การกลับมาของ ‘พิธา’ กับ ‘บ้าน’ ที่คุ้นเคย

25 ม.ค. 2567 - 06:06

  • สภาฯ แทบแตก ‘พิธา’ คัมแบ็ค สส. ลั่นไออุ่นที่คุ้นเคย 6 เดือนที่หายไปเสียดายเวลา แต่คุ้มทำงานลงพื้นที่พบปชช.

  • ยังแทงกั๊กหวนนั่ง ‘หัวหน้าพรรค’ บอกไม่ยึดติด ขอรอที่ประชุมใหญ่พรรคเคาะช่วง เม.ย.นี้ ชวนรัฐบาลคิดแผน 2 โครงการเงินหมื่นดิจิทัลฯ แนะไม่จำเป็นต้องกู้มาแจก ไม่หวั่นคดี ม.112 รอขึ้นเขียง 31 ม.ค.นี้ คาดผลตัดสินน่าจะเหมือนเคส ‘ไอทีวี’ เชื่อควบคุมได้

  • รอดูจังหวะใช้ ‘บาซูก้า’ ซักฟอกรัฐบาล ย้ำทำงานเน้น ‘สาระ’ ไม่เน้น ‘วาทกรรม’

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Hero.jpg

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ก้าวเท้าเข้าอาคารรัฐสภา ในฐานะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในเวลา 10.24 น. หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พิธา ไม่มีลักษณะต้องห้ามดำรงตำแหน่ง สส. ซึ่งถือเป็นกลับเข้าสภาฯ อีกครั้ง หลังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ไปตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566

โดยทันทีที่พิธาลงจากรถ มีแฟนคลับเป็น คุณป้าที่นั่งรถมาจากเพชรบูรณ์ ซึ่งออกเดินทางตั้งแต่เที่ยงคืน เพื่อมารอต้อนรับนายพิธา โดยบอกว่า “ขอให้พิธาสู้ๆ รักคุณพิธา เป็นกำลังใจให้” จากนั้น มีเพื่อน สส.พรรคก้าวไกล มารอต้อนรับ พร้อมทั้งกล่าวว่า “Come back ยินดีต้อนรับกลับบ้าน” ซึ่งพิธา ได้เข้าไปสวมกอดเพื่อน สส.พรรคก้าวไกล บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo03.jpg

จากนั้น พิธา ให้สัมภาษณ์ถึงก้าวแรกที่เข้าสู่สภาฯ ว่า ไออุ่นที่คุ้นเคย รวมเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค.66จนถึงวันนี้เป็นเวลา 6 เดือนแล้ว ที่ไม่ได้มีโอกาสมาแถลงข่าวที่สภาฯ ได้เห็นบรรยากาศสื่อมวลชน ประชาชน หรือนักศึกษาที่มาเยี่ยมสภาฯ ยังรู้สึกว่า สภาฯ เป็นพื้นที่รวมตัวของสังคมไทย ทำให้คิดถึงบรรยากาศแบบนี้ 

เมื่อถามว่า ตั้งใจผูกเนคไทสีฟ้ามาเป็นกิมมิคหรือไม่ พิธา กล่าวว่า คงไม่ได้เป็นกิมมิคอะไรเป็นพิเศษ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เดินทางไปออกรายการ และได้มองซ้ายมองขวา จำได้ว่า ตอนที่เราชูกำปั้นในช่วงที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เราผูกเนคไทเส้นนี้ จึงนึกสนุกขึ้นมาว่า ไหนๆ ก็ไหนแล้ว เราออกไปด้วยแบบไหน เราก็กลับมาด้วยแบบนั้น คิดซะว่า เราออกไปทัวร์แบบอ้อม แต่เป้าหมายในการเดินทางก็ทำต่อ ถึงแม้มันจะหายไป 6 เดือนก็ตาม 

เมื่อถามว่า เสียดายหรือไม่กับ 6 เดือนที่หายไป พิธา กล่าวว่า เวลาที่เสียไปถือว่า เสียดายอย่างเป็นรูปธรรม เช่น โอกาสในการเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ที่ไม่อาจมีใครบอกได้ว่า ผลจะออกมาเป็นอย่างไร หรือถ้ามีครั้งที่ 2 แล้วมันจะมีครั้งที่ 3 หรือไม่ แต่เราบริหารจัดการได้ว่า 6 เดือนที่หายไป เราไปพบปะประชาชน และทำงานร่วมกับสส.ในการลงพื้นที่ ฉะนั้นก็เป็นเรื่องที่ไม่น่าเสียดาย 

“ภารกิจแรกในการกลับมาเป็นสส. ผมจะเข้าพูดคุยกับสส.ของพรรค รวมถึงนักศึกษา ประชาชนที่มาเยี่ยมสภาฯ เราก็จะเข้าไปพูดคุยซะหน่อย และจะหาจังหวะเดินเข้าห้องประชุมใหญ่เพื่อไม่ให้ขัดจังหวะเพื่อนสส.ที่กำลังอภิปรายอยู่ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้ผมเตรียมที่อภิปรายเรื่องการบริหารจัดการขยะ และจะแถลงแผนงานของพรรคก้าวไกลว่ามีเป้าหมายอย่างไรต่อไป การทำงานของพรรคในเชิงปฏิบัติการคืออะไร ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมได้” พิธา กล่าว

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo01.jpg

เมื่อถามว่า ในช่วงที่หายไป 6 เดือน เกิดปัญหาเรื่องคุกคามทางเพศภายในพรรค รวมถึงเรื่องอื่นๆจนเกิดข้อครหา จะแก้ไขปัญหาอย่างไร พิธา กล่าวว่า ต้องยอมรับด้วยความเสียใจ และต้องขอโทษประชาชน แต่ในช่วงสถานการณ์นั้น ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ว่า ชัยธวัช ตุลาธน เป็นหัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนตัวก็ไม่อยากเป็นสถาบันที่มีหัวหน้าพรรค2คน ส่วนตัวก็ต้องรู้ที่ของตัวเองว่าในขณะนั้น เป็นที่ปรึกษา ก็คอยให้คำปรึกษากับชัยธวัช พูดคุยกันมาโดยตลอด ไม่ว่าจะในมุมป้องกันไม่ให้สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอย่างไร หรือการรักษาเมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วต้องตอบสนองให้ไว จะเรียนรู้จากความผิดพลาดปรับปรุงโดยไม่ได้แก้ตัว และยอมรับว่า เราต้องพัฒนากันอีกเยอะ แต่ประชาชนก็สัมผัสได้ถึงพัฒนาการ และความเป็นสถาบันทางการเมืองของเรา

เมื่อถามว่า จะมีการดำเนินคดีกลับกับ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่ร้องเรื่องหุ้นสื่อไอทีวีหรือไม่ พิธา กล่าวว่า ไม่มี เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วในอดีต ตอนนี้จะโฟกัสอยู่กับปัจจุบัน ใช้สมาธิ ทรัพยากร และเวลากับการทำงานปัจจุบัน รวมถึงอนาคตที่จะถึงตามแผนงานที่จะแถลงในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.)

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo07.jpg

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค และผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่ พิธา กล่าวว่า ต้องแยกเป็น 2 ส่วน 1.เป็นไปตามกระบวนการที่จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคในเดือน เม.ย.นี้ และต้องผ่านการคัดเลือกจากกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ชุดใหม่ รวมถึงการนำเสนอในที่ประชุม หรือสมาชิกโหวต และ 2.ไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง ชัยธวัชก็ทำหน้าที่ได้ดี และทำงานอย่างแหลมคม เป็นตัวเอง ทั้งตนเองและชัยธวัช ไม่ได้มีใครยึดติดในตำแหน่งทั้งคู่ และทุกคนในพรรค

เมื่อถามว่า มีโอกาสเลื่อนประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคให้เร็วขึ้นเพื่อประชุมวาระเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่หรือไม่ พิธา กล่าวว่า ไม่มีเหตุจำเป็นอะไร ส่วนตัวคิดว่า เดือนเม.ย.เหมาะสม กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล ทำงานครบ 4 ปี ตามวาระก็ต้องมีการเปลี่ยน ต้องแจ้งให้ชัดว่าการประชุมฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีของตนเอง

เมื่อถามว่า มีข้อควรระวังอะไรให้นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี หรือไม่ พิธา กล่าวว่า ส่วนตัวยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง และไม่ได้ค้านทุกเรื่อง ค้านเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้อง หรือค้านเพื่อจะแนะนำ และยังเชื่อว่า มีวาระเพื่อประชาชนอีกมากมาย โดยไม่ต้องคำนึงว่า มาจากพรรคไหน เช่น เรื่องสมรสเท่าเทียม หรือเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อากาศสะอาด เราเชื่อว่ายังทำงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ได้ 

เมื่อถามว่า จะมีการจับตาโครงการแลนด์บริดจ์เป็นพิเศษหรือไม่ พิธา กล่าวว่า จะจับตาเป็นพิเศษ เพราะในช่วงที่ตนเองถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ได้สังเกตว่า โครงการเรือธงของรัฐบาลมี 3 โครงการ ได้แก่ 1.ดิจิทัลวอลเล็ต 2.โครงการแลนด์บริดจ์ 3.ซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราเห็นตรงกัน แต่ก็มีอีกหลายเรื่องที่เราต้องพูดคุยกันเป็นพิเศษ จะต้องมองในมุมกว้างและลึก และดูว่าทางเลือกและเป้าหมายคืออะไร

เมื่อถามว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตดูเหมือนจะเป็นเป้าหมายหลักของพรรคก้าวไกลในการตรวจสอบรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร พิธา กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่าประชาชนเดือดร้อนพอสมควร เศรษฐกิจโตช้า ซบเซามาเป็นเวลานาน ธนาคารกสิกรวิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจอาจจะโตช้าในรอบ 10 ปี ซึ่งไม่ใช่ความผิดของรัฐบาลในชุดปัจจุบันที่เพิ่งเข้ามาบริหารเพียง 6 เดือน แต่เป็นสิ่งที่เป็นปัญหามาจากการเมืองไทยที่ศูนย์หายมากว่า 10 และไม่มีการปรับโครงสร้างทำให้เราโตช้ามาก แต่ขณะเดียวกันตนกังวลว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ด้วยการใช้งบประมาณระยะยาวทำให้ไม่มีพื้นที่การคลัง ในการแก้ไขปัญหาระยะยาว หรือพื้นที่ในแบบอื่นก็ไม่ได้เป็นทางที่เหมาะสม 

“เพราะฉะนั้นอยากชวนรัฐบาลคิดแผน 2 ในกรณีสิ่งที่หาเสียงมา ที่ไม่ผ่าน อยากให้ลองคิดว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานรากขึ้นมา อย่าดูถูกรายละเอียดและโครงการเล็กๆ พอมาทำรวมกันพลังเศรษฐกิจจะระเบิดขึ้นมา ไม่จำเป็นต้องเป็นโครงการแจกเงินผ่านดิจิทัลฯ จากบนลงล่างอย่างเดียวล่างขึ้นบนก็อาจจะสามารถช่วยให้ตรงจุด เมื่อมารวมกันก็จะเกิดเศรษฐกิจที่ดีเช่นเดียวกัน และประหยัดงบประมาณ ไม่ต้องกู้ และไม่ต้องสร้างภาระการคลังเพิ่มขึ้น พอมาอภิปรายงบประมาณก็จะน้อยลงทุกปีๆ” พิธา กล่าว 

เมื่อถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญยังมีกรณีที่ค้างการพิจารณาอยู่จะเป็นหัวเชื้อให้เกิดอุบัติของพรรคก้าวไกลหรือไม่ พิธา กล่าวว่า ความรู้สึกก็คงจะเหมือนกับคดีไอทีวี เราแยกแยะได้ว่าอะไรควบคุมได้และไม่ได้ อะไรที่ควบคุมได้เราทำเต็มที่ จึงทำให้เรามั่นใจ 

เมื่อถามว่า ในฐานะฝ่ายค้านมั่นใจหรือไม่ว่านายกฯ จะมาตอบคำถามด้วยตัวเอง พิธา กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่า เวลาที่จะคาดหวังอะไรกับใคร ก็ต้องนำมาใช้กับตัวเองด้วย วันหนึ่งที่เราเข้าไปเป็นรัฐบาลเป็นนายกฯ ก็ต้องกลับเข้ามาตอบกระทู้ด้วยตัวเอง ก็หวังว่า ถ้าเป็นบรรทัดฐานที่วางไว้ให้กับตัวเองก็จะคาดหวังสิ่งนี้กับคนอื่นเช่นเดียวกัน

เมื่อถามว่า ในใจเล็งอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลช่วงไหน พิธา กล่าวว่า ถ้าตอบเขาก็รู้หมด ตอนนี้มีข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ผ่านช่องทางดิจิทัลฯ และการลงพื้นที่ก็จะมีคนนำข้อมูลมาให้ในเรื่องเกี่ยวกับความประพฤติมิชอบ เรื่องคอร์รัปชั่น ความล้มเหลวในการใช้งบประมาณแผ่นดิน ก็จะเตรียมข้อมูลไปเรื่อยๆ และจะดูจังหวะอีกทีเพื่อความเหมาะสมว่าจะใช้บาซูก้าเลยหรือจะใช้แค่แนวรบแบบ 151  152 คงต้องดูจังหวะอีกครั้ง ยืนยันว่าการทำงานของฝ่ายค้านล้มรัฐบาลอย่างเดียว แต่เพื่อเอาผลประโยชน์ของประเทศชาติและภาษีของประชาชนเป็นหลัก

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo05.jpg

เมื่อถามว่า กลับมาครั้งนี้จะสร้างสีสันให้สภาในการเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ พิธา กล่าวว่า คงเอาสาระเป็นหลัก สีสันเป็นรอง เพราะหมดเวลาทำการเมืองแบบวาทกรรมฉาบฉวย เน้นการทำงานลงลึก และทำงานเรื่องสาระ ที่สำคัญเราจะทำให้เรื่องที่เป็นสาระแล้วประชาชนคนธรรมดาทั่วไปเข้าใจได้อย่างไร ถือเป็นศิลปะของคนเป็นผู้แทนฯ ที่จะนำเอาเรื่องยากๆ เช่น ญัตติ AI ที่เกี่ยวของกับปัญญาประดิษฐ์ มันเกี่ยวข้องกับชาวบ้านและคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างไร ตนคิดว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่จะต้องใช้ศิลปะในการนำเสนอ สาระย่อมสำคัญกว่าวาทกรรม

พิธา กล่าวทิ้งท้าย ก่อนเดินออกจากวงสัมภาษณ์ด้วยว่า “การเข้ามาครั้งนี้ ไม่มีออก จะออกก็คงออกไปทำเนียบเลย ถ้าจะออกก็คงออกไปทำเนียบอย่างเดียวครับ”

จากนั้น พิธา ได้ขึ้นไปที่ชั้น 2 บริเวณหน้าห้องประชุมสภาฯ เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่รับบัตรประจำตัว สส.อีกครั้ง หลังจากครั้งที่แล้วได้วางบัตรคืนไว้บนโต๊ะกลางห้องประชุมสภาฯ แล้วเดินออกจากห้องประชุมสภาฯ

ต่อมาในเวลา 11.40 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งให้สมาชิกทราบถึงผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า ‘พิธา’ ไม่มีลักษณะต้องห้ามการใช้สิทธิสมัคร สส. ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 98(3) ทำให้สมาชิกภาพ สส.ของ ‘พิธา’ ไม่สิ้นสุดลง ทำให้จำนวนสส.ปัจจุบัน มีครบถ้วน 500 คน มีองค์ประชุม 250 คน ปรากฎว่า หลังจากวันมูหะมัดนอร์ พูดจบ ‘พิธา’ ที่ยืนรออยู่หน้าห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ก็เดินเข้าสู่ห้องประชุมทันที ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมกับโบกมือให้สส. และโค้งคำนับประธานสภาผู้แทนราษฎร

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo06.jpg

ทั้งนี้ ในระหว่างทางที่เดินไปยังที่นั่งของตัวเอง มีสส.พรรคเล็ก ฝ่ายค้านมารอจับมือแสดงความยินดี อาทิ กัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ที่เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับ ‘พิธา’

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo04.jpg

นอกจากนี้ ยังได้ชนหมัดกับ ชุติพงษ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล ด้วย

pita-come-back-hug-parliament-25jan24-SPACEBAR-Photo02.jpg

จากนั้น เมื่อ ‘พิธา’ มานั่งยังที่นั่งของตัวเองในฝั่งพรรคก้าวไกล โดยนั่งข้าง ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ ก็มีสส.พรรคก้าวไกลหลายคนมาห้อมล้อมจับมือแสดงความยินดี

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์