น่าจะมีการลงมติเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ซึ่งก่อนจะลงมตินั้น จะมีการเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว.อภิปรายก่อน โดยแบ่งเป็นเวลาของ วุฒิสภา 2 ชั่วโมง และ ส.ส.ทุกพรรครวมกัน 4 ชั่วโมง โดยไม่กำหนดเวลาของ ส.ส.ผู้ที่จะอภิปรายแต่ละคน และหากมีการพาดพิง ก็สามารถชี้แจงได้ในกำหนดเวลาที่เหมาะสม
ส่วนการเปิดโอกาสให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ที่ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล สนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี แสดงวิสัยทัศน์ก่อนการลงมติหรือไม่นั้น วันมูหะมัดนอร์ ชี้แจงว่า ตามขั้นตอนจะมีการเสนอชื่อบุคคล ที่มีคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญ และ กกต.กำหนด และพรรคการเมืองสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีต่อที่ประชุมรัฐสภาก่อน จากนั้นจะอภิปรายโดย ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งก่อนที่จะลงมติ ก็สามารถอภิปรายถึงความเหมาะสม คุณสมบัติ และเรื่องต่าง ๆ ได้ เมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้นแล้วก่อนมีการลงมติ หากมี ส.ส. หรือ ส.ว.เสนอให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อแสดงวิสัยทัศน์ ก็จะต้องขอมติจากที่ประชุมก่อน เนื่องจากข้อบังคับการประชุมไม่ได้กำหนดขั้นตอนนี้ไว้
วันมูหะมัดนอร์ ยังปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่หากรัฐสภา ไม่สามารถลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีได้ในครั้งแรกในการประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งถัดไปจะสามารถเสนอชื่อนายพิธาได้อีกหรือไม่ เนื่องจากยังไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า การลงมติครั้งแรกผลจะเป็นอย่างไร ซึ่งหากไม่ผ่านก็จะต้องมาพิจารณาอีกครั้ง โดยยึดรัฐธรรมนูญ ข้อบังคับการประชุม และคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ความเห็นของผู้ตรวจการแผ่นดินในอดีต และหน่วยงานที่เกี่ยวมาพิจารณาว่าจะ ดำเนินการต่อไปอย่างไร จึงขอให้การประชุมฯ ครั้งแรกผ่านพ้นไปก่อน หากยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐสภาก็จะต้องดำเนินการหาตัวบุคคลมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของรัฐสภา
วันมูหะมัดนอร์ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่รู้สึกกังวลต่อการอภิปรายบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของที่ประชุมรัฐสภา เนื่องจากมีข้อบังคับการประชุมกำกับไว้แล้ว จึงไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆ เช่นเดียวกับ การมีมวลชนมาติดตามการประชุมในวันดังกล่าว ซึ่งมีมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยของ ส.ส. และ ส.ว. รวมถึงเจ้าหน้าที่รัฐสภา ที่มาปฏิบัติหน้าที่ และในวันนี้ (11 ก.ค.) ตนได้นัดประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติหลังจะมีการประกาศสถานการณ์การชุมนุมสาธารณะให้ผู้ที่จะมาชุมนุมต้องปฏิบัติตามกติกาและกฎหมาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยให้ รวมถึงจะมีการถ่ายทอดระบบภาพ และเสียงการประชุมไปยังสถานที่ที่กรุงเทพมหานคร จะจัดไว้รองรับให้ โดยหวังว่า การประชุมในวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงยังหวังว่า ทุกพรรคการเมือง ที่จะนำมวลชนมาส่วนหนึ่งไปพูดคุยกับมวลชนให้เข้าใจตรงกัน และเชื่อในเจตนาดีของประชาชน ที่ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และเห็นการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง พร้อมเชื่อว่า หากเกิดเหตุความวุ่นวายทำให้การประชุมไม่เรียบร้อย ก็จะทำให้การได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ล่าช้า และกระทบต่อความเชื่อถือของประเทศ กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศด้วย จึงขอให้มวลชนคิดให้หนัก
วันมูหะมัดนอร์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) เสนอให้มีการเลื่อนการประชุมรัฐสภา เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีออกไปก่อนว่า ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ เพราะจะต้องรอดูในวันประชุมจริงก่อนว่าจะมีการเสนอหรือไม่