พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี ชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุขออย่ามองว่ารัฐบาลเร่งรัดดัน ‘ร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ ว่า เราไม่ได้ถามเรื่องสิทธิเสนอกฎหมายเข้าสภาฯ แต่เราถามว่าทำไมรัฐบาลมีอาการร้อนรนเป็นพิเศษ พยายามดันให้พิจารณาวาระที่ 1 ให้ทันสมัยประชุมนี้ ที่จะปิดในวันที่ 10 เม.ย. และจะแซงคิวกฎหมายอื่นที่รออยู่ก่อนแล้วตามระเบียบวาระอย่างน้อย 11 ฉบับ
ยิ่งไปกว่านั้น ประเด็นสำคัญคือ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า รัฐบาลยังไม่มีการทำรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) ก่อนเสนอร่างกฎหมายเข้าสภาฯ แต่จะทำ Feasibility Study หลังจากกฎหมายผ่าน และมีการตั้งคณะกรรมการนโยบายและคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาแล้ว
ซึ่งเป็นการลำดับขั้นตอนที่แปลกประหลาด เพราะหากกฎหมายผ่านไปแล้ว, ตั้งคณะกรรมการแล้ว แต่ผลการศึกษาสรุปว่าไม่ควรเดินหน้า คำถามคือ เราจะเสียเวลาผ่านกฎหมายและตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาทำไม?
แทนที่จะพยายามนำกฎหมายนี้มาแซงคิวกฎหมายอื่น ทำไมรัฐบาลไม่ใช่ช่วงเวลาการปิดสมัยประชุม ไปทำ Feasibility Study มาก่อน และค่อยมาเสนอร่างกฎหมายในสมัยประชุมถัดไปก็ได้
— พริษฐ์ วัชรสินธุ
พริษฐ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมรัฐบาลไม่สลับลำดับให้เป็นไปตามที่ควรจะเป็น ได้แก่
- ศึกษาผลกระทบต่อการท่องเที่ยวให้ละเอียด
- ศึกษาการแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ควบคู่กัน
- ศึกษาอย่างละเอียดเกี่ยวกับจำนวนที่ตั้ง และเกณฑ์การคัดเลือกผู้ประกอบกิจการ ให้มีหลักประกันในตัวกฎหมาย
แทนที่จะตีเช็คเปล่าให้คณะกรรมการนโยบาย หากผลลัพธ์ออกมาแล้วรัฐบาลต้องการเดินหน้าต่อ ก็ค่อยเสนอเข้าสภาฯ ในสมัยประชุมถัดไป
นอกจากอาการเร่งรีบ ลัดคิว ผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้ว เราไม่เคยเห็นรัฐบาล มีความพยายามใช้วิธีการเร่งรัดเป็นพิเศษกับกฎหมายอื่นมาก่อนเลย ความจริงมีกฎหมายหลายฉบับที่ผม และพรรคประชาชนมองว่าสำคัญและเข้าคิวรออยู่ เช่น ร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร, ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ที่รอมาเป็นปีแล้ว
— พริษฐ์ วัชรสินธุ
พริษฐ์ กล่าวอีกว่า ชูศักดิ์ และรัฐบาลมักพูดเสมอว่ากาสิโนจะมีพื้นที่แค่ 10% แต่ในเชิงพื้นที่อาจแค่ 10% จริง แต่ในร่างกฎหมายของรัฐบาลมีการนิยาม “สถานบันเทิงครบวงจร” ไว้อย่างชัดเจนว่า จะมีบริการอื่นๆ เช่น สวนน้ำ, โรงแรม, ห้างสรรพสินค้า, สวนสนุก แต่จะต้องมีกาสิโนอยู่ด้วย ดังนั้น 10% นี้จึงเป็นหัวใจของข้อเสนอของรัฐบาล
อีกทั้งกาสิโนหลายแห่ง เช่น มาเก๊า แม้พื้นที่กาสิโนจะคิดเป็นเพียง 10% แต่รายได้จากกาสิโนกลับคิดเป็น 80% ของรายได้ทั้งหมด ดังนั้น หากพูดถึงสัดส่วนพื้นที่อาจดูน้อย แต่ในเชิงรายได้แล้วถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ พรรคภูมิใจไทยคัดค้านร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อย่างหนัก แต่ตอนนี้กลับเร่งผลักดัน เพราะมีการเจรจาลับกันหรือไม่? พริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2567 พรรคภูมิใจไทยแถลงว่าไม่เห็นด้วยใน 4 ประเด็น แต่มาวันนี้ ร่างกฎหมายฉบับรัฐบาลยังไม่ได้แก้ไข 4 ประเด็นนั้นเลย จึงต้องถามพรรคภูมิใจไทยว่าเหตุใดจึงเปลี่ยนจุดยืน หรือแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็มีสมาชิกเสนอให้ทำประชามติด้วยซ้ำ
เมื่อถามว่า หากมีการซูเอี๋ยและแบ่งผลประโยชน์กันจริง ฝ่ายค้านจะตรวจสอบอย่างไร? พริษฐ์ ตอบว่า เคยตั้งข้อสังเกตในการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า สังคมมีความกังวลว่าอาจมีการตกลงกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ในการแลกเปลี่ยนกันระหว่างการทำคาสิโนในพื้นที่ กับการทำให้การพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
อย่างที่บอกว่า เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 2567 พรรคภูมิใจไทยออกมาแถลงชัดเจน ไม่เห็นด้วย 4 ประเด็น พอผ่านมา 5-6 เดือน แม้ 4 ประเด็นไม่ถูกแก้ไขเลย กลายเป็นว่าดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยจะมีท่าทีที่ยอมรับกฎหมายกาสิโนแล้ว
ที่แตกต่างจากเดิม คือ มันมีการพูดถึงการแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน ที่จะทำให้การพนันออนไลน์ ถูกกฎหมายเพิ่มขึ้นมา ซึ่งผมยืนยันว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถแก้ไขปัญหาการพนันออนไลน์ถูกกฎหมายได้ แต่กลับไปให้ดุลพินิจอย่างมหาศาลให้กับกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ ซึ่งก็นำโดยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในการออกใบอนุญาตการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย มันก็เลยเกิดคำถามว่า หรือว่าท่าทีพรรคร่วมรัฐบาลที่เปลี่ยนแปลงไปภายใน 5-6 เดือน หรือว่ามีการแลกกันหรือเปล่า ระหว่าง “การพนันในกาสิโน” กับ “การพนันออนไลน์” หรือไม่?
— พริษฐ์ วัชรสินธุ