ล้างบาง ‘สิงห์’ สีอะไรก็ได้ ให้ ‘หนู’ คุมได้พอ
เก้าอี้ รมว.กลาโหม ตกเป็นเป้านิ่งปรับ ‘ครม.อิ๊งค์ 2’ เหตุเก้าอี้กระทรวงอื่นไม่ลงตัว โดยเฉพาะ ‘รมว.มหาดไทย’ ที่ ‘เพื่อไทย’ ยึดคืนจาก ‘ภูมิใจไทย’ มาได้ โดยที่ ภท. ทำการ ‘ถอนตัว’ จากพรรคร่วมรัฐบาล ไปเป็น ‘ฝ่ายค้าน’
โดยมี 2 ชื่อที่ตีคู่นั่ง รมว.มหาดไทย คือ ‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ รองนายกฯ-รมว.กลาโหม และ ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ รองนายกฯ-รมว.ดิจิทัลฯ
สำหรับ ‘ภูมิธรรม’ เป็นสานตรง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ เปรียบเป็น ‘เลขาฯ ทักษิณ’ ที่มาทำหน้าที่ ‘พี่เลี้ยง’ ให้กับ ‘นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร’ ตลอดช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ‘ภูมิธรรม’ ทุ่มน้ำหนักงานไปที่ ‘การเมือง’ เป็นหลัก ในฐานะ ‘ผู้จัดการรัฐบาล’
ส่วนงานในฐานะ ‘กลาโหม’ มอบให้ ‘บิ๊กเล็ก’พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม เป็นผู้ดูแล หลัง ‘ภูมิธรรม’ ทำการ ‘ผ่องถ่ายงาน’ ให้ดูแลเมื่อช่วง ธ.ค.67
ที่ผ่านมา ‘ภูมิธรรม’ จะดูแลงานในภาพร่วม-งานเชิงสัญลักษณที่ รมว.กลาโหม ต้อง ‘เปิดหน้า’ ลุยเอง เช่น การพบกับ ‘หลิว จงอี้’ ผู้ช่วย รมต.ความมั่นคงและสาธารณะ ประเทศจีน ในการปราบสแกมเมอร์ในเมียนมา , การเดินทางไปเยี่ยมชาวอุยกูร์ที่ไทยส่งกลับประเทศจีน เป็นต้น
.
ชื่อของ ‘ภูมิธรรม’ หากมานั่ง มท.1 ก็มีการมองว่า ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ จะมาจัด ‘ขุนพล’ เฉกเช่นที่ ‘ภูมิใจไทย’ เคยจัดวางขุนพลในหลายระดับ ตั้งแต่ ‘ปลัดมหาดไทย - อธิบดีกรม - ผู้ว่าฯ’ ทำให้ มท. ในยุค ภท. ได้ชื่อว่า “สิงห์สีอะไรก็ได้ ขอให้หนูคุมได้ก็พอ”
ดังนั้นต้องจับตาว่า หลัง ‘เพื่อไทย’ ยึดคืน มท. จะทำการ ‘ล้างบาง’ หรือไม่ ที่ในขณะนี้มีการปล่อยรายชื่อที่โดน ‘หมายหัว’ ไว้บ้างแล้ว
จาก ‘สหายใหญ่’ สู่ยอด ‘พีระมิดสิงห์’
สำหรับ ‘ภูมิธรรม’ เป็น ‘สิงห์ดำ’ รุ่น 25 จบจากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ย้อนไปยุค ‘เดือนตุลา’ 14 ตุลา 16 และ 6 ตุลา 19 สมัยเป็นนิสิตสิงห์ดำ ‘ภูมิธรรม’ ได้เดินเข้าป่าจับอาวุธสู้ มีชื่อจัดตั้งว่า ‘สหายใหญ่’ ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ หรือเขตอีสานใต้ ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.)
‘ภูมิธรรม’ ต่อสู้ในขบวนการ พคท. จากพื้นที่อีสานใต้ไปถึง สปป.ลาว จนถึงปี 2522 ‘ภูมิธรรม’ ได้ออกจากป่าและ ขบวนการ พคท. ก่อนจะมีคำสั่ง 66/2523 ยุค ‘รบ.ป๋าเปรม’ ที่นิรโทษกรรมให้นักเคลื่อนไหว
ต่อมา ‘ภูมิธรรม’ ได้เข้าทำงานสาย ‘อาสาสมัคร-เอ็นจีโอ’ ก่อนที่ ‘ทักษิณ’ จะชวนมาตั้ง ‘พรรคไทยรักไทย’ ช่วงปี 2537-2541 ผ่านโมเดล ‘ทุน+แนวคิด’ ในการตั้งพรรค เรียกว่า ‘ภูมิธรรม’ เป็นสายตรง ‘บ้านจันทร์ส่องหล้า’ มายาวนานเกือบ 30 ปี
สำหรับ ‘ทักษิณ-ภูมิธรรม’ รู้จักกันมาตั้งแต่ยุคเดือนตุลา เพราะช่วง 14 ตุลา และ 6 ตุลา เมื่อศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (ศนท.) จะยื่นหนังสือประท้วงรัฐบาล ก็จะยื่นผ่าน ‘ปรีดา พัฒนาถาบุตร’ รมต.สำนักนายกฯ ‘รัฐบาลคึกฤทธิ์’ ซึ่งในขณะนั้น ‘ทักษิณ’ เป็นตำรวจติดตาม ‘ปรีดา’
สำหรับ ‘มหาดไทย’ แล้วนั้น ‘ภูมิธรรม’ ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เพราะเคยเป็น ‘เลขานุการ รมว.มหาดไทย’ ยุค ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ รบ.ทักษิณ เมื่อปี 2544
40-50 ปี แม้ ‘ภูมิธรรม’ ไม่ได้เติบโตเส้นทาง ‘มหาดไทย’ เฉกเช่น ‘เพื่อนสิงห์ดำ’ คนอื่นๆ ดังนั้นหาก ‘ภูมิธรรม’ ได้เป็น รมว.มหาดไทย ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์ชีวิต’ สำหรับคนเรียน ‘รัฐศาสตร์’ ที่อยู่บนยอด ‘พีระมิดสิงห์’
คลื่นใต้น้ำ ‘เพื่อไทย’ สกัดฝัน ‘สหายใหญ่’
แต่หนทางกลับไม่ง่ายเช่นนั้น หลังเกิด ‘คลื่นใต้น้ำ’ ภายใน ‘พรรคเพื่อไทย’ ที่เขย่ากันแรง โดยเฉพาะ สส.อีสาน ที่ได้ สส. มากที่สุด แต่กลับไม่ได้ ‘โควต้ารัฐมนตรี’ ตามสัดส่วนที่ควรได้
จึงมีความพยายามในการดัน ‘ประเสริฐ จันทรรวงทอง’ ขึ้นเป็น รมว.มหาดไทย ส่วน พล.อ.ณัฐพล ยังคงนั่ง รมช.กลาโหม เช่นเดิม เพื่อสานต่องาน ‘ความมั่นคง’ โดยเฉพาะงานชายแดนไทย-กัมพูชา ในฐานะ ผอ. ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
แม้ว่า ‘แพทองธาร’ จะหวังให้ พล.อ.ณัฐพล ขึ้นเป็น รมว.กลาโหม แต่ไม่ต้องการฝ่า ‘แรงต้าน’ จากภายใน ‘เพื่อไทย’ เพราะเพียงปัญหาที่เผชิญอยู่ในขณะนี้ก็หนักหนาแล้ว
ล่าสุดโผ ‘ครม.อิ๊งค์ 2’ เรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการตรวจ ‘คุณสมบัติ’ ต่างๆ ทั้ง ‘รัฐมนตรี’ เก่า-ใหม่ โดยอีก 1-2 สัปดาห์ ก็จะได้เห็น ‘ครม.อิ๊งค์2’ อย่างเป็นทางการ