การประชุมคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้างมาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมรก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มี ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานกมธ.ฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อสรุปสาเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ ถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง(ยผ.) กรุงเทพมหานคร และ มณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) แต่ มณเฑียร ติดภารกิจไม่สามารถมาชี้แจงต่อมกธ.ฯได้ จึงได้ส่ง สุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าฯ สตง. เข้าชี้แจงแทน โดยก่อนเข้าประชุมกมธ.ฯ สุทธิพงษ์ ได้ถูกสื่อรุมถามเกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว แต่สุทธิพงษ์ ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ปลอดประสพ กล่าวก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมว่า เข้าใจความรู้สึกของสตง.ดี สมัยรับราชการอยู่ที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับกรณีของสตง.ขณะนี้ คือกรณีป่าสาละวิน เดินไปที่ไหน คนก็ด่าทั้งประเทศ เขาบอกว่าร่วมกันโกง เอาไม้มาสวมโสร่ง ตอนที่กำลังจะขึ้นเป็นปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ ก็ถูกผู้ใหญ่ขอร้องว่า ให้ไปจัดการเคลียร์ปัญหาสาละวิน ใช้เวลาถึง 5 ปีถูกลอบยิง 2 ครั้ง เครื่องบินตก 2 ครั้ง ในการแก้ปัญหา แล้วจึงได้เป็นปลัดฯ วันนี้ท่านทราบดีตึกถล่มลงมา มีผู้เสียชีวิตนับร้อย งบประมาณของรัฐอาจถึงกับสาบสูญไปหรือไม่ก็ไม่รู้ บริษัทประกันจะยอมหรือไม่ เพราะเป็นพิบัติภัย คิดว่าหลายท่านในสตง. ไม่เกี่ยวข้องเลย เพราะยังไม่ได้มารับตำแหน่ง แต่ว่าทำอย่างไรได้ ก็ต้องช่วยกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยอีก
“สิ่งที่เกิดขึ้นกับอาคารสตง. ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย ตึกที่ใช้เงิน 2 พันกว่าล้านสร้างขึ้นมา โครงสร้างเสร็จแล้วถล่มลงภายใน 8 วินาที แล้วมีคนตายเป็นร้อยคน ผมจึงอยากขอร้องให้ช่วยสนับสนุนการทำงานของกมธ. เพราะกมธ.จะพูดในเชิงการเมืองผสมกับความรู้สึกประชาชน สำคัญกว่าชุดอื่นๆ ด้วยซ้ำไป เนื่องจากประชาชนหวังว่า เราในห้องนี้ภายใต้ความร่วมมือของท่าน จะสามารถสร้างมิติใหม่ให้กับประเทศไทย”
— ปลอดประสพ กล่าว
ปลอดประสพ กล่าวต่อว่า เราอย่ามาปฏิเสธว่ามันไม่มีอะไร มันมีอะไรแน่นอน อย่ายกระเบียบอะไรทั้งสิ้นมาอ้างว่าปฏิบัติตามระเบียบร้อยเปอร์เซ็นต์ ถ้าเราปฏิบัติตามระเบียบแล้วเกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นมา แปลว่า ระเบียบนั้นมันเฮงซวยหรือไม่ได้ปฏิบัติตามระเบียบ ต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่นอน ยืนยันว่า กมธ.ชุดนี้ จะไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของคดีใดๆ ทั้งสิ้น และเราจะปฏิวัติ ปฏิรูป เปลี่ยนแปลงระเบียบราชการทั้งหมดที่มีอยู่ ไม่ว่าจะระดับพระราชบัญญัติ หรือรองลงมาธรรมเนียมปฏิบัติ รวมไปถึงทางด้านวิชาการ เพื่อให้แน่ใจว่าอาคารทั้งของราชการ หรือเอกชน ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยนับแต่วันนี้เป็นต้นไป ต้องไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ประเทศไทยไม่อาจสูญเสียสิ่งเหล่านี้ได้อีกเป็นอันขาด ดังนั้น อยากจะขอร้องท่าน ได้กรุณาช่วยเราสร้างอาคารของประเทศไทยใหม่ ที่ปลอดภัยกับลูกหลานเราในอนาคต และขอให้ท่านสบายใจว่า วันนี้ ในห้องนี้ ไม่มีใครที่จะมารังแก หรือถามไถ่ท่านให้เสียเกียรติยศ ไม่ใช่จะมาดูถูกใคร แต่ท่านต้องยอมรับความจริงว่า เหตุมันเกิดที่ท่าน แล้วคนที่รู้ดีที่สุด ก็คือพวกท่าน เพราะเราไม่รู้ เสียดายที่ ผู้ว่า สตง. ไม่มาด้วยตัวเอง จะด้วยติดภารกิจอะไรก็ไม่แน่ใจ จริงเท็จก็ต้องเชื่อท่าน
“การไม่มาในวันนี้ เอาความเห็นส่วนตัวของผมเป็นหลัก ถือว่า เป็นลูกผู้ชายไม่พอ อยากขออนุญาตใช้ความเป็นคนอายุ 80 ปีว่า ต้องเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ มีความรับผิดชอบมากกว่านี้ ลุกขึ้นยืนอย่างกล้าหาญ เล่าให้พวกเราฟังว่าอะไรเกิดขึ้น เพราะสิ่งนี้จะลบล้างสิ่งที่ท่านถูกกล่าวหา หรือดูถูกดูแคลนจากสังคม เพราะฉะนั้น ทำไมลำบากเกินไป นำคำผมไปพูดเรียนท่าน ในฐานะที่ผมอายุเยอะมากกว่า แล้วผมจะเชิญท่านมาอีกอย่างแน่นอน”
— ปลอดประสพ กล่าว
ปลอดประสพ กล่าวว่า กมธ. อยากฟังคำอธิบายจากปากผู้ว่าฯ สตง. เราเคารพในตำแหน่งของรองผู้ว่าฯ สตง. ที่จริงทราบมาก่อนแล้วว่า ผู้ว่าฯ สตง.จะไม่มา จึงได้หารือกับกรรมาธิการหลายคน จริงๆ จะเชิญท่านกลับด้วยซ้ำ แต่ถูกห้ามไว้ว่า อายุมากแล้วไม่ควรใจร้อน ก็เชื่อ ซึ่งได้ตรียมคำถามไว้กว่า 20 ข้อ ขอเพิ่มข้อที่ 21 ให้เอากลับไปคิด และเรียนผู้ว่าฯ สตง.ว่า ให้มาตอบในการประชุมกมธ.ครั้งหน้า ในฐานะที่เป็น สตง. ตรวจงานมาเยอะ ให้คำแนะนำคนก็เยอะ เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ถ้าเกิดกับหน่วยงานอื่น ท่านจะให้คำแนะนำต่อคนอื่นอย่างไร และกมธ.จะพิจารณาไปให้ถึงการแก้ไขกฎหมาย รวมถึงบทบาท และสถานะของ สตง.ในอนาคต เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนไว้ใจได้ เท่ากับว่าก็ต้องถูกตรวจสอบด้วยเหมือนกัน
“ที่ผมพูดไปทั้งหมดนี้ ถ้าเกิดว่ามันแรงไปหรือไม่ให้เกียรติท่าน ผมเองก็ต้องขอโทษ แต่ผมพูดด้วยความบริสุทธิ์ใจและอยากให้งานนี้ประสบความสำเร็จ”
— ปลอดประสพ กล่าว