krid-13may25-SPACEBAR-Hero.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo01.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo02.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo03-1.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo04.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo05.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo06.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo07.jpg
krid-13may25-SPACEBAR-Photo08.jpg

Photo Story: ‘กฤษฏิ์’ ไม่ลาออกสส. ลั่น กลัวเปลืองงบแผ่นดิน

13 พ.ค. 2568 - 06:16

  • ‘กฤษฏิ์’ ลั่นไม่ลาออกสส. กลัวเปลืองงบแผ่นดิน เผยจุดแตกหัก ‘ปชน.’ เน้นสร้างพรรค ไม่เน้นสร้างคน

  • ปัด ‘ภูมิใจไทย’ เสนอดึงตัว บอกไป ‘กล้าธรรม’ เพราะ ‘ธรรมนัส’ ช่วยเหลือมาโดยตลอด

  • แจงดรามาเช็ดรองเท้า ซึ้งจริง เดินหาเสียงคนเดียว ‘ธนาธร’ มาครึ่งชั่วโมง ขณะ ‘ด้อมส้ม’ ติดเครื่องด่าสาปแช่งรัว สนั่นสภาฯ

krid-13may25-SPACEBAR-Hero.jpg
‘กฤษฏิ์’ ไม่ลาออกสส. ลั่น กลัวเปลืองงบแผ่นดิน
krid-13may25-SPACEBAR-Photo01.jpg
ประชาชนสังเกตการแถลงข่าว
krid-13may25-SPACEBAR-Photo02.jpg
ประชาชนผู้มาสังเกตการณ์
krid-13may25-SPACEBAR-Photo03-1.jpg
บรรยากาศก่อนการแถลงข่าว มี สส.พรรคประชาชนลงมาสังเกตการณ์ คือ ครูจวง ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงด้อมส้ม ที่มาดักรอสังเกตการณ์
krid-13may25-SPACEBAR-Photo04.jpg
บรรยากาศการแถลงข่าวของ ‘สส.กฤษฏิ์’
krid-13may25-SPACEBAR-Photo05.jpg
หนึ่งในประชาชนที่มาฟังการแถลงข่าว
krid-13may25-SPACEBAR-Photo06.jpg
การแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ ได้รับความสนใจอย่างมาก
krid-13may25-SPACEBAR-Photo07.jpg
ประชาชนขอให้ สส.กฤษฎิ์ ลาออก
krid-13may25-SPACEBAR-Photo08.jpg
การแถลงข่าวของ ‘สส.กฤษฏิ์’ เป็นไปอย่างเข้มข้น

‘กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์’ สส.ชลบุรี เขต 6 พรรคประชาชน แถลงข่าวประเด็นประกาศแยกทางกับพรรคประชาชน เตรียมย้ายซบ ‘พรรคกล้าธรรม’ ว่า ลำบากใจที่จะมาขอยุติบทบาทกับพรรคประชาชน ไม่อยากที่จะไปทำงานร่วมกับพรรคอื่นแล้วสังกัดอยู่ในพรรคเดิม อย่างนั้นคือ ‘งูเห่า’ ชัดเจน วันนี้ที่ทำงานกับพรรคประชาชนไม่ได้ เพราะอุดมการณ์และแนวทางการทำงานต่างกัน ส่วนตัวกล้าที่จะออกมาพูดว่า ขอให้พรรคขับออก เนื่องจากได้ยื่นหนังสือให้กับพรรคตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมาแล้ว

 

ทั้งนี้ สาเหตุที่เลือกแถลงหลังวันที่ 11 พ.ค.68 เพราะสนับสนุนทีมเลือกตั้งเทศบาล ไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมากระทบกับพรรค ส่วนสาเหตุยุตติบทบาท เนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคสนใจแก้ปัญหาการทำงานจึงเป็นประเด็นการสร้างกระแส สร้างความนิยมให้กับพรรคเป็นหลัก ไม่ได้มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน ทำให้ไม่สามารถแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้

 

‘กฤษฎิ์’ กล่าวว่า เป็น สส.เขต เป้าหมายสำคัญที่สุดคือ การแก้ปัญหาในพื้นที่ การผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ก็ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร ทำให้ไม่สามารถร่วมงานกับพรรคได้ มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพในสถานะทางเพศ มีการปล่อยข่าวเรื่อยๆ ว่า ‘กฤษฎิ์’ เป็นงูเห่า ทุกครั้งที่จะมีการเปลี่ยนแปลงของพรรค ทั้งการยุบพรรคหรืออะไรก็แล้วแต่ ทำให้ประชาชนในเขตต้องโทรมาหาทุกครั้งว่า ‘กฤษฎิ์’ เป็นอย่างนั้นหรือไม่  แต่เวลาก็พิสูจน์แล้วว่า ‘กฤษฎิ์’ ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ‘กฤษฎิ์’ เสียใจที่ต้องมายุติบทบาทในวันนี้

 

อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่มาร่วมรับฟังแถลงข่าว ได้กล่าวแทรกขึ้นว่า “แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครรับเลือกตั้งโดยไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า”

 

‘กฤษฎิ์’ จึงกล่าวว่า ขอให้อยู่ในความสงบ แล้วค่อยคุยกัน ถ้าไม่มีอะไรอย่าส่งเสียง ก่อนจะกล่าวต่อว่า เป้าหมายในการทำงานตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ดูในเพจได้ ส่วนที่ว่าทำไมถึงไม่ลาออก เพราะการลาออกจะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ ต้องเลือกตั้งใหม่ หรือต้องทำเพื่อความสะใจเพื่อ ทำให้เท่ แต่มันไร้สาระ เพราะ ‘กฤษฎิ์’ ต้องการทำหน้าที่ สส.ตามที่ประชาชนคาดหวัง ประชาชนในพื้นที่ไม่ได้มีปัญหากับ ‘กฤษฎิ์’ ขอให้ลองไปสอบถามคนที่ติดตามการทำงานของ‘กฤษฎิ์’ ดูว่าเป็นอย่างไร

 

สำหรับประเด็นแตกหัก นอกจากปัญหาการทำงานในส่วนจังหวัดที่มีปัญหามาโดยตลอดแล้ว ยังมีเรื่องร้องเรียนที่ ‘กฤษฎิ์’ ร้องเรียนไปที่พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาตามกระบวนการและขั้นตอน การทำงานในสภาฯ การยื่นประเด็นไม่ได้รับการตอบรับให้ตั้งเป็นประเด็นในคณะกรรมาธิการฯ สุดท้ายที่เป็นประเด็นแตกหักคือ ‘กฤษฎิ์’ อภิปรายขอบคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่เสด็จฯ ไปทรงสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง  ทั้งนี้ ‘กฤษฎิ์’ ได้ขออนุญาตเป็นตัวแทนราษฎรในการเข้าเฝ้า และขอให้กระทรวงมหาดไทยทำงบประมาณเพื่อวางท่อประปาต่อน้ำจากเกาะสีชังเพื่อไปยังอ่างเก็บน้ำ แต่เมื่อ ‘กฤษฎิ์’ หารือจบก็มี สส.ท่านหนึ่งมาต่อว่าว่า เหมาะสมหรือไม่ที่พูดเช่นนี้ จึงได้ยืนยันว่า เหมาะสม เรื่องนี้เป็นผลกระทบตลอดมา พรรคมีการต่อว่า เนื่องจากเพื่อน สส.ส่วนมากไม่พอใจกับการหารือในวันนั้น เพื่อน สส.ไม่กล้าคุยด้วยนานๆ  เพราะกลัวว่าจะเป็นการวางตัวไม่เหมาะสม กลัวพรรคไม่ส่งลงสมัครในครั้งต่อไป และยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบาย

 

ส่วนที่บอกว่า ‘กฤษฎิ์’ จะเข้ามากอบโกยนั้น ถามว่ากอบโกยอะไร ตั้งแต่เลือกตั้งว่า ในจังหวัดชลบุรีมีใครทุ่มกำลังทรัพย์ ตั้งสำนักงาน ซื้อสำนักงานเพื่อให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็กๆ ได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษในช่วงปิดเทอม เงินภาษีที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนที่โอนให้กับพรรค ‘กฤษฎิ์’ ไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่

 

ทั้งนี้ เรื่องความหวังของพี่น้องประชาชน ‘กฤษฎิ์’ เข้าใจ เพราะเคยมีความหวังว่า พรรคจะเป็นความหวังเดียวที่เปลี่ยนแปลงประเทศชาติได้ แต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับผลักดันอะไรไม่ได้ ฉะนั้นความผิดหวังที่มีอยู่ในใจมากมาย จึงเป็นเหตุให้ทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรค หลังจากนั้นพรรคได้เรียกคุยว่าจะมีการแก้ไขเรื่องต่างๆ จึงบอกว่า การแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไร เพราะเลยเวลาที่จะแก้ไปแล้ว จึงเรียกร้องให้พรรคขับออกเพื่อเห็นแก่ประโยชน์ปวงชน จะได้ไปทำประโยชน์ให้กับประชาชนชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไว้อย่างแท้จริง

 

‘กฤษฎิ์’ กล่าวถึงประเด็นที่เลือกพรรคกล้าธรรม โดยระบุว่า หากติดตามการทำงานผ่านเพจ จะเห็นว่า ทำงานประสานงานกับรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งได้รับการตอบรับจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ช่วยแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอดถึง 2 ครั้ง ซึ่งประชาชนที่ชลบุรีมองว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญในการเปิดอ่างเก็บน้ำ การจะเลือกพรรคไหนต้องเลือกพรรคที่สนับสนุนการแก้ปัญหาให้กับประชาชนอย่างแท้จริง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการแถลงข่าว ทำให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังเกิดความไม่พอใจ ‘กฤษฎิ์’ จึงกล่าวว่า พวกคุณที่พูดอยู่รู้จักศรีราชามากแค่ไหน ได้ติดตามเพจหรือไม่ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาโต้แย้งกัน มีจุดยืนแน่นอน ขอให้พรรคขับออก ส่วนเรื่องประชาชนจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อว่าชาวศรีราชาเข้าใจ ไม่เคยคิดว่าตัวเองสำคัญ แค่อาสามารับใช้พี่น้องประชาชน ยังมี สส.หลายคนที่ไม่มีความพร้อมและทำงาน แต่ ‘กฤษฎิ์’ อยู่ในสถานะที่พร้อมทำงานเพื่อประชาชนถึงได้ลงสมัครในวันนั้น เรื่องที่ผลักดันก็ผลักดันมาโดยตลอด ไม่เคยเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ก่อนเป็น สส.

 

ในช่วงถามตอบหลังการแถลงข่าว ได้มีประชาชนถามถึงเหตุการณ์ที่ประชาชนช่วยเช็ดรองเท้าในช่วงหาเสียง ซึ่ง ‘กฤษฎิ์’ ระบุว่า ครั้งนั้น ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ช่วยหาเสียงเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น นอกนั้น ‘กฤษฎิ์’ เดินทุกบ้าน จนเจอพี่คนที่เช็ดรองเท้ามาพูดคุยว่า ไปพบชาวบ้านให้ทำความสะอาดรองเท้าบ้างที่ ‘กฤษฎิ์’ ซาบซึ้งร้องไห้ เพราะเดินหาเสียงมาคนเดียว ไม่มีแกนนำมาคนเดียว

 

สำหรับการร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมนั้น วันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรมไว้ก่อน เพื่อรอการขับออกจากพรรคประชาชน ขณะที่กระแสข่าวที่มีการเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 250,000 บาทและรถตู้หรูนั้น ขอให้ไปถามคนที่พูดออกมา ซึ่งจะมีการไปแถลงที่รายการหนึ่งในช่วงบ่ายวันนี้ พร้อมยืนยันว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ได้มีการเสนอให้ร่วมงานกับพรรค ย้ำว่า ใช้เวลานานในการตัดสินใจ ต้องเข้าโรงพยาบาลกว่า 2 รอบ ส่วนเรื่องการถามความเห็นของประชาชนในพื้นที่ ‘กฤษฎิ์’ ไม่ได้ตั้งใจที่จะออกจากพรรคประชาชน แต่เป็นเหตุด่วน จึงไม่ได้มีการสอบถามความเห็นประชาชน แต่อยากบอกว่ามันมีเหตุจะต้องออก

 

‘กฤษฎิ์’ ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเรื่องอุดมการการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 บอกว่าไม่อยากพูดถึง เพราะ ‘กฤษฎิ์’ ไม่ได้มุ่งไปในประเด็นนี้ ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการจบชีวิตทางการเมืองหรือไม่ ความจริง ‘กฤษฎิ์’ ตั้งใจจะลาออก แต่เมื่อดูสถานการณ์หลายอย่าง ไม่รู้ว่าจะยุบสภาฯ ในวันสองวันนี้หรือไม่ ก็ไม่รู้ว่าจะลาออกให้เสียงบเลือกตั้งใหม่ทำไม ซึ่ง ‘กฤษฎิ์’ ก็ยังยืนยันว่าตอนนี้จะทำงานให้พี่น้องประชาชน ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้า เดี๋ยวเอาไว้ว่ากัน

 

ผู้สื่อข่าวถามทิ้งท้ายว่า การขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม ได้ปรึกษา กกต.หรือไม่ ‘กฤษฎิ์’ ระบุสั้นๆ ว่า “ขอเอาไว้เฉยๆ” จากนั้นเดินออกจากเวทีแถลงข่าว ผ่านประตูด้านข้างของห้องแถลงข่าว เพื่อหลีกเลี่ยงประชาชนที่มาประท้วง

 

สำหรับบรรยากาศ ก่อนการแถลงข่าว มี สส.พรรคประชาชนลงมาสังเกตการณ์ คือ ครูจวง ปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงด้อมส้ม ที่มาดักรอสังเกตการณ์ ก่อนรุมต่อว่า สส.กฤษฎิ์ ว่า “คนเขาเลือกคุณ ในนามพรรค ตามนโยบายของพรรคประชาชน ไม่ใช่ที่ชุบตัวของคุณ ชุบตัวเพื่อเอาประโยชน์ส่วนตน คุณตอบคำถามประชาชนได้หรือไม่ หน้าไม่อาย โสเภณีเขาขายตัวเพราะเขาลำบาก เพื่อเลี้ยงตัว แต่คุณ สส.ขายตัว คืออะไร คุณไม่มีศักดิ์ศรี ลูกหลานคุณจะจำไปชั่วลูกชั่วหลาน โสเภณียังมีศักดิ์ศรีมากกว่าคุณ เงินไม่ใช่พระเจ้า อย่ารักเงินมากกว่าประชาชน ประเทสต้องการความถูกต้อง ความเป็นคนมันต้องมี ถ้าไม่มีอย่าเป็นคน”

 

ช่วงหนึ่ง ด้อมส้ม ได้ยืนประจันหน้ากับสส.กฤษฎิ์ ที่ยืนอยู่บนโพเดียมว่า “ประชาชนเลือกคุณมา ที่จริงถ้าคุณจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน มันไม่น่าใช่ของคุณ มันต้องนำมาให้ประชาชน ที่เขาลำบาก เลือกคุณเข้ามา” ซึ่งสส.กฤษฎิ์ ตอบกลับว่า “ตอนนี้มีอยู่บาทเดียวในตัว” ทำให้เกิดความชุลมุน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจสภา ต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้ ‘ด้อมส้ม’ อยู่ในความสงบ โดยด้อมส้มได้ตะโกนแทรก ตลอดการแถลงข่าวของ สส.กฤษฎิ์ เป็นระยะ

 

ช่วงท้ายการแถลงข่าว สส.กฤษฎิ์ ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับกลุ่มด้อมส้ม โดยการหลบเดินออกทางประตูข้างห้องแถลงเชื่อมขึ้นไปยังบนอาคารรัฐสภาทันที ทำให้ ด้อมส้ม วิ่งไปดักบริเวณทางออกอีกทาง แต่ไม่พบตัวสส.กฤษฎิ์ จึงกล่าวด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว “หนีทำไม หน้าด้าน ขายตัว เสียงบประมาณภาษีประชาชน ไสหัวออกไป ลาออกไป ประชาชนแค้น วางแผนไปกับธรรมนัสมานานแล้ว พูดอะไร ชงธรรมนัสตลอด ขอฝากไปถึงผู้กองธรรมนัส คุณคิดดีแล้วหรอ คุณจะรับ สส.ที่ไม่ซื่อไม่ตรง เขาหักหลังประชาชนได้ เขาก็หักหลังคุณได้”

 

ด้อมส้มรายหนึ่งถึงขั้น ยกมือพนมสาปแช่ง พร้อมระบุว่า “ใครที่นำเงินซื้อ สส. ขอให้มีอันเป็นไป สส.คนไหนที่รับจ้างได้สินบน ขอให้ฉิบหาย ฟ้าผ่าตายจาก ประชาชนสู้แทบตาย แต่พอส่งขึ้นสภา แล้วมาทำแบบนี้ สารเลว”


เรื่องเด่นประจำสัปดาห์