ใช้เวลาพิจารณากันมาพักใหญ่ สำหรับกรอบวันและเวลาในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระที่ 2-3 รวมไปถึงการอภิปราย ‘รัฐบาลเศรษฐา’ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 จนล่าสุด สภาผู้แทนราษฎรก็ได้กำหนดการเบื้องต้นเป็นที่เรียบร้อย
เดิมที การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ วาระที่ 2-3 ได้กำหนดกันไว้วันที่ 20 - 22 มี.ค. 2567 โดยวันที่ 20 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-10.00 น. ส่วนวันที่ 21 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-24.00 น. และวันที่ 22 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. แต่ภายหลังจากที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ได้แจ้งต่อ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อทราบกำหนดวันเวลาดังกล่าวแล้ว
ปรากฏว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นว่า ควรกำหนดวันพิจารณาฯ เป็นวันที่ 20 - 21 มี.ค. และวันที่ 25 มี.ค. เริ่มประชุมเวลา 09.00-18.00 น. เนื่องจากในวันที่ 21 มี.ค. ทางประธานสภาฯ และ ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 มีกำหนดการไปปฏิบัติราชการต่างประเทศ หากนัดประชุมในวันที่ 22 มี.ค.ตามเดิม จะมีเพียงรองประธานสภาฯ คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ประธานของที่ประชุมสภาฯ เพียงท่านเดียว ซึ่งทาง วันมูหะมัดนอร์ ระบุว่าควรจะนัดประชุมเป็นวันที่ 25 มี.ค.แทน จะมีความเหมาะสมกว่า
ทั้งนี้ ประธานสภาฯ จะเป็นผู้พิจารณากำหนดวันเวลาในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการประสานงานร่วมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณากำหนดวันเวลาในการอภิปรายเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในระหว่างวันที่ 3 - 4 เม.ย. 2567 โดยกำหนดกรอบเวลาการพิจารณา ดังนี้
- วันที่ 3 เม.ย. 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00 น. แล้วพักการประชุมหลังเวลา 01.00 น. ก่อนเริ่มประชุมในวันถัดไป
- วันที่ 4 เม.ย. 2567 เริ่มประชุมเวลา 09.00-23.00 น.
ขณะที่การจัดสรรเวลามีดังนี้
- ประธานของที่ประชุม จำนวน 2 ชั่วโมง
- คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 6 ชั่วโมง
- พรรคร่วมฝ่ายค้าน จำนวน 22 ชั่วโมง
ส่วนกรณีผู้ประท้วง ให้หักเวลาจากฝ่ายของผู้ประท้วง