ความเคลื่อนไหวที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ ทยอยเดินทางมาที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวรัฐมนตรี ที่ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรีหลังนอก ดังนั้น เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา, พิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง, สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม, เผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง, อรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์, สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์, จักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม, จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ
โดย พิชิต กล่าวอย่างอารมณ์ดี ว่า “วันนี้ไม่ขอพูดอะไร ไว้เจอกันในวันอังคารที่ 7 พฤษภาคมนี้” ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกหนักใจอะไรหรือไม่ที่มีผู้ไปร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติ พิชิต ยิ้มและกล่าวว่า ”เลยตัวเบาหวิว“
ขณะที่ สุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงการได้กลับเข้าทำเนียบรัฐบาลในรอบ 7 เดือน ว่า ได้กลับเข้ามาทำงานให้ประเทศชาติบ้านเมืองเหมือนเดิม เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่จากได้เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการ แล้วต้องเปลี่ยนมาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ สุชาติ กล่าว เราทำงานเพื่อประเทศชาติไม่ใช่ทำงานเพื่อตัวเอง
ถามอีกว่า ไม่ได้มองว่าเป็นการลดชั้นใช่หรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า เรามาทำงานในส่วนที่ประเทศชาติต้องการ เราไม่ได้มีตำแหน่งเพื่อตัวเราเสียหน่อย ไม่ได้ซีเรียสอะไร
เมื่อถามว่า จากที่เคยอยู่กระทรวงแรงงาน แล้วเปลี่ยนมาเป็นกระทรวงพาณิชย์ จะมีปัญหาการทำงานอะไรหรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า เป็นการไปเรียนรู้กระทรวงด้านเศรษฐกิจอีกกระทรวงหนึ่ง ซึ่งทั้งสองกระทรวงก็มีความสัมพันธ์กัน เพราะหากแรงงานดี เกษตรดี ค้าขายดี ประเทศก็เจริญ ส่วนเรื่องการแบ่งงานในกระทรวงพาณิชย์นั้นตนยังไม่ได้คุยกับ ภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกฯ และรมวพาณิขย์ ซึ่งก็อยู่ที่ ภูมิธรรมจะมอบหมายงานอะไรให้ทำ และผมก็อยากจะมาร่วมมือทำงานกับท่าน
ถามต่ออีกว่า รู้สึกเกร็งหรือไม่ที่เคยทำงานกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ แล้วต้องมาทำงานกับรัฐบาล เศรษฐา ทวีสิน นั้น สุชาติ กล่าวว่า ไม่เลย เพราะเศรษฐาก็เป็นคนเก่งและมีความตั้งใจ แล้วตนก็ได้พบท่านมาแล้ว ได้ทานข้าวด้วยกัน และได้คุยเรื่องวิสัยทัศน์ต่างๆ โดยเศรษฐา สไตล์การทำงานที่รวดเร็วถึงลูกถึงคน คล้ายๆ กับ พล.อ.ประยุทธ์ และเศรษฐาก็เป็นคนชัดเจน
เมื่อถามว่า มีความกังวลเรื่องคดีความต่างๆ ในช่วงที่เป็น รมว.แรงงาน หรือไม่ สุชาติ กล่าวว่า สิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาเป็นเรื่องของการกล่าวหา และข้อมูลก็ไม่มีชื่อตน ส่วนเรื่องที่อยู่ในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องมีการพิสูจน์หาข้อเท็จจริงว่ามีชื่อของตนหรือไม่มี หรือตนเกี่ยวหรือไม่เกี่ยว ซึ่งตนก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และเชื่อในกระบวนการยุติธรรม
ขณะที่ จักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการมาดำรงตำแหน่ง รมต.สำนักนายกฯ เป็นพาสชั้นจากรัฐมนตรีช่วยมาเป็นรัฐมนตรีว่าการในรอบ 7 เดือน ว่า ไม่ได้พาสชั้นก็เหมือนเดิม ก็ทำงานตลอด
เมื่อถามว่า มักโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นสายตรง เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ จะชี้แจงอย่างไร จักรพงษ์ กล่าวว่า ที่จริงแล้วอาจจะไม่ทราบว่า ผมอยู่กับพรรคเพื่อไทยมา 14 ปี ทำงานเบื้องหลังมาตลอด เป็นกรรมการบริหารพรรคมาตั้งแต่ปี 2554 ก็ทำงานมาตลอด
เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับ ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตรมว.ต่างประเทศ หรือไม่หลังจากที่ ปานปรีย์ ลาออก จักรพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเลย
เมื่อถามย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาติดใจอะไรกันใช่หรือไม่ ระหว่าง รมช. กับ รมว. นั้น จักรพงษ์ กล่าวยืนยันว่า “ไม่มีเลยครับ”
เมื่อถามว่า จะมารับผิดชอบดูเรื่องงบประมาณพัฒนาชุมชน เรื่องงบประมาณได้ดูคร่าวๆ บ้างหรือยัง จักรพงษ์ กล่าวว่าต้องรอนายกฯ แบ่งงาน
เมื่อถามว่า หากดูความถนัดแล้วจะทำได้หรือไม่ จักรพงษ์ กล่าวว่า ก็พอทำได้ เพราะเราทำเรื่องงบประมาณมาหลายปี ตั้งแต่ปี 2562 ก็อยู่ในงบประมาณมาโดยตลอด ทำกับที่พรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด
นอกจากนี้ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ต่อคำถามว่าเคลียร์ใจกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง หลังถูกปรับจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ว่า "พร้อมทำงานแล้วคะ"
ถามต่อว่า รู้สึกนอยด์หรือไม่ สุดาวรรณ ตอบว่า ไม่มี พร้อมทำงาน ซึ่งนายกฯ คงพิจารณาแล้ว ว่าใครที่จะเหมาะทำงานตรงไหน
เมื่อถามว่า ได้ปรึกษา วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม ที่เป็นบิดา หรือไม่ หลังถูกย้ายมาเป็น รมว.วัฒนธรรม สุดาวรรณ กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้ปรึกษาเรื่องรับตำแหน่งอะไร
ถามอีกว่างานกระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คล้ายกันหรือไม่ สุดาวรรณ กล่าวว่า เดิมก็ทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ทั้งสองกระทรวงก็คุยกันบ่อย ไม่มีปัญหา ก็ทำงานตามปกติ
จากนั้นรัฐมนตรีชุดใหม่ ได้เดินทางโดยรถตู้ที่ทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จัดเตรียมไว้ เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฎิบัติหน้าที่ ภายในพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต
