


















ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิง คุณแม่พจนีย์ ณ ป้อมเพชร มารดาของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และเป็นคุณยายของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร
โดยนายกรัฐมนตรี และ ปิฎก สุขสวัสดิ์ คู่สมรส เดินทางเข้าพิธีพร้อมกับคุณหญิงพจมาน , พินทองทา ชินวัตร จากนั้น ทักษิณ ได้เดินทางมาพร้อมกับ พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายคนโต และภรรยา
โดยพิธีในวันนี้มีครอบครัว คนใกล้ชิด ของ พจนีย์ ตลอดจนคณะรัฐมนตรี แกนนำรัฐบาล และ สส.พรรคเพื่อไทย พรรคร่วมรัฐบาล นายตำรวจ ตลอดจนบุคคลในแวดวงธุรกิจ อาทิ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ , เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ , ภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม , อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย , สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , พีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน , พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม , วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา , สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา , พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) เป็นต้น
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนตระกูล ณ ป้อมเพชร และ ดามาพงษ์ อ่านหมายรับสั่งโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพ พร้อมอ่านประวัติ คุณยายพจนีย์ เมื่ออ่านประวัติในช่วงหนึ่งที่คุณหญิงอ้อดูแลคุณยายตลอดที่มีอาการป่วย นายกรัฐมนตรีมีเสียงสั่นเครือเล็กน้อย ก่อนกล่าวว่า มีหลายครั้งที่ถูกถามว่า ชื่อจริงอันไพเราะของตนเองและพี่ๆ ใครเป็นคนตั้งให้ ตนจะตอบอย่างภาคภูมิใจทุกครั้งว่า “คุณยายเล็กเป็นคนตั้งให้” และขอบพระคุณคุณยาย ที่มอบคุณแม่ที่ดีที่สุดในโลกให้กับตนและครอบครัว
สำหรับ คุณแม่พจนีย์ เป็นบุตรของพันตำรวจเอก(พิเศษ) พร้อม กับ คุณรัญจวน ณ ป้อมเพชร เกิดในวันที่ 17 สิงหาคม 2471 และถึงแก่กรรมในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 สิริอายุรวม 95 ปี มีบุตรธิดา 4 คน พงษ์เพชร ดามาพงศ์ , พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ , พลตำรวจโทนายแพทย์พีระพงศ์ ดามาพงศ์ , คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และบรรพจน์ ดามาพงศ์ เป็นบุตรบุญธรรม โดยพจนีย์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งคุณาภรณ์ชั้นที่1 ปฐมถมดิเรกคุณาภรณ์
ทั้งนี้ ทักษิณ ได้เขียนคำอาลัยถึง คุณแม่พจนีย์ว่า
“ผมได้รู้จักคุณแม่เมื่อปี 2513 ตอนผมได้มาเจอกับลูกสาวคุณแม่ (คุณหญิงอ้อ) แต่จังหวะไม่ดี ที่ผมมาทราบว่า คุณแม่ป่วยหนัก ตอนผมต้องมาลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ คุณแม่โชคดีมาก ถึงแม้จะมีลูกสาวเพียงคนเดียว แต่ก็ดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี ตั้งแต่ป่วยติดเตียงมาถึง 10 ปี ดีกว่าที่ลูกคนหนึ่งจะทำให้แม่ได้ขนาดนี้ ซึ่งแม่ก็รับรู้มาตลอด ขอให้ดวงวิญญาณคุณแม่จงไปสถิตในสัมปรายภพด้วยเถิด พร้อมลงท้าย ด้วยรักและเคารพ”