‘รอมฎอน’ ชี้รัฐบาลไม่ชัดเจน ‘พูดคุยสันติสุขชายแดนใต้’

7 พ.ค. 2568 - 06:46

  • ‘รอมฎอน’ ชี้รัฐบาลไม่ชัดเจน ‘พูดคุยสันติสุขชายแดนใต้’

  • มอง ‘ความรุนแรง’ กำลังทำงาน เพื่อให้เกิดการ ‘ตอบโต้’

  • ชม ‘ทักษิณ’ กรุยทางเปิดคอนเนกชั่น

  • แนะไทยต้องเริ่มด้วยตัวเอง ไม่ใช่ให้ ‘BRN-มาเลเซีย’ เป็นผู้กำหนด​

รอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้ความเห็นถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่าขณะนี้น่าจะเกิดจากการแก้ปัญหาภาพรวมยังไม่มีความชัดเจนและมีความลังเลในการกำหนดทิศทาง แม้ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มีข้อสั่งการให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทบทวนยุทธศาสตร์ ต้องแล้วเสร็จตั้งแต่เดือน ม.ค. 2568 แต่ล่วงเลยมาแล้ว พอหลังจากสถานการณ์รุนแรงขึ้นก็มีการขีดเส้น 7 วัน และวันนี้ก็ผ่านมาแล้วด้วย ขณะที่ข้อเสนอของฝั่งไทย ได้เจรจากับ BRN ก่อนหน้านี้ให้หยุดยิงเพื่อพิสูจน์ความเป็นตัวจริง แต่กลับมีความล้มเหลว เกิดเหตุลอบสังหารตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนเกิดความไม่สบายใจ จากนั้นสถานการณ์ไต่ระดับ”

และหากสังเกตดี ๆ ความรุนแรงกำลังทำงานเพื่อให้เกิดการตอบโต้, หากความรุนแรงถาโถมลงไปเรื่อย ๆ จะทำให้ผู้คนแบกรับความเสี่ยง ดังนั้น จะดำเนินการอะไรต้องเป็นเหตุเป็นผล และมองว่ากระบวนการสันติภาพต้องดันขึ้นจากหลายภาคส่วน ทั้งประชาชนในพื้นที่ชาวมุสลิมและไทยพุทธ รวมถึงอื่น ๆ ต่างเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูการพูดคุย เพื่อให้มีพื้นที่ทางการเมือง พื้นที่ให้ประชาชนพูดคุยและส่งเสียง และย้ำว่าเรื่องนี้ต้องถกเถียงกันด้วยเสียงประชาชน

เมื่อถามว่า “นายกรัฐมนตรี” ควรเป็นหัวหน้าเจรจาเองหรือไม่? รอมฎอน กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมา กระบวนการเริ่มต้นมาตั้งแต่รัฐบาลของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่จำเป็นต้องเจรจาเอง แต่ต้องมีส่วนกำกับ ขณะที่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กำหนดระดับ โดยมีคณะกรรมการพูดคุยซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน รองลงมาเป็นคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข และคณะประสานงานในพื้นที่

แต่เมื่อเข้าสู่รัฐบาลของ เศรษฐา ทวีสิน และ แพทองธาร ชินวัตร โครงสร้างแบบนี้ไม่มี แต่ให้ สมช. ดำเนินการภายในเอง ประกอบกับไทยยังมีข้อกังขาว่าคณะพูดคุยของ BRN เป็นตัวจริงหรือไม่ นานแล้ว เรื่องทั้งหมดจึงควรเริ่มต้นจากฉันทานุมัติของแต่ละฝ่าย ที่แต่ละฝ่ายต้องมีการปรับ เพราะสุดท้ายทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยกันได้คือต้องยุติสถานการณ์ปรปักษ์ หรือการลดความรุนแรง การเผชิญหน้า แม้ต่างฝ่ายต่างดำเนินการ แต่สุดท้ายต้องมีองค์ประกอบร่วมกัน

รอมฎอน กล่าวด้วยว่า “ที่ผ่านมา ยังไม่ได้มีการกำหนดทิศทาง ตกลงกติกา มีแต่คณะผู้แทนเพื่อสันติภาพเท่านั้นร่างเอกสาร และแผนสันติภาพเท่านั้น และแม้การเรียกร้องให้หยุดความรุนแรงของรัฐบาลดูเหมือนสมเหตุสมผล แต่ไม่สอดรับกับความเป็นจริง เพราะ BRN ยังคงใช้ความรุนแรงเป็นอำนาจต่อรอง ดังนั้น สิ่งที่ต้องคิดคือต้องเผชิญหน้า สิ่งที่รัฐบาลต้องคิดคือกำหนดวิธีการดำเนินการ เพราะมีความชอบธรรมมากกว่า เนื่องจากไม่ได้ใช้ความรุนแรง”

เมื่อถามว่ารัฐบาลจะส่ง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปพูดคุยกับ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เพื่อยุติปัญหาเหตุความรุนแรงชายแดนใต้ จะได้ผลหรือไม่? รอมฎอน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า การริเริ่มพูดคุยกับมาเลเซียเกิดจากความสามารถของ ทักษิณ ที่เดินทางไปใช้คอนเนกชั่น นำไปสู่การปูทางพูดคุยสันติภาพ แต่จนถึงปัจจุบันต้องยอมรับว่ามาเลเซียมีความสำคัญ เพราะมีส่วนได้ส่วนเสียทั้งประชากรและภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กัน จึงต้องมีการจัดวางให้เกิดความเหมาะสม การกันมาเลเซียออกจากกระบวนการแก้ไขปัญหาอาจจะสร้างปัญหามากกว่า และต้องยอมรับว่า ปัจจุบันไทยใช้มาเลเซียเป็นประตูทางเข้า (engage) เพื่อพูดคุยกับ BRN ด้วย แต่สุดท้ายต้องขีดเส้นใต้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในประเทศเรา ต้องริเริ่มด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้ BRN หรือมาเลเซียเป็นผู้กำหนดการพูดคุยหรือการทูต

ผมพร้อมสนับสนุนรัฐบาล เพื่อเดินหน้าการพูดคุยไปสู่เส้นทางแห่งสันติภาพ


เรื่องเด่นประจำสัปดาห์