ชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ยืนยัน กรรมาธิการฯ จะเดินทางไปตรวจสอบที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตามเดิมในวันที่ 12 ม.ค.นี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง โดยขณะนี้ รอหนังสือตอบกลับของกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ เพราะได้ทำหนังสือไปก่อนปีใหม่
หากทั้ง 2 หน่วยงาน ไม่มีการตอบรับ ก็จะต้องชี้แจงเหตุผลให้ประชาชนได้ทราบว่า ทำไมถึงไม่ให้ไปทำการตรวจสอบ เพราะวันนี้ โรงพยาบาลตำรวจเองก็ต้องตอบสังคมให้ได้ว่า กล้องวงจรปิดที่มีทั้งหมดเสียเพราะอะไร ทำไมถึงไม่มีงบประมาณมาซ่อมแซม
ส่วนกระแสข่าวที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทยนั้น ชัยชนะ มองว่า เรื่องนี้จะเป็นชนวนเหตุทำให้เห็นว่าสังคมมี 2 มาตรฐาน และทำให้เป็นชนวนเหตุที่ทำให้ก่อม็อบลงถนนได้ อีกทั้งเมื่อไหร่ที่มีการให้ยิ่งลักษณ์ กลับมาโดยใช้วิธีการพิเศษเหนือนักโทษคนอื่น ก็จะเป็นชนวนเหตุทำให้อายุรัฐบาลสั้นลง
ยัน ‘ปชป.’ พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านมืออาชีพ เตรียมขุนพลพร้อมชำแหละงบฯ ปี 67 โวยแหลกให้เวลาศึกษาข้อมูลน้อย อัด ‘รัฐบาลศรีธนญชัย’ ไม่จริงใจกับประชาชน
ส่วนความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท วันแรกนั้น พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการจัดสรรเวลามา 200 นาที ใน 3 วัน (3-5 ม.ค.) ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้ทั้งหมด 15 คน ซึ่งวันนี้จะเป็นการอภิปรายในภาพรวม เตรียมไว้ 5 คน ประกอบด้วย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ, สรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา, ว่าที่ ร.ท.นายยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช และตนเอง
ส่วนวันพรุ่งนี้ (4 ม.ค.) จะเป็นการอภิปรายในเรื่องทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เกษตร ก็ได้เตรียมคนอภิปรายไว้แล้ว ขณะที่วันสุดท้าย (5 ม.ค.) จะอภิปรายเรื่องสตรี และเรื่องท้องถิ่น และการสรุปภาพรวมจะมี ประมวล พงศ์ถาวราเดช สส.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนสรุป
ผมมองว่า งบประมาณปีนี้อยู่ที่ 3.48 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 2.95 แสนล้านบาท ก็ต้องมองว่าสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น เป็นงบกลาง 16,000 ล้านบาท และที่สำคัญ จะเห็นได้ว่าการทำงบประมาณของรัฐบาลชุดนี้ ที่เคยประกาศหาเสียงไว้กับประชาชน ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต และซอฟต์พาวเวอร์ ที่รัฐบาลบอกว่าจะเร่งดำเนินการ แต่ไม่มีอยู่ในแผนงบประมาณ ปี 67 ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า รัฐบาลไม่มีความจริงใจกับประชาชนในสิ่งที่ประกาศไว้กับประชาชน
ชัยชนะ ย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นส่วนงานสภาฯ หรืองานกรรมาธิการ ดังนั้น การอภิปรายงบประมาณ เป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และชี้ช่องให้เห็นว่า จุดไหนที่เป็นจุดอ่อนจุดไหนที่รัฐบาลไม่จริงใจกับประชาชน ส่วนการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการกระชากการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล ขึ้นอยู่กับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
วันนี้ ผมอยากจะฝากไปถึงกระทรวงมหาดไทย โดยเฉพาะกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เพราะเงินอุดหนุนเฉพาะกิจที่ผ่านท้องถิ่นแต่ละปี เดิมที่ระเบียบ พ.ร.บ.การเลือกตั้งท้องถิ่น ต้องอุดหนุนให้ได้ 35% แต่วันนี้อุดหนุนได้แค่ 29% ซึ่งยังไม่ถึง 35% และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจส่วนท้องถิ่น น่าสงสัยว่ามีงบประมาณการทำนวัตกรรมเยอะพอสมควร เช่น นวัตกรรมเสาไฟฟ้า ซึ่งผมมองว่า การทำโครงการแบบนี้ น่าจะมีการทุจริตคอรัปชั่น จึงต้องมาติดตามว่าการทำโครงการแบบนี้ มีบริษัทที่ผูกขาดหรือไม่ มีนวัตกรรมที่อยู่ในแผนงานกี่บริษัท โดยผมจะติดตามในสภาฯ และในกรรมาธิการงบประมาณอีกครั้ง ว่าเป็นมาอย่างไร
ส่วนกรณีที่รัฐบาลให้เวลาในการศึกษางบประมาณน้อยเกินไปนั้น มองว่าชัดเจนอยู่แล้ว เพราะเอกสารในการอภิปรายงบประมาณ ส่วนที่เป็นเอกสารได้รับวันนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับเป็นไฟล์เอกสารการศึกษาข้อมูลจึงเป็นระยะเวลาสั้น จริงๆ รัฐบาลควรจัดประชุมสัปดาห์ที่สองของปีใหม่ แต่รัฐบาลก็เร่งรีบ ซึ่งการเร่งรีบรีบของรัฐบาล ก็มองว่าเป็นธรรมดาของรัฐบาลศรีธนญชัย ที่ไม่มีความจริงใจกับประชาชน ซึ่งเราก็พร้อมทำงานและตรวจสอบอยู่แล้ว