ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับปมร้อนปัญหาที่ดิน ส.ป.ก.ทับซ้อนพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
โดยวันนี้ ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ในเรื่องที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มีเส้นแบ่งเขตตามพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ก.) ที่ผ่านมติทุกเรื่องมาแล้ว
ผมยืนยันความชัดเจน และความถูกต้อง และคงมีหลายเรื่องที่จะต้องชี้แจงใน กมธ. ส่วนกรณีที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ออกมาระบุ กรมแผนที่ทหาร ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นแนวกันชนนั้น ไม่มี แนวกันชน พ.ร.ก. เป็นแบบไหนก็แบบนั้น จะมาบอกว่า ตรงนั้นเป็นแนวกันชน ไม่ใช่
เมื่อถามย้ำว่า พื้นที่ดังกล่าว เป็นของกรมอุทยานฯ ใช่หรือไม่ ชัยวัฒน์ ก็ยืนยันว่า “ใช่ครับ” พร้อมถามกลับถึงคำว่า ‘แนวกันชน’ เป็นแนวหลอกลวงหรือเปล่า และขอยืนยันว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มี พ.ร.ก. จะเอาช่องว่างนั้นเป็นแนวกันชนไม่ได้ เรายืนยันด้วยหลักฐานที่เรามี และใช้ในชั้นศาลมา 30 ปีแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่า จะนำพื้นที่แนวกันชนนี้ไปให้ชาวบ้านปลูกป่า ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ตรงนั้นเป็นแนวของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นคนละเรื่องกัน
ถ้าความบริสุทธิ์ใจที่ออกมาแถลงข่าวแบบนั้น ก็รีบทำเลย ต้องเข้าใจว่า ‘แนวกันชน’ ในมาตรา 18 ของพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ เป็นเส้นสีฟ้า ไปดูได้เลยว่า แนวกันชนห่างจากอุทยานแห่งชาติออกไป 3 กิโลเมตร ไม่ใช่เอาช่องว่างของป่า หรือเส้นมาแบ่งเขตว่า ไม่ได้อยู่ในอุทยาน และเป็นแนวกันชน มันไม่ได้ ยืนยัน 100% ว่าเป็นพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
เมื่อถามต่อไปว่า การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ (One Map) เอามาใช้ไม่ได้จริงใช่หรือไม่นั้น ชัยวัฒน์ กล่าวว่า One Map ยังไม่ได้ประกาศใช้ และคนที่อยู่ในคณะกรรมการ One Map ก็เป็นคนเดียวกันกับที่มาอ้าง และออกเอกสารนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี ส่วนจะเป็นเอกสารที่ถูกต้องหรือไม่ค่อยมาว่ากัน
ส่วนจะมีโอกาสเข้าชี้แจงกับนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ถ้านายกรัฐมนตรีให้โอกาส ให้กรมอุทยานฯ หรือเจ้าหน้าที่เข้าชี้แจง ตนเองก็พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงความชัดเจน ความแม่นยำ ความถูกต้องต่อผืนป่าทั่วประเทศ ทั้งนี้ มองว่า การตัดสินของกรมแผนที่ทหาร ต้องพูดความจริงทั้งหมด เอารายละเอียดมาคุยกัน เรื่องจะจบง่าย แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ไม่จบแน่นอน
เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แล้วหรือไม่ ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ท่านสั่งการอยู่แล้ว ให้มีความถูกต้อง แม่นยำ และรอบคอบ ตนจะเดินหน้าต่อ ไม่มีปัญหา
ท่านเชื่อมั่นในเราอยู่แล้ว ถ้าไม่เช่นนั้นท่านก็ต้องปล่อยผมลอยคอสิ วันนี้ท่านบอกว่า ถ้าถูกต้อง ก็ทำเลย
เมื่อถามย้ำถึงการเรียก ‘ผู้ใหญ่’ ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มาคุยกัน เป็นความเข้าใจไม่ตรงกันใช่หรือไม่นั้น ชัยวัฒน์ มองว่า ผู้ใหญ่ฝั่งกระทรวงเกษตรฯ ต้องเข้าใจก่อน ที่เคยพูดว่า เป็นพื้นที่ทับซ้อนหมายความว่าอย่างไร แนวเขตป่าอนุรักษ์คืออะไร
ไม่ใช่ว่าขีดเข้ามาในแนวป่าแล้วบอกว่าเป็นแนวกันชน เป็นป่าชุมชน หรือปลูกป่าร่วมกัน มันไม่ใช่ ไม่อย่างนั้น คำพิพากษาศาลทุกคดีที่ถูกตัดสินไปแล้ว แสดงว่าเราผิด หรือแสดงว่าเจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ถือว่ามีความผิดใช่หรือไม่
ส่วนเมื่อถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคืออะไร ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ทุกคนต้องพูดความจริง กรมแผนที่ทหารต้องมีความซื่อสัตย์ในตัวเองก่อน ถ้ากระโดดไป กระโดดมา แบบนี้ถูกต้องหรือไม่ ทั้งนี้ ตนเองก็เรียนการสำรวจพื้นที่-การทำรังวัดแผนที่มา เป็นรุ่นแรกที่ทำสมุดจดการรังวัด (Field Book) และสมุดจดการรังวัดแบบไฟล์ดิจิทัล ในปัจจุบันมีความคลาดเคลื่อนเพียง 5 เซนติเมตร จะมาบอกว่า ตรงนั้นเป็นแนวของ ส.ป.ก.ไม่ได้
ผมขอถามว่า หลักของ ส.ป.ก.มีหรือไม่ เส้นของกรมพัฒนาที่ดิน ที่ระบุว่า การจำแนกที่ดินของ ส.ป.ก.มีหลักหมุดหรือไม่ ไม่ใช่เขียนในกระดาษแล้วมาบอกว่าใช่ ผมมีหมุด มีแผนที่ มีถนนรอบแนวเขต ที่ใช้งบประมาณถึง 145 ล้านบาท ก็ขอให้สังคมใช้วิจารณญาณว่า ของใครน่าเชื่อถือที่สุด เจอกันที่ศาล