กลายเป็นประเด็นลากยาวและไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ สำหรับปมร้อนอย่าง ‘ฮั้วเลือก สว.’ ซึ่งถูกมองเป็นเป็นนิติสงครามระหว่าง ‘สีแดง’ และ ‘สีน้ำเงิน’ ตามมาด้วยการปะทะกันผ่านสื่อฯ ระหว่าง ‘ทีมอดีตผู้สมัคร สว.’ และ ‘พรรคภูมิใจไทย’ จนถึงขั้นขู่ฟ้องร้องและยื่นมีการยุบพรรคกันแล้ว
ขณะที่หลายคนให้ความเห็นถึงทิศทางของประเด็นร้อนดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจ หนึ่งในนั้นคือ รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง ที่มองว่า คดีนี้ไม่ใช่เกมการเมืองระหว่าง ‘แดง - น้ำเงิน’ โดยตรง แต่มาจากฝ่ายที่เป็น ‘สว.สำรอง’ ยังมีลุ้นว่าจะได้ขึ้นเป็นตัวจริง
ก็ทำทุกทาง มาจุดนี้ ก็หวังพึ่งเครือข่าย จึงไปทางสีแดง แต่เกมนี้ พรรคสีแดงไม่ได้เป็นคนเริ่มเรื่อง แต่อาจจะต้องตกกระไดพลอยโจน
— รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
ส่วนการฟ้องร้องกันไปมา, ฝ่าย กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง คิดว่ามีหลักฐานเด็ด แต่เราก็ยังไม่เห็น ตอนนี้เป็นคำบอกเล่าไปก่อน
เมื่อภูมิใจไทยฟ้องกลับบ้าง ทีนี้ก็ต้องเอาหลักฐานที่เคยกล่าวหาพรรคภูมิใจไทยมาเปิดโชว์ เป็นเรื่องดีกับประชาชน และถ้าไม่มีหลักฐานที่ว่า ก็เหนื่อยแทนคนที่ไปกล่าวหาเขา
— รศ.ดร.สุขุม นวลสกุล
ขณะที่การพบปะกันระหว่างผู้มีอำนาจทางการเมืองก่อนการเลือก สว. ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่า ‘ฮั้ว’ ผมมองว่าก่อนเลือกตั้งอะไรก็ตาม เขาก็ต้องมาคุยกัน เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องแปลกใหม่
ส่วนเมื่อถามว่าคดีนี้จะไปถึงขั้นยุบพรรคภูมิใจไทยหรือไม่? รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า “คดียังอีกยาว และไปไม่ถึงขั้นยุบพรรค”
อีกหนึ่งคนที่ให้ความเห็นประเด็น ‘ฮั้วเลือก สว.’ และ ‘พรรคภูมิใจไทย’ ได้อย่างน่าสนใจคือ เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ซึ่งเผยผ่านโซเชียลมีเดีย ว่า...
คดีฮั้วสว.
ภูมิใจไทย เสี่ยงอันตราย?
ถ้าพูดถึงคดีฮั้วสว. ซึ่งกำลังเป็นประเด็นทางการเมืองอยู่ในขณะนี้ ต้องยอมรับว่าพรรคภูมิใจไทยกำลังตกเป็นหมู่บ้านกระสุนตก ถนนทุกสายที่เกี่ยวข้องกับคดีฮั้วสว. จะพุ่งเป้ามาที่พรรคภูมิใจไทย จากกรณีที่กกต.และดีเอสไอได้ออกหมายเรียกสว. กลุ่มหนึ่ง ที่เรียกว่าสว.สายสีน้ำเงิน เข้าชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นล็อตๆ รอบแรก 22 คน รอบที่สอง 22 คน และรอบที่สาม 11 คน
จนล่าสุดมีการออกหมายเรียกไปยังบุคคลที่เกี่ยวข้องกับพรรคภูมิใจไทยอีก 10 คน ซึ่งเป็นทั้งรัฐมนตรีในปัจจุบัน อดีตรัฐมนตรี นายกอบจ.นครศรีธรรมราช สว.ที่เคยเป็นผู้สมัครส.ส.ในนามพรรคภูมิใจไทย และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับสว. ชุดนี้ ซึ่งทั้งหมดเป็นคนในเครือข่ายพรรคภูมิใจไทยทั้งสิ้น
จะเห็นได้ว่ากระบวนการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงคดีฮััวสว. กำลังคืบคลานเข้ามาถึงพรรคภูมิใจไทยอย่างปฏิเสธไม่ได้ จนต้องนำประกาศของพรรค ที่ลงนามโดยนายอนุทิน ชาญวีรกุลหัวหน้าพรรค ห้ามไม่ให้ ส.ส. รัฐมนตรี กรรมการบริหารพรรค เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งสว. มาเป็นเกราะป้องกันข้อกล่าวหาว่า พรรคภูมิใจไทยรู้เห็นเป็นใจให้สมาชิกพรรคไปยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งสว. การนำประกาศของพรรคขึ้นมา ก็เพื่อแสดงเจตนาให้เห็นว่าพรรคไม่ได้ยุ่งเกี่ยว
แต่ถ้าหากในข้อเท็จจริง มีพยานหลักฐานที่กกต.และดีเอสไอนำสืบไปถึงพรรคภูมิใจไทย ก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไป
ในขณะเดียวกันยังมีนายณฐพร โตประยูร ได้เคลื่อนไหวยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างเรื่องพยานหลักฐานมีครบ ซึ่งนายอนุทินเคยแสดงความเห็นไปว่า ไม่สนใจ ไม่ให้ราคาแล้ว จนล่าสุดนางกุสุมาลวตี ศิริโกมุท อดีตผู้สมัครสว.ยื่นต่อกกต.เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคภูมิใจไทย โดยอ้างว่า มีพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค และนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จนพรรคภูมิใจไทยประกาศฟ้องดำเนินคดีนางกุสุมาลวตี มีการตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการฟ้องเพื่อปิดปากทางการเมือง หรือฟ้องเพราะถูกใส่ร้ายจริงๆกันแน่
ซึ่งเป็นสิทธิ์ของพรรคภูมิใจไทย ที่จะฟ้องกลับเพื่อปกป้องตัวเอง ในขณะเดียวกัน นางกุสุมาลวตี ก็สามารถนำเอาพยานหลักฐานมาพิสูจน์ความจริงกัน เพราะถ้าเป็นข้อเท็จจริง และมีพยานหลักฐานชัดเจนพรรคภูมิใจไทยก็อาจจะถูกยุบพรรคได้ ซึ่งทั้งหมดก็ต้องไปพิสูจน์ที่ศาล
สำหรับปรากฏการณ์คดีฮั้วสว.ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ น่าจะมีอยู่ 3 ปรากฏการณ์ชัดๆคือ
1.ประชาชนทั้งประเทศส่วนใหญ่เชื่อว่า การเลือกตั้งสว.ที่ผ่านมามีการฮั้ว บล็อกโหวตกัน ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
2.กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เดินหน้าเจาะหาข้อมูล พยานหลักฐาน ซึ่งมีทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร เส้นทางการเงิน สถานที่ ข้อมูลการคุยโทรศัพท์ ยิ่งคุ้ยยิ่งเจอ ยิ่งค้นยิ่งพบ ซึ่งอาจลุกลามไปถึงกับพรรคภูมิใจไทยได้
3.คดีฮั้วสว.เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย ฟาดฟันทางการเมือง จนในที่สุด ต้องเจรจาสงบศึก ฮั้วประโยชน์ทางการเมืองกันลงตัว
ถ้าหากว่าเป็นกระแสสังคมเชื่อว่า สว.ชุดนี้ได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่โปร่งใส ก็ควรจะยกเลิกทั้งชุดเพื่อเลือกตั้งใหม่ แต่ถ้าฮั้วประโยชน์กันได้ อาจมีสว.กลุ่มหนึ่งประเภทปลาซิวปลาสร้อยสังเวยคดีนี้ เพื่อไม่ให้สังคมกล่าวหาว่า เป็นมวยล้มต้มคนดู
— เทพไท เสนพงศ์