เรียกเสียงฮือฮาไปพอสมควรกับการออกมาประกาศ ‘ถอนตัว’ จากการร่วมรัฐบาลกับ ‘พรรคเพื่อไทย’ ของ ‘พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส’ แถมทิ้งบอมบ์ใส่ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ตัดสัมพันธ์ 51 ปี เพราะ “น้อยใจ” พร้อมแฉแชทลับปม ‘ชั้น 14 รพ.ตำรวจ’ โดยอ้างมีไม้เด็ดที่เตรียมปล่อยออกมาเป็นสเต็ปๆ อีกด้วย
“พูดตลอดเวลาเป็นหนี้ผมเป็นพันครั้งต้องชดใช้ แต่พูดแล้วก็เฉย แม้กระทั่งตอนผมไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็พูดว่าต้องตอบแทน แต่ก็เฉย ไม่เป็นไร เพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ แพทองธาร จะเอา สส. หรือไม่เอา สส. ก็ได้ เป็นอำนาจนายกฯ แต่ลืมผมทุกที”
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (29 ส.ค. 2567)
เขี่ยลูกมาแบบนี้ ‘จตุพร พรหมพันธุ์’ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน จึงกระตุ้นให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ รีบเปิดเผยข้อมูลให้หมด เพื่อความจริงจะได้ปรากฏ และประชาชนจะได้หายสงสัยว่า ทักษิณ ป่วยจริงหรือป่วยทิพย์
“การเปิดเผยข้อมูลจึงควรต้องจัดเต็ม เพื่อให้ความเป็นจริงได้ปรากฏต่อชาติบ้านเมือง เรื่องที่เขารับปากให้ตำแหน่งทางการเมืองขอให้วางไว้ก่อน เพราะเขาไม่ได้รับปากกับ เสรีพิศุทธ์ คนเดียวหรอก ขอให้วางเรื่องของตัวเองก่อน แล้วทำสิ่งที่ผิดให้ออกไปจากการเมืองไทย อันจะนำพาไปสู่ความเสียหายในเรื่องอื่นๆตามมาอีก”
จตุพร พรหมพันธุ์
จตุพร ยังระบุถึงการตรวจสอบของแพทยสภา ต้องไม่ปล่อยให้บ้านเมืองเสียหายมากกว่านี้ รีบเปิดเผยผลสอบสวน 4 หมอจากโรงพยาบาลตำรวจ กับ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ออกมาอย่างไม่ชักช้า เพื่อนำทางให้การตรวจสอบของส่วนอื่นได้เดินหน้า พร้อมหวังว่าทุกกระบวนการตรวจสอบ ทั้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) และแพทยสภา ควรขยับอย่างมีนัยยะสำคัญและปิดการตรวจสอบตามกำหนดภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ไม่ควรดึงเวลาออกไป เพราะบ้านเมืองจะเกิดความเสียหาย
“คิดด้วยตรรกะธรรมดาแล้ว ถ้าทักษิณ ป่วยจริง ทั้งโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์ และ ป.ป.ช. ไม่รู้จะกั๊กข้อมูลไว้ทำไม ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกมาพูดขนาดนี้ จึงคิดเป็นอื่นไปไม่ได้ ซึ่งไม่แตกต่างจากหัวหน้าพยาบาล ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ บอกว่านาน ๆ ญาติมาครั้ง ย่อมแสดงถึงป่วยจริงหรือไม่และอยู่โรงพยาบาลตำรวจ หรือไม่ เรื่องนี้ต้องตรวจสอบให้สิ้นสงสัยของสังคม”
จตุพร พรหมพันธุ์
ถ้า ‘เสรีพิศุทธ์’ ไม่ล้มมวย มีคนติดคุกเพียบ!
ส่วนทางด้าน เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ก็เชื่อว่าถ้า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ล้มมวย ก็จะมีคนติดคุกเพียบ เพราะการที่ออกมายืนยันว่าไปเยี่ยม ทักษิณ จริง และไม่ได้เจอเจ้าหน้าที่ของเรือนจำ แสดงว่ากรมราชทัณฑ์ปล่อยให้ ทักษิณ พักอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ตามลำพัง โดยไม่มีผู้คุมเรือนจำเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดตามที่ได้ชี้แจง
ดังนั้น ถ้าพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เป็นความจริง จะต้องมีผู้รับรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 หลายคน นับตั้งแต่ผู้คุมของเรือนจำขึ้นไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตามลำดับชั้น
และถ้าหากว่า พล.ต.อ.เสรีมีพิศุทธ์ ได้เปิดเผยข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบรรยากาศการเข้าเยี่ยมและอาการป่วยของ ทักษิณ ว่าเป็นอย่างไร มีอาการป่วยจริงหรือไม่ หรืออยู่สุขสบาย มีการพูดคุยกันอย่างคนปกติทั่วไป ก็แสดงว่าการปฏิบัติหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ร่วมกันปกปิดความจริงเกี่ยวกับอาการป่วยของ ทักษิณ ซึ่งอาจทำให้มีผู้ต้องรับโทษติดคุกแทน ทักษิณ จำนวนหลายคน
“เพื่อให้เรื่องนี้เกิดความกระจ่างชัด ขอให้หน่วยงาน ป.ป.ช.ได้เร่งรัด เชิญตัวพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เข้าให้รายละเอียดข้อเท็จจริงทั้งหมด เชื่อว่าความจริงเกี่ยวกับอาการป่วยของนายทักษิณ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนทั้งประเทศ มีความชัดเจนยิ่งขึ้น และหวังว่าด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียงของพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และวีรบุรุษนาแก จะไม่ทำให้เรื่องนี้ เป็นมวยล้มต้มคนดูอย่างแน่นอน”
เทพไท เสนพงศ์
ปมร้อนที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แย้มออกมา จะกลายเป็น ‘มวยล้มต้มคนดู’ หรือไม่? โปรดติดตามกันยาว ๆ
อ่านเพิ่มเติม:
น้อยใจ! ‘เสรีพิศุทธ์’ ประกาศนำ ‘เสรีรวมไทย’ ถอนตัวร่วม ‘รัฐบาลเพื่อไทย’ ลั่นต้องรบกันท่าเดียว
‘เสรีพิศุทธ์’ สยบข่าวลือนั่ง ‘รองนายกฯ’ ย้ำจุดยืนเป็นฝ่ายค้าน