ชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันถึงมติพรรค ในการโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
คือพรรคประชาธิปัตย์จะงดออกเสียงทั้ง 25 เสียง ซึ่งทุกคนจะโหวตไปในทิศทางเดียวกัน และมั่นใจว่าจะไม่มีใครแตกแถว ส่วนตัวคิดว่าการแสดงออกสะท้อนความเป็นเอกภาพ ความสามัคคี จะเป็นการเรียกความศรัทธาของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย อีกทั้งวันนี้ ต้องยอมรับว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีมีการเสนอเพียงคนเดียว ดังนั้น การงดออกเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวคิดว่าเป็นมติที่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ประเทศต้องเดินต่อไป ในเมื่อไม่มีคู่แข่งขัน จะไปโหวตสวนอย่างอื่นเลยก็ดูไม่ดี จึงเป็นที่มาของการงดออกเสียง
ส่วนทำไมถึงใช้วิธีงดออกเสียง ไม่ใช้การโหวตสวนมติคือไม่เห็นด้วย ชัยชนะ ย้ำว่า การงดออกเสียง คือการแสดงจุดยืนทางหนึ่งในการแสดงออกว่า ไม่เห็นด้วย
ต้องยอมรับว่า การเสนอชื่อเพียงคนเดียว และเราไปโหวตไม่เห็นด้วยมันเป็นไปไม่ได้ ในสมัยที่มีการโหวตชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ประชาธิปัตย์ก็โหวตงดออกเสียงเช่นกัน
ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยให้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีอายุเพียง 37 ปี ยังไม่ครบ 38 ปีมาเป็นผู้นำทัพนั้น รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า ทุกคนที่มีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญมาตรา 98 หรือมาตรา 160 แพทองธาร มีคุณสมบัติครบ อายุเกิน 35 ปี เป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ตามกฏหมาย ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกันที่สังคมไทยเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาว เข้ามาบริหารประเทศ ก็เป็นสิ่งที่ดีที่พรรคเพื่อไทย กล้านำเสนอ
เมื่อถามถึงมุมมองต่อ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นบิดา จะมีบทบาทกับ แพทองธาร หรือไม่นั้น ชัยชนะ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องไปถาม ทักษิณ แต่การแถลงจัดตั้งรัฐบาลเมื่อวันที่ 15 ส.ค. แพทองธาร ก็แถลงร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาลเอง และไม่มี ทักษิณ
เมื่อถามว่า จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะตั้งแต่วันแรก แม้ ทักษิณ จะเป็นสมาชิกพรรค แต่ก็มีการนัดพรรคร่วมรัฐบาลไปพูดคุยกันถึงบ้านจันทร์ส่องหล้า ขณะที่ แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้อยู่ด้วยนั้น ชัยชนะ มองว่า เรื่องนี้ต้องไปดูข้อกฎหมาย ตอบแทนไม่ได้ ก็ต้องรู้ว่าหลังจากนี้จะมีการดำเนินการกันอย่างไรบ้าง เชื่อว่าหลังจากนี้ ก็จะมีคนไปถามองค์กรที่สามารถชี้แจงเรื่องนี้ได้
ส่วนการวางแผนทำงานต่อไปของพรรคประชาธิปัตย์จากนี้ เมื่อได้นายกรัฐมนตรีมาแล้ว ก็ต้องดูว่าการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา มีอะไร
เราก็ต้องมาดูว่า เรื่องใดที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศเป็นนโยบาย แล้วไม่มีอยู่ในนโยบายเราก็ต้องสอบถาม ที่สำคัญเราต้องทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารอย่างเข้มแข็ง
เมื่อถามว่า จะตัดสินใจอย่างไรหากมีการเชิญเข้าร่วมรัฐบาล ชัยชนะ กล่าวว่า “ยังไม่ถึงเวลา ขณะนี้ยังเป็นฝ่ายค้านอยู่ และยังไม่เคยมีการทาบทามอะไร”
