‘นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว’ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุถึงกรณี กกต. ส่งเรื่องการถือหุ้นของ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่า ในขั้นตอนของการเสนอชื่อไม่เป็นปัญหา กระบวนการทุกอย่างยังคงเป็นไปตามที่กำหนดไว้ แม้ว่า กกต. จะชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่มองว่าทุกอย่างไม่เป็นการรบกวน หรือขาดความชอบธรรม ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำวินิจฉัยออกมา ถือว่า ‘พิธา’ ยังมีคุณสมบัติ และมีความชอบธรรม
ส่วนคำร้องเรื่องการให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุว่า เป็นคำร้องตามปกติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ม.82 เมื่อมีการให้วินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติก็สามารถร้องขอให้ศาลวินิจฉัยโดยขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ขณะรอฟังคำวินิจฉัยได้
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นข้ออ้างให้ ส.ว. ไม่โหวต ‘พิธา’ หรือไม่ ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุ ยอมรับว่าเป็นห่วง ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน เพราะเป้าหมายของ 8 พรรคร่วม คือต้องการให้ การโหวตนายกรัฐมนตรีสำเร็จลุล่วง แต่เมื่อข้อห่วงใยนี้เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า
‘นพ.ชลน่าน’ ยังยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ แต่ขอฝากว่าทำทุกอย่างให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งในสภาที่ต้องยึดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งพรรคก้าวไกล แต่พรรคเพื่อไทย เคยถามกลับไปยังพรรคก้าวไกลหรือไม่ว่าเขาจะทิ้งเราไปหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวที่วิเคราะห์กันว่านายกรัฐมนตรีอาจเป็นคนของเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ‘นพ.ชลน่าน’ บอกว่า ไม่เคยถามเรื่องนี้ เพราะเราต้องระมัดระวังทุกจังหวะการที่จะก้าวเดินไปพร้อมกัน คำถามไหนที่ไม่เหมาะสมเพราะในสถานการณ์ขณะนั้นอาจจะไม่ควรถามอย่างยิ่ง นอกจากนี้พรรคก้าวไกลในฐานะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาชวนเราเข้าร่วมรัฐบาล เราย่อมเชื่อมั่นในความจริงใจของพรรคก้าวไกล จะให้ไปถามกลับ “ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นจะทิ้งเราไหม ก็ไม่ควรถาม”
ส่วนคำร้องเรื่องการให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุว่า เป็นคำร้องตามปกติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ ม.82 เมื่อมีการให้วินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติก็สามารถร้องขอให้ศาลวินิจฉัยโดยขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ขณะรอฟังคำวินิจฉัยได้
ส่วนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะกลายเป็นข้ออ้างให้ ส.ว. ไม่โหวต ‘พิธา’ หรือไม่ ‘นพ.ชลน่าน’ ระบุ ยอมรับว่าเป็นห่วง ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วยกัน เพราะเป้าหมายของ 8 พรรคร่วม คือต้องการให้ การโหวตนายกรัฐมนตรีสำเร็จลุล่วง แต่เมื่อข้อห่วงใยนี้เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของพวกเราที่ต้องแก้ปัญหาให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่า
‘นพ.ชลน่าน’ ยังยอมรับว่าเป็นห่วงสถานการณ์การชุมนุมในวันพรุ่งนี้ แต่ขอฝากว่าทำทุกอย่างให้อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนทั้งในสภาที่ต้องยึดบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยยืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ทิ้งพรรคก้าวไกล แต่พรรคเพื่อไทย เคยถามกลับไปยังพรรคก้าวไกลหรือไม่ว่าเขาจะทิ้งเราไปหรือไม่ เพราะมีกระแสข่าวที่วิเคราะห์กันว่านายกรัฐมนตรีอาจเป็นคนของเพื่อไทย และพรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน ‘นพ.ชลน่าน’ บอกว่า ไม่เคยถามเรื่องนี้ เพราะเราต้องระมัดระวังทุกจังหวะการที่จะก้าวเดินไปพร้อมกัน คำถามไหนที่ไม่เหมาะสมเพราะในสถานการณ์ขณะนั้นอาจจะไม่ควรถามอย่างยิ่ง นอกจากนี้พรรคก้าวไกลในฐานะที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาชวนเราเข้าร่วมรัฐบาล เราย่อมเชื่อมั่นในความจริงใจของพรรคก้าวไกล จะให้ไปถามกลับ “ว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นจะทิ้งเราไหม ก็ไม่ควรถาม”