‘เอกนัฎ’ ปลื้มใจกับผล ‘อบจ.’ เชื่อปี 70 ‘รทสช. - ภท. ได้บดกัน

4 ก.พ. 2568 - 05:07

  • ‘เอกนัฏ’ ระบุ ผลเลือกตั้ง นายกอบจ. ทำให้มั่นใจมากขึ้น

  • ชี้ เลือกตั้งสส.เที่ยวหน้า เป็นไปได้บดกับ ‘ภท.’ในภาคใต้ แต่ได้รัฐบาลผสม

Ekkanat-is-glad-that-the-party-won-the-local-elections-in-the- South-SPACEBAR-Hero (1).jpg

‘เอกนัฏ พร้อมพันธุ์’  รมว.อุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงผลการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีเครือข่าย ‘พรรครวมไทยสร้างชาติ' ได้รับการเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาพรรคประกาศชัดเจนว่าไม่ได้ส่งผู้สมัครใดในนามพรรค แต่คนที่ได้รับการเลือกตั้งถือว่าเป็นเครือข่ายพรรค ผลที่ออกมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจเพราะเครือข่ายของพรรครวมไทยสร้างชาติได้รับเลือกทั้งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ‘โสภา กาญจนะ’ ว่าที่ นายกอบจ. ที่ทั้งลูกสาวและลูกสะใภ้เป็น สส.พรรค รทสช. และ ‘ชุมพล กาญจนะ’ สามีก็เป็นที่ปรึกษาของพรรค และ ‘วิสุทธิ์ ธรรมเพชร’ ว่าที่ นายก อบจ.จ.พัทลุง  เป็นรองหัวหน้าพรรค รทสช. ขณะที่จ.ชุมพร ‘นพพร อุสิทธิ์’ ว่าที่นายก อบจ.ซึ่งเป็นน้องเขย ‘สุพล จุลใส’ สส.พรรค รทสช. และกวาด สจ.26 คนจาก ทั้งหมด 28 ที่นั่ง จึงถือว่าผลงานเป็นที่น่าพอใจ  

นอกจากตัวนายก อบจ. แล้วยังมี สจ.ที่ต้องบอกว่ามีความใกล้ชิดกับพรรคได้รับเลือกตั้งเป็นจำนวนมาก ตนเองได้คำนวณดูแล้วทั่วประเทศมากกว่า 100 คนที่ต่อไปนี้จะเป็นเป็นเครือข่ายและเป็นทีมงานสำคัญของพรรครทสช. โดยก่อนหน้านี้การเลือกตั้งท้องถิ่น พรรคให้เป็นสิทธิ์ประชาชนแต่ละพื้นที่ให้เลือกคนที่ดีที่สุดในการบริเข้าไปบริหารพื้นที่ แต่เป็นผลดีของพรรคที่มีผู้สมัครนายก อบจ.เป็นเครือข่ายของพรรคที่ประสบผลสำเร็จหลายคน 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเลือกตั้งนายกอบจ. และการ สจ.ในครั้งนี้จะส่งผลต่อการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้าของพรรค รทสช.หรือไม่ เอกนัฎ กล่าวว่า

"ทำให้พรรคมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น เพราะตอนที่ทำให้พรรคในครั้งแรกเริ่มต้นจากศูนย์ สส.ก็ไม่มี สจ.ก็ไม่มี ชื่อพรรคคนจำไม่ได้ มาวันนี้แล้วพรรค รทสช.มีจุดยืนที่ชัดเจนและสื่อสารออกไปให้ประชาชนได้เห็น และก็ได้รับการตอบรับที่ดี"

อีกทั้งพรรคมีเครือข่ายที่เข้มแข็งมี สส. 36 คน และวันนี้มีนายก อบจ. และสจ.ที่จะเป็นเครือข่ายทีมทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะแค่พื้นที่ภาคใต้ แต่ในพื้นที่ภาคใต้ก็หนาแน่นหน่อย และมีอีกหลายจังหวัดแม้ไม่ได้มีนายก อบจ. แต่ก็มี สจ.ที่เข้าไปช่วย อาทิ จังหวัดภูเก็ต ที่ชัดเจน 'เรวัต อารีรอบ' ว่าที่นายก อบจ.จ.ภูเก็ต ประกาศในนามลงอิสระแต่ได้รับการสนับสนุนจากทีมงานพรรค รทสช.ในที่สุดก็ประสบผลสำเร็จ  เช่นเดียวกับ จ.นราธิวาส  จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้ สจ.ครบทุกคนและยังไม่นับ จ.ราชบุรี จ.พิษณุโลก  หลายที่ก็ถือว่าประสบผลสำเร็จ 

เมื่อถามว่า มีพื้นที่ฐานเสียงในพื้นที่ภาคใต้แล้วการขยายไปยังพื้นที่อื่นๆ วางแผนอย่างไร เอกนัฏ กล่าวว่า การขยายฐานทางการเมืองก็ต้องทำ 2 ส่วน ส่วนแรกคือทำงานให้เกิดความศรัทธานั่นคือการสร้างกระแส ในส่วนนี้ทั้งหัวหน้าพรรคและตนเองก็พยายามพิสูจน์ด้วยผลงาน ที่ได้ทำให้กับกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนที่ 2 คือต้องมีเครือข่ายการเมืองที่เข้มแข็ง ซึ่งท้องถิ่น ต้องยอมรับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งของเครือข่ายการเมืองที่ต้องสร้างขึ้นก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ดังนั้น เที่ยวนี้ในพื้นที่เดิมก็ปักหลักได้อย่างมั่นคงและขยายในพื้นที่ใหม่ได้อีกเยอะพอสมควร มั่นใจว่าเที่ยวหน้าพรรค รทสช.ก็จะได้รับทั้งคะแนนนิยมคะแนนเลือกตั้งในแต่ละเขตมากขึ้นอย่างแน่นอน 

เมื่อถามว่า ดูจากผลการเลือกตั้งนายกอบจ. ในพื้นที่ภาคใต้อาจเป็นแนวโน้มสูงว่าการเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไปจะเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรค รทสช. เอกนัฏ เห็นว่า ก็เป็นไปได้ แต่ในการเลือกตั้งแข่งกันหมดและแข่งกันทุกพรรค เพียงแต่ว่าเมื่อเลือกตั้งเสร็จแล้วก็ต้องมาดู และแนวโน้มคงเป็นรัฐบาลผสมอีก ก็ต้องมามาคุยกัน แต่การเลือกตั้งทุกคนต้องแข่งขันกันหมด

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์