ท้าเปิดสภาฯ ซักฟอก! ปม ‘ทักษิณ​’ ได้รับอภิสิทธิ์พักโทษ

20 ก.พ. 2567 - 06:45

  • ‘พิชิต’ ท้าให้เปิดสภาฯ ซักฟอกเลย! ใครข้องใจ ‘ทักษิณ​’ ได้รับอภิสิทธิ์พักโทษ

  • อวยนั่งรถเข็นเข้ากระบวนการยุติธรรมเอง อ้างมี ‘อัยการ’ ทำผิดกฎหมาย หลังแอบถ่ายภาพ

If-anyone-concerned-about-Thaksin-case-please-HoR-forum-to-debate-SPACEBAR-Hero.jpg

ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงทั้งประเทศกรณี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการพักโทษนั้น 

พิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ก็ชี้แจงว่า เราต้องตั้งสติกัน อำนาจอธิปไตยของไทยแบ่งเป็นนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ การพักโทษอยู่ในขอบเขตอำนาจการบริหาร ทั้งนี้ คดีเก่าๆ ของทักษิณ ที่กลับมารับโทษในกระบวนการยุติธรรมจบลงแล้ว ตั้งแต่ศาลออกใบแดงแจ้งโทษ ขณะนี้ ทักษิณอยู่กระบวนบังคับโทษ บริหารโทษ ซึ่งอยู่ในอำนาจของฝ่ายบริหาร คือ กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ที่บริหารโทษอยู่

หากใครเห็นว่า กระบวนบังคับโทษ ไม่ถูกอย่างไร ก็ควรใช้เวทีสภาฯ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคม ไปตั้งกระทู้ถาม หรือหากถึงเวลาที่เหมาะสม พรรคฝ่ายค้านก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ แล้วตรวจสอบกันในระบบสภาฯ ดีกว่าจะเลือกที่รักมักที่ชัง มีอคติต่อกัน แล้วให้ประชาชนตัดสินว่า การชี้แจงอันไหนตอบได้ ไม่ได้ เคลียร์ ไม่เคลียร์ ถ้าบ้านเมืองอยู่กันแล้วไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ ตามใจกัน เอาแต่ใจกัน อยากวิงวอน ผมตั้งใจมาพูด ไม่ได้จะว่าร้ายใคร ยืนยันเรื่องนี้สามารถตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมาย ว่าการพักโทษ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และระเบียบหรือไม่ เราต้องมีหลักการ ยืนยันว่าการพักโทษนายทักษิณ ไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม

พิชิต ชื่นบาน

สำหรับคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ทักษิณ ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น คดีนี้จะทำให้เห็นว่า ทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วในเวลาที่เหมาะสม แม้จะไม่สะดวก นั่งรถเข็นไป ทักษิณก็เข้าไปสู่กระบวนการยุติธรรม เริ่มนับหนึ่งตั้งไปพบอัยการ เพราะเป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร และได้มีการนัดหมายฟังคำสั่งกัน

ทั้งนี้ ขอว่าอย่าเอา 2 เรื่อง มาปนกัน ถ้าเข้าใจตรงนี้ ขอให้เข้าใจกลไกระบบรัฐสภา เข้าใจเครื่องมือในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ เราจะได้อยู่กันด้วยหลักด้วยเกณฑ์ ไม่เช่นนั้น จะกลับไปสู่ความแตกแยกในสังคมที่ไม่พึงประสงค์ ตนจึงออกมาพูดในวันนี้ให้ทุกคนตั้งหลักว่า ระหว่างการพักโทษ ท่านก็เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างไม่อิดเอื้อน ไม่ได้ถูกอายัดตัว และไปพบอัยการเองด้วย ซึ่งตอนนี้ ได้รับการประกันตัวออกมา

ในฐานะนักกฎหมาย ผมมองว่าเรื่องการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยาก มันน่ากลัวมากกว่าสิ่งที่เรียกร้องว่าทำลายกระบวนการยุติธรรม ยังมีอีกหลายเรื่องที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมยากมาก เราน่าจะมาศึกษาว่าทำไมหลายเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมไม่ได้หรือเข้ายาก

พิชิต ชื่นบาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตเรื่องอาการของทักษิณ ที่ระบุว่าวิกฤติ แต่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ พิชิต กล่าวว่า อยากให้ไปดูหลักเกณฑ์ของการพักโทษว่า ท่านป่วยระดับไหน ไม่ใช่ว่าท่านจะต้องถึงขั้นโคม่า มันมีหลักเกณฑ์ ลำดับการให้คะแนนสุขภาพ และการจะป่วยจริงหรือไม่ อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัวมาวัด เราต้องแยกกรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ออกจากตัวทักษิณ ซึ่งทักษิณ เป็นฝ่ายถูกตรวจสอบว่า จะได้รับการพักโทษหรือไม่ 

ส่วนป่วยจริงหรือไม่ป่วยจริง ให้ตรวจสอบกันในระบบรัฐสภา และคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในกระบวนการพักโทษมีรวมแล้ว 19 หน่วยงาน เรื่องนี้อยากให้ดูหลักเกณฑ์ เพราะถ้าเอาความรู้สึกมาวัด จะเถียงกันไม่จบ

ส่วนที่มีการร้องเรียนให้แพทย์เปิดเผยอาการของทักษิณนั้น พิชิต ชี้แจงว่า ไม่ใช่แค่ทักษิณ แต่คนไข้ทั่วโลกไม่มีหมอคนใดจะเอาข้อมูลของคนไข้มาบอกกับสังคม มันเป็นกฎ กติกา จริยธรรม จรรยาบรรณของแพทย์ ส่วนกรณีไม่ติดกำไลอีเอ็มนั้น เป็นการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาพักโทษ ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์การปฏิบัติตัวออกมา

เมื่อวานไม่สบายใจ ระหว่างที่ท่านไปมอบตัว ได้ข่าวว่ามีอัยการท่านหนึ่งพยายามขอถ่ายรูปท่าน ไม่สบายใจครับ อยากให้ไปตรวจสอบกันว่าเป็นท่านใด ผมไม่สบายใจจริงๆ ไม่รู้จุดประสงค์ว่าจะถ่ายรูปเพื่ออะไร ทีมงานรายงานผมมา ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ไม่อยากเอ่ยนามว่าท่านใด

พิชิต ชื่นบาน

เมื่อถามว่า ขั้นตอนการรับทราบข้อกล่าวหา ไม่จำเป็นต้องถ่ายภาพใช่หรือไม่ พิชิต กล่าวว่า ไม่ควรถ่ายภาพอย่างยิ่ง ส่วนจะเป็นการละเมิดสิทธิ์หรือไม่นั้น มองว่าท่านควรรู้เลยว่าผิดกฎหมายเลย ไม่ใช่แค่เรื่องละเมิดสิทธิ์

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทักษิณได้พูดอะไรบ้างหรือไม่เกี่ยวกับเสียงวิจารณ์ พิชิต กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดต่อกับท่าน แต่สิ่งที่ตนพูดเป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อเท็จจริงที่ทราบ ส่วนการเคลื่อนไหวชุมนุมข้างทำเนียบฯ นั้น มองว่าเป็นสิทธิ์ แต่การให้ข้อมูลในที่ชุมนุม ควรให้ข้อมูลที่ถูกต้อง

If-anyone-concerned-about-Thaksin-case-please-HoR-forum-to-debate-SPACEBAR-Photo01.jpg

คนจับโป๊ะก็แหม! ‘จิรายุ’ ถามคนสงสัย ‘ทักษิณ’ ผมดำออกจาก รพ. ไม่เคยย้อมแบบหลอด 199 บาทหรือ? รับอยากให้มาเป็น ที่ปรึกษา แต่เป็นเรื่องอนาคต

สำหรับกรณีการพักโทษของ ‘ทักษิณ​’ ที่มีคนพยายามจับผิดนั้น จิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกโฆษกกระทรวงกลาโหม ในฐานะสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ตอบโต้ว่า หากมีเวลาว่าง ก็น่าจะนำไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์กว่านี้ เช่น การบอกว่าในโรงพยาบาลตำรวจ มีร้านย้อมผมด้วยหรือ เห็นทักษิณ ผมดำออกมา ก็แปลกใจว่า คนที่พูดเรื่องนี้ ไม่เคยไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือ

ตอนนี้เขามีแบบพิเศษ คือเป็นหลอดที่กดแล้วสามารถย้อมได้ ผมย้อมเป็นประจำ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้าน

จิรายุ ห่วงทรัพย์

ส่วนเรื่องของการใส่เฝือกนั้น เฝือกจะอยู่ระดับล่าง ระดับตรง ตนว่าหากจะต้องใส่ขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ ไม่ใช่สาระสำคัญ

คนจับโป๊ะก็แหม...จับจริ๊ง ผมคิดว่า ที่ย้อมผมก็มีร้านเยอะแยะขาย หลอดละ 199 บาทเอง ผมก็ย้อมอยู่เป็นประจำ เฝือกถ้าจำเป็นต้องใส่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก งอเล็กงอน้อย คนมันเมื่อย ผมเคยแขนเดาะแขนหัก พองอนานๆ ก็รู้สึกเมื่อย จึงลองกดดู ภาพถ่ายเขาอุตส่าห์ถ่ายมาให้แล้ว ผมคิดว่าก็น่าจะเป็นประโยชน์ บ้านเมืองเราช้ำมาเยอะแล้ว เดินเลยไปถึงอนาคตบ้างเถอะ อยากให้เศรษฐกิจดีๆ กลับคืนมา จริงๆ อยากให้ท่านมาเป็นที่ปรึกษา จะได้แก้ไขเศรษฐกิจให้กับบ้านเมือง ประเทศไทยจะได้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

จิรายุ ห่วงทรัพย์

เมื่อถามว่า อยากให้ ทักษิณมาเป็นที่ปรึกษาในด้านไหน จิรายุ กล่าวว่า วันนี้ท่านจะมาหรือไม่ก็ตอบยาก วันนี้ในเมืองไทยก็มีผู้อาวุโสที่เราให้ความเคารพนับถือ

ผมโตมาก็มีลูกพี่ มีเพื่อน มีหัวหน้า เวลามีปัญหาอะไรที่ขัดข้องหมองใจ หรือหาคำตอบไม่ได้ ผมก็ถาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ทุกองค์กรมีที่ปรึกษา แต่จะมาเป็นที่ปรึกษาอย่างไรนั้น ผมคิดว่าเป็นเรื่องของอนาคต เดี๋ยวรอดูอีกสักระยะ

จิรายุ ห่วงทรัพย์

อยากไปพบ ‘ทักษิณ’ เวลานี้คงไม่เหมาะสม

ส่วนในพรรคเพื่อไทย ได้มีการพูดคุยกันว่าจะเข้าพบทักษิณหรือไม่นั้น จิรายุ ยอมรับว่า พวกเราก็อยากไปพบท่าน สมัยที่ทักษิณ อยู่ต่างประเทศพวกเราก็เดินทางไปหาท่าน แต่ตอนนี้ ทักษิณมาอยู่ที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ เราก็อยากไป แต่ช่วงเวลา ณ นี้ยังคงไม่เหมาะสม ก็อยากให้ท่านพักผ่อน

คิดภาพครับ ว่าผมไปต่างประเทศมา 10 วัน ผมยังสั่งกะเพราไก่กินเลย ใจจะขาด กินแต่อาหารเลี่ยนๆ แต่นี่ท่านอยู่ตั้ง 17-18 ปี ก็ต้องให้ท่านทำความคุ้นเคย กับครอบครัว อนาคตอาจจะเห็นท่านไปเดินห้างหรืออะไรต่างๆ ก็ถือว่าท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งที่จะอยู่ในประเทศไทย ที่จะแก้ปัญหาให้กับพี่น้องคนไทยด้วย

จิรายุ ห่วงทรัพย์

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า หลังจากทักษิณออกมา อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองนั้น จิรายุ กล่าวว่า จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ตนเป็นคนตัวเล็กตัวน้อยที่จะตอบ จึงขอสงวนประเด็นนี้ที่จะตอบ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จะไปวิเคราะห์ได้ ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่าจะเห็นเป็นอย่างไร

โวยถูกกระทำ ‘2 มาตรฐาน’ มาโดยตลอด ปัดตอบปม ‘ปรับ ครม.’ บอก ‘ตัวเล็กตัวน้อยเกินจะตอบ’

สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้าน และ สว. ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าเป็นการกระทำ 2 มาตรฐาน มีอภิสิทธิ์ชน จิรายุ กล่าวว่า ที่ฝ่ายค้านออกมาโจมตีว่า 2 มาตรฐาน พวกตนก็ถูกกระทำสองมาตรฐานมาโดยตลอด

ที่สำคัญคือ มาตรฐานของ สว.บางคน ก็ 3 มาตรฐาน บางคนก็เหาะเหินเดินอากาศมาเป็น สว. บางคนผมยังไม่รู้จักชื่อ พูดในสภาฯ สักแอะก็ยังไม่เคย ที่สำคัญคือ ผมคิดว่าวันนี้มันเลยจุดเดือด เริ่มเข้าสู่จุดเย็นแล้ว เป็นหน้าที่ของ สว. และฝ่ายค้าน ที่จะช่วยกันขับเคลื่อนไปข้างหน้า เวลาผ่านมา 17 ปีแล้ว ไม่เบื่อกันหรือไง ปล่อยให้กลไกของประเทศทำงานไป นำพาประเทศไทยเข้าไปข้างหน้าดีกว่า

จิรายุ ห่วงทรัพย์

เมื่อถามย้ำถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี จิรายุ กล่าวว่า “ผมตัวเล็กตัวน้อยเกินที่จะตอบ” พร้อมหัวเราะ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์