‘อนุทิน ชาญวีรกูล’ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลุกขึ้นชี้แจงแทนนายกฯ ในประเด็นที่ ‘จุลพงษ์ อยู่เกษ’ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายกล่าวหาว่าประเด็นเรื่อง ที่ดินอัลไพน์และเขากระโดง เป็นการต่อรองผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย
โดย ‘อนุทิน’ ชี้แจงว่า รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ไม่ใช่กิจการของใครคนใดคนหนึ่ง ยืนยันไม่มีการแบ่งผลประโยชน์ใดๆ อย่างที่ถูกกล่าวหา และยืนยันว่านายกรัฐมนตรี ไม่เคยเข้ามาแทรกแซงหรือสั่งการทั้งทางตรงและทางอ้อม เพื่อเอื้อประโยชน์แก่บริษัทอัลไพน์ และบุคคลในครอบครัวแม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนกรณีการเพิกถอนเอกสารที่ดิน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมากกว่า 20 ปี และเรื่องนี้มีคำสั่งมีคำพิพากษาของศาลไปแล้ว และเรื่องนี้ได้มายุติในรัฐบาลของแพทองธาร ยืนยันกระบวนการทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย
“แทนที่จะกล่าวหาว่าท่านทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองและบุคคลในครอบครัว จริงๆ แล้วเราควรจะชื่นชมนายกรัฐมนตรี ที่ได้ให้นโยบายต่อกระทรวงมหาดไทยและกรมที่ดินผ่านทางผม และให้ยึดถือกฎหมายเป็นหลักและไม่ต้องคำนึงถึงผลกระทบใด ๆ ที่จะไปถึงตัวนายกรัฐมนตรีและครอบครัว”
อนุทิน กล่าว

พร้อมชี้ให้เห็นว่า ตอนนี้นายกฯ และครอบครัว ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย เช่นเดียวกับลูกบ้านอัลไพน์รายอื่น เพราะ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ไปแล้ว ดังนั้น นายกรัฐมนตรี ต้องใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง เพื่อขอรับค่าทดแทนจากการกระทำนิติกรรมที่เป็นการบกพร่องของกรมที่ดินในอดีต

ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องเขากระโดง อนุทิน ชี้แจงว่า เป็นกรณีที่กรมที่ดินปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง ที่มีคำสั่งให้กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ซึ่งคณะกรรมการชุดดังกล่าว มีมติเป็นเอกฉันท์ว่าไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดิน ตามที่การรถไฟได้ฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งขณะนี้การรถไฟ แห่งประเทศไทย ยังคงสิทธิ์ไว้ที่จะไปดำเนินการฟ้องศาลต่อ เพื่อให้มีคำสั่งให้เพิกถอนหรือไม่เพิกถอน
อีกทั้ง คำพิพากษาของศาลปกครอง ได้ระบุไว้ว่า การดำเนินการของคณะกรรมการสอบสวน ตามมาตรา 61 เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้แล้ว ได้ผลอย่างไร ศาลไม่อาจก้าวล่วงได้ ดังนั้นต่อให้เป็น นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ไม่สามารถก้าวล่วงได้

ช่วงท้าย ‘อนุทิน’ ได้ย้ำว่า การเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์และกรณีเขากระโดง ไม่มีความเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด และไม่มีการตกลงผลประโยชน์ใดๆ แม้แต่น้อย และทั้งสองกรณีกรมที่ดินต้องดำเนินการตามคำสั่งของศาล ทั้งสองกรณีเกิดขึ้นก่อนที่แพทองธารดำรงตำแหน่งเป็นนายกฯ และผมจะเข้ามาดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เสียอีก
ยืนยัน ข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีข้อเท็จจริงหรือไม่มีมูลแต่อย่างใด ดังนั้นในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่ง จึงขออนุญาตชี้แจงและขอจบด้วยคำว่า “ สู้ๆแพทองธาร ”
