ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่ง กรณี ‘ชาญชัย อิสระเสนารักษ์’ ซึ่งมีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เป็นโจทก์ และ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ เป็นจำเลย กรณีที่ขอให้ศาลสั่งไต่สวน กระบวนการบังคับโทษจำคุก ‘ทักษิณ’
ซึ่งศาลพิเคราะห์คำร้อง และเห็นว่า ชาญชัย ไม่ใช่คู่ความในคดีของศาลนี้ และไม่ใช่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการรับโทษจำคุกแก่ ทักษิณ ในคดีดังกล่าว เมื่อไม่ใช่ผู้มีส่วนได้เสียในชั้นบังคับตามคำพิพากษา จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องในศาลนี้
แต่เมื่อความปรากฏต่อศาล ว่าอาจมีการบังคับตามคำพิพากษาที่ไม่เป็นไปตามหมายจำคุก เมื่อคดีถึงที่สุดของศาลนี้ ศาลย่อมมีอำนาจในการไต่สวนและมีคำสั่งตามและมีคำสั่งตามที่เห็นสมควร
จึงเห็นควรส่งสำเนาคำร้อง ให้โจทก์และจำเลยในคดี หมายเลขแดง อม.4/2551 เจำเลยคดีที่หนึ่ง/ คดีหมายเลขแดงที่ อม.10/2552 และ จำ จำเลยคดีหมายเลขแดงที่ อม.5/2551 ของศาลนี้ แล้วให้โจทก์และจำเลย แจ้งต่อศาลว่า มีข้อเท็จจริง ตามที่กล่าวอ้างในคำตามที่กล่าวอ้างในคำร้องหรือไม่
โดยให้ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อธิบดีกรมราชัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณาของศาล ว่าการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการบังคับโทษจำคุกแก่จำเลยเป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดของศาลหรือไม่ อย่างไร โดยให้โจทก์จำเลย ดังกล่าว แจ้งให้ศาลทราบ พร้อมกับแสดงหลักฐานที่เกี่ยวข้องภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง โดย ศาลมีคำสั่งให้นัดไต่สวนในวันที่ 13 มิถุนายน เวลา 09.30 น.
ขณะที่ 'ชาญชัย อิสระเสนารักษ์' อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังเข้ารับฟังคำสั่งศาลรับ-ไม่รับ คดีกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ว่า หลังศาลมีคำสั่งดังนี้
- ส่วนตัวในฐานะที่เป็นผู้ร้อง ไม่ได้เป็นผู้เสียหายโดยตรง แต่ได้นำคำร้องที่มีข้อเท็จจริงและกฎหมายปรากฏต่อศาล ”ศาลจึงมีอำนาจในการนำคดีนี้ขึ้นพิจารณาเอง สรุปศาลใช้อำนาจของศาลในการพิจารณาคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการพิจารณาคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง“
- ศาลมีคำสั่งให้แจ้งไปยังจำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และแพทย์ใหญ่ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง ให้ชี้แจงพร้อมส่งสำเนาคำร้องของตนต่อศาลมาให้ศาลภายใน 30 วัน ศาลจะพิจารณาคดีต่อไป เป็นการไต่สวนของศาล 'สรุปศาลรับเรื่องที่ตนร้อง โดยศาลใช้อำนาจในการพิจารณาคดีตามกฎหมายของศาล' โดยศาลกำหนดจะไต่สวนเพิ่มเติม และแจ้งให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาใน วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 09.30 น.
.
ชาญชัย กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ให้อยู่ที่คำสั่งศาล เราไปก้าวล่วงศาลไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ว่าศาลออกหมายไปถึงอย่างไร ขณะนี้ศาลให้ชี้แจงก่อนภายใน 30 วัน และหลังจากนั้นศาลมีคำสั่งนัดไต่สวน ซึ่งคาดว่าจะนัดพร้อมอีกครั้งหนึ่ง เป็นกระบวนการของศาล เป็นไปตามที่ศาลพิจารณาตามกฏหมายอาญา ยืนยันนว่าศาลประทับรับฟ้องแล้ว
ส่วนเหตุการณ์ครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จหรือหนักใจ ชาญชัย กล่าวว่า อันนี้ให้ศาลไต่สวนศาลตามอำนาจหน้าที่ก็ถือว่าจบแล้ว ตนจะมาฟังทุกนัดที่ศาลพิจารณาคดีจะได้เรียนรู้ไปด้วย จะนำไปบอกให้ประชาชนได้ทราบว่าศาลได้ช่วยทำให้คดีเกิดความชัดเจน เกิดข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่มีการถกเถียงในสังคม ซึ่งข้อเท็จจริงจะปรากฏชัดหลังที่ศาลรับดำเนินคดี
จากนี้จะยื่นคำร้องเพิ่มเติม และจะติดตามที่ศาลใช่หรือไม่ ชาญชัย ย้ำว่า ไม่ถึงขนาดต้องติดตาม เป็นสิทธิในการที่ผู้ร้องจะมาฟัง ถ้าติดธุระก็คงไม่ได้มา อาจจะให้ 'นิติธร ล้ำเหลือ , สมชาย แสวงการ' อดีตสว. มาช่วยรับฟัง ซึ่งตนได้แจ้งกับศาลแล้ว อีกทั้งวันนี้เปิดให้นักข่าวรับฟังการไต่สวนแบบเปิดเผย ถือว่าแฟร์ ๆ ไม่ใช่ไม่ให้ใครรู้เรื่อง วันนี้ถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีของทุกฝ่าย และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง