ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติ และการปฏิรูปประเทศ และ กมธ.การที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร ต่อกรณีข้อพิพาทที่ดิน ส.ป.ก.เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ว่า กรมแผนที่ทหาร ได้อธิบายที่มาที่ไปของแผนที่ว่า เดินจากหมุด และอ้างอิงจากสมุดจดบันทึกการรังวัด (Field Book) ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งเราพยายามอธิบายว่า Field Book ต้องอิงจากหลักฐานเดิม ปัจจุบันมีพระราชกฤษฎีกาที่ชัดเจน และได้หลักฐานเพิ่มเติมว่า คณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4,000 (One Map) ได้ทำหนังสือเตือนสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ไปว่า แนวเขตที่ไปวางแปลงทับเขตอุทยานฯ โดยให้พิจารณา จากนั้น ก็มีหนังสือตอบมาชัดเจนจาก ส.ป.ก. ว่าอยู่ในเขตอุทยาน โดยตอบมาก่อนที่จะเกิดเรื่อง
ผมก็ยังงง ว่าคณะที่ทำ ทำแบบนี้ได้อย่างไร ด้วยอำนาจหรือมีอะไรที่มากกว่านั้น ดังนั้น วันนี้คณะกรรมาธิการ 2 คณะที่พิจารณาแล้ว ก็ยังมีอีกชุดหนึ่ง โดยในวันพุธหน้าก็ต้องมาชี้แจงรายละเอียด ทราบว่าจะเชิญคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มาด้วย

ชัยวัฒน์ กล่าวว่า ขอยืนยันกับประชาชนที่อาจฟังแล้วไม่เข้าใจว่า ทำไมเราออกมาพูดเรื่อง ส.ป.ก. ประชาชนที่เดือดร้อน ผู้ยากจน ยากไร้ ไม่มีที่ทำกิน สบายใจได้ว่าท่านจะได้ที่ทำกินจาก ส.ป.ก.ด้วยความสุจริตใจ และคณะทำงาน ส.ป.ก.จะมองเห็นผู้ยากไร้จริงๆ ไม่ใช่ให้กับผู้มีอำนาจ หรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ วันนี้ต้องเดินหน้าสู้พร้อมกัน เพราะ ส.ป.ก.ที่ออกมา ผู้ครอบครองจะเป็นผู้มีอิทธิพล มีนักการเมือง นักลงทุนต่างๆ ที่ไม่ใช่เกษตรกรผู้ยากไร้ ที่ไม่มีที่ทำกินจริงๆ โดยในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เวลา 08.30 น. ได้นัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูพื้นที่ ให้เจอกันที่ด่านปากช่อง ไปดูแนวเขตอุทยาน ว่ามีตรงไหนบ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ลุแก่อำนาจ
อยากเรียนกับสื่อฯ และฝากไปยังประชาชนว่า ผู้ยากไร้ ยากจน ไม่มีที่ทำกินสบายใจได้ ถ้า ส.ป.ก.ตั้งใจทำงานนี้ด้วยความถูกต้องและแม่นยำ ก็ต้องเอาคนที่เป็นนายทุน กลุ่มนายทุน กลุ่มที่ได้ไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย รื้อกลับมา ถ้า ส.ป.ก.จริงใจต่อประเทศชาตินี้ เอาเป็นแบบนี้ดีกว่า
ส่วนกรณีที่ดินเขาใหญ่ ที่เป็นปัญหา มีเกษตรกรเป็นเจ้าของพื้นที่หรือไม่นั้น ชัยวัฒน์ กล่าวว่า จะบอกว่าไม่มีเกษตรกร คือได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย คือเป็นบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ ซึ่งผู้ใหญ่บ้านก็ยืนยันว่า มีลูกบ้านเสนอชื่อไป แต่ไม่มีชื่อ กรณีแบบนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว รายชื่อที่ได้ไปในวันที่ 1 มี.ค. ก็ไปดูกันว่า ใครเป็นผู้ครอบครอง เห็นแล้วไม่รู้ว่าเป็นที่เกษตรกร หรือที่ดินทำเลทอง

ขณะเดียวกัน ได้แจ้งในที่ประชุม กมธ.แล้วว่า ในวันที่ 1 มี.ค. ได้ทำหนังสือเชิญ ป.ป.ช., เลขาธิการ ส.ป.ก. และผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) รวมทั้งฝ่ายปกครองทั้งหมด รวมถึงคณะอนุกรรมการของ กมธ.การที่ดินฯ ชุดนี้ ลงพื้นที่จริง จะได้ชี้ชัดกันไปเลย
ผมเชื่อมั่นในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งเป็นแนวทางมาตลอด และคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ก็มีมติมาตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.2565 เห็นชอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และมีการดำเนินการต่อเนื่องมาตลอด และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช. ก็ทำหนังสือถาม ซึ่งเขาก็ตอบชัดว่า เป็นที่แนวเขตอุทยานฯ แต่ไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มาได้อย่างไร
เมื่อถามว่า กรมแผนที่ทหารได้ชี้แจงอย่างไรในเรื่องนี้ ชัยวัฒน์ ระบุว่า อีกฝ่ายชี้แจงว่าทำตามเส้น Field Book ที่จัดทำในพื้นที่ ซึ่งตนก็อธิบายไปว่า มันกว้าง 300 เมตร แต่ตัวแทนกรมแผนที่ทหาร ก็อ้างอิงว่ามันติดเขาลูกช้าง แต่แผนที่ทำออกมาเฉพาะเส้นเดียว ก็อยากถามว่า การจำแนกพื้นที่มาก่อนหรือหลัง โดยเฉพาะนโยบายของกระทรวงเกษตรฯ ในขณะนั้น ยืนยันชัดเจนว่า อุทยานใด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าใด ที่ประกาศมาก่อน ส.ป.ก. ต้องยึดตามแนวอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า
เพราะฉะนั้น อุทยานเขาใหญ่ ประกาศปี 2505 มีแนวพระราชกฤษฎีกาชัดเจน ก็ต้องยืนตามแนวพระราชกฤษฎีกา ส.ป.ก.ไม่สามารถจัดที่ดินในพื้นที่อุทยานได้ ซึ่ง ส.ป.ก.ก็ตอบกลับมาชัดเจนว่า อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่วันนี้ก็ไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้น ต้องดูว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังของขบวนการที่เกิดขึ้น เป็นบุคคลที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
