กอ.รมน. พลาดท่าทำ ‘ไอโอ’ หลุดโผหมวดหมู่ แฉ ‘เจ๊จุกคลอง3’ โยงทหาร-ตร.

1 พ.ค. 2568 - 10:18

  • กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ จี้ ‘กอ.รมน.’ เอาผิดคนจัดหมวดหมู่เพจ ‘ปชน.’ อยู่ในกลุ่ม ‘ต่อต้านสถาบัน’ หลัง ‘กอ.รมน.’ ยอมรับมีบางบุคคล ผิดพลาดทำ ‘เอกสารจัดหมวดหมู่’ กลุ่ม-บุคคลการเมือง พร้อมปูดเพจ ‘เจ๊จุกคลอง 3’ โยงทหาร-ตำรวจ

RTA-IO-ISOC-SPACEBAR-Hero.jpg

รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย ชยพล สท้อนดี สส.กทม. พรรคประชาชน แถลงภายหลังการประชุม กมธ. พิจารณากรณีปฎิบัติการไอโอของหน่วยงานความมั่นคงที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพ

รังสิมันต์ กล่าวว่า เนื่องมาจากการอภิปรายของ ชยพล ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา วันนี้หน่วยงานที่ได้เชิญมามาครบ อาจจะขาดเพียงรายบุคคลที่เกี่ยวข้อง ปัญหาที่เราเห็นผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจของ ชยพล มีการสรุปข้อมูลข่าวสารและการกระจายต่อในลักษณะที่เป็นการกล่าวหา และใส่ความเท็จต่อบุคคลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเอกสารจัดหมวดหมู่ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม กลุ่มที่แอบอ้างสถาบันเบื้องสูง รวมไปถึงมีการจัดหมวดหมู่ในกลุ่มต่อต้านสถาบัน อย่างเพจพรรคประชาชน ก็ถูกกล่าวหาว่าอยู่ในกลุ่มที่ต่อต้านสถาบัน

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สำหรับเอกสารที่หลุดออกมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ยอมรับว่าเป็นเอกสารจริง ไม่มีข้อโต้แย้ง ไม่มีข้อถกเถียงว่าเอกสารปลอม แต่ก็ปฏิเสธเนื้อหาหมวดหมู่ ว่าเป็นการกระทำที่ผิดพลาดของบางคนใน กอ.รมน. เราไม่ทราบว่าขั้นตอนในการเอาข้อมูลนำมาจากเพจไหนหรือส่วนไหน ไม่มีปรากฏในรายละเอียด 

ในการตั้งข้อสังเกตและยืนยันว่า ถ้าเป็นความผิดพลาดจริงก็ต้องมีการลงโทษผู้ดำรงความผิด นำเสนอข้อมูลความผิดปกติของการใส่ร้าย การสร้างความแตกแยกของเอกสาร กอ.รมน. ไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียวแต่เกิดแล้วหลายครั้ง 

“จะบอกว่าเป็นความผิดพลาดในหลายครั้ง น่าจะไม่ใช่ แต่ดูเป็นความจงใจที่จะให้เกิดการใส่ร้ายป้ายสีทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นซีกรัฐบาลหรือซีกฝ่ายค้าน เอกสารพวกนี้มีมีการเปิดเผยใน กอ.รมน. แล้วส่งให้ส่วนกลางลงนาม สามารถเอาผิดได้ทันที ถ้า กอ.รมน. บริสุทธิ์ใจ ไม่เกี่ยวข้องกับการใส่ร้ายป้ายสี เพื่อการแตกแยกทางการเมืองหรือสังคมก็ดี จะต้องมีบุคคลที่ต้องรับผิดในเรื่องนี้” ประธาน กมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าว

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า การใช้ไอโอแบ่งเป็น 2 ส่วน  ชยพล ได้เปิดโปงถึงโครงสร้างคณะทำงานพิเศษ ทบ. บุคคลที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง ข้อมูลส่วนนี้ก็ปรากฏชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี รองผู้บัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เคยเป็นหัวหน้าคณะทำงานพิเศษ ทาง พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่เข้าชี้แจงต่อ กมธ. ก็ยอมรับว่าคณะทำงานพิเศษ ทบ. มีอยู่จริง

แต่ ทบ. ปฏิเสธและยืนยันว่าไม่มีการดำเนินการใดๆ ในลักษณะใส่ร้ายป้ายสีหรือสร้างความแตกแยกทางการเมือง หรือปฏิบัติการไอโอ เราไม่มี ทำเต็มที่คือเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานของกองทัพบกเท่านั้น อาจจะมีการส่งต่อไปอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเรายังไม่ทราบว่ามีใครบ้าง แต่ยืนยันมีการส่งต่อผ่านสื่อมวลชนที่ติดตามกองทัพอยู่เป็นประจำ และตนได้นำข้อมูลของตนมาชี้แจง 

รังสิมันต์ กล่าวต่อ_ว่า สำหรับบัญชีไอโอที่สำคัญมีความเชื่อมโยงกับกองทัพหรือตำรวจ เช่น บัญชีที่ว่าชื่อ เจ๊จุกคลอง 3 มีการรายงานจากประเทศแคนนาดาว่า เป็นบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ตัวบัญชีเจ๊จุกคลองสาม มีหลักฐานว่าเคยมีโลโก้ไปขึ้นแสดงในหน้าจอ กองทัพบกบอกไม่ได้อยู่ในบัญชีดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาด

นอกจากนี้มีการเผยแพร่ข้อมูลและภาพที่ถ่ายตำรวจควบคลุมฝูงชน ที่จะเข้าไปได้ต้องเป็นตำรวจเท่านั้นหรือเป็นการถ่ายภาพที่มีการอ้างถึงว่าเป็นม็อบวีโว่ แต่เมื่อดูจากมุมที่ถ่ายต้องเป็นมุมที่มาจากตำรวจเท่านั้น เบื้องต้นได้ถามกับ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องนี้ และกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตแล้วจะต้องตรวจสอบว่าคนที่เป็นเจ้าของบัญชีนี้ ที่มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลหรือว่าข้อมูลลับของราชการมาเผยแพร่ ตกลงแล้วเป็นคนในราชการหรือไม่ เป็นคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เป็นคนในกองทัพหรือไม่ 

“สิ่งที่รับกันคือเอกสารของ กอ.รมน. ที่มีการใส่ร้ายป้ายสี ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเป็นของจริง และจะรับไปดูว่าจะดำเนินการเอาผิดกับคนที่เกี่ยวข้องในการออกเอกสารนี้อย่างไร และรับนับว่ามีคณะทำงานมั่นคง ที่มีชื่อ พล.อ.ธรรมนูญ วิถี ว่ามีจริง โครงสร้างจริง แต่ปฏิเสธว่ามีการทำ การที่ทุกฝ่ายความมั่นคงปฏิเสธการเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือการสร้างปฏิบัติการไอโอ แต่เมื่อปฏิบัติการไอโอเกิดขึ้นแล้ว สร้างความเสียหาย หวังว่าหน่วยงานความมั่นคงจะทำหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฏหมายอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้ปฏิบัติการไอโอเกิดขึ้นต่อไป ท้ายที่สุดจะต้องมีผู้รับผิด“ ประธานกมธ.ความมั่นคงแห่งรัฐฯ กล่าว

ด้าน ชยพล ในฐานะที่ออกมาเปิดโปงปฏิบัติการไอโอกองทัพ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลที่ผ่านมา กล่าวว่า กองทัพเข้าให้ข้อมูลหลายด้าน ประเด็นที่น่าสนใจมีหลายเรื่อง เช่น ยอมรับว่าเอกสารแต่ละฉบับเป็นเอกสารจริง ยอมรับว่าคณะทำงานและโครงสร้างต่างๆ เป็นโครงสร้างจริง ยอมรับถึงขั้นไอโอที่เป็นส่วนการประชาสัมพันธ์สายข่าวเป็นเรื่องจริง

แต่สิ่งที่ไม่ยอมรับคือ เรื่องที่ไอโอโจมตีให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนโดยรวม แม้ข้อมูลในเอกสารเดียวกันแต่ก็มีการรับแค่บางส่วนเท่านั้น เป็นเรื่องที่สังคมต้องตัดสินเอง ส่วนข้อมูลต่างๆ ที่รั่วออกมา เช่น ข้อมูลเจ๊จุ๊กคลอง3 ที่ก่อนหน้านี้เคยเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลทางการเมือง หน่วยงานที่ชี้แจงก็มาบอกว่าไม่ใช่หน่วยงานโดยตรง แต่เป็นการรั่วไหลของข้อมูลต่างๆ นี่คือเรื่องที่น่ากังวลเพราะข้อมูลเหล่านี้รั่วไหลออกไป 

ทั้งที่กองทัพบอกมีแนวคิดไปทิศทางเดียวกัน สนับสนุนงานของกองทัพ บุคคลเหล่านี้นำไปใช้โจมตีคนการเมือง สร้างความเกลียดชัง มีการสอบถามว่าหน่วยงานความมั่นคงจะตามมาดำเนินคดีไหม แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบและหน่วยงานไม่คอนเฟิร์มว่าจะติดตามบัญชีแอคหลุม เป็นรายงานภัยคุกคามภายใน จะมีการระบุถึงแอ็คชั่นของทางกองทัพที่ไปดำเนินคดีกับผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายท่านที่ไม่ใช้ชื่อจริง และรูปมีการโพสต์ไม่เป็นที่พึงประสงค์ของกองทัพ และถูกกองทัพตามเจอ ต้องดูว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เราจะดำเนินคดีและติดตามอย่างจริงจัง และมีการปล่อยข้อมูลให้กับคนที่มีแนวคิดเกี่ยวกับกองทัพใช่หรือไม่ 

“คุณจะมีแนวคิดที่ไปโจมตีบุคคลทางการเมืองหรือโจมตีผู้ที่เห็นต่างจากกองทัพ นี่ไม่ใช่หน้าที่โดยตรง จากการชี้แจงของกองทัพในวันนี้ หลายอย่างทำให้เราต้องลงหลักฐานเพื่อดำเนินการร้องเรียนต่อไป” ชยพล กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์