‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สวมเสื้อดำ สกรีนข้อความคำว่า ‘สุดซอย’ ไว้บริเวณอกด้านขวา นำมวลชนมายื่นหนังสือถึง นายกรัฐมนตรี ‘แพทองธาร ชินวัตร’
เพื่อเรียกร้องให้ ‘นายกรัฐมนตรี’ ยุติการดำเนินการตาม MOU 2544 ที่ว่าด้วยข้อตกลงเกี่ยวกับเขตทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทย-กัมพูชา และแถลงการณ์ร่วม (JC2544) ระหว่าง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ นายกรัฐมนตรีไทย กับ ‘ฮุน เซน’ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยอ้างว่าเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ ม.178 และเป็นการฝ่าฝืนพระบรมราชโองการเกี่ยวกับการกำหนดเขตไหล่ทวีปของไทย

โดยมี ‘นิติธร ล้ำเหลือ’ หรือ ทนายนกเขา และ ‘ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์’ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย ขณะที่ฝั่งรัฐบาลได้ส่ง ‘สมคิด เชื้อคง’ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง มาเป็นผู้รับหนังสือ


หลังยื่นหนังสื่อเสร็จแล้ว ‘สนธิ’ ได้แถลงข่าว พร้อมนำสไลด์แผนที่แสดงภาพ ส.ค.ส. พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นภาพแผนที่ตามพระบรมราชโองการ ประกาศเส้นทวีปของประเทศไทยด้านอ่าวไทย พ.ศ. 2516 มาประกอบการแถลง
‘สนธิ’ ระบุว่า ประเทศไทยไม่เคยมีพื้นที่ทับซ้อน แต่เรามี นายกฯ ทับซ้อน และตนกล้าพูดว่า MOU 44 เป็น MOU ขายชาติ พร้อมให้เวลารัฐบาล 15 วัน หลังจากนั้นจะมาติดตามผล ซึ่งขั้นตอนต่อไปจะร้องเรียนต่อสภาผู้แทนราษฎร และจะส่งเอกสารให้ สส.และ สว.ทุกคน แต่หาก สส. หรือ สว. คนไหน ลงมติเห็นชอบ MOU 44 ถือว่าอยู่ในขบวนการร่วมกันขายชาติเช่นกัน เชื่อว่าหากในอนาคตความจริงปรากฏอาจทำให้ สส. และ สว.ที่ยกมือเห็นชอบติดคุกได้


นอกจากนี้ ‘สนธิ’ ยังบอกจะยื่นหนังสือร้องเรียนไปที่กระทรวงการต่างประเทศ เพราะต้องการให้กระทรวงการต่างประเทศ ข้าราชการ โดยเฉพาะกรมสนธิสัญญา รับทราบว่าถ้าท่านไม่ปกป้องอาณาเขตไทยร่างสัญญาใหม่แล้วตกลงทำตาม ท่านก็คือข้าราชการขายชาติเช่นกัน
“นี่คือประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ทำอะไรครั้งนี้ต้องทำด้วยความระมัดระวัง การต่อสู้ครั้งนี้จะต้องชนะลูกเดียว พวกแกนนำเก่าๆ พากันพูดว่าไม่มีมวลชนแล้ว วันนี้ผมไม่ได้ปลุกระดมพ่อแม่พี่น้อง แต่ว่ามากันด้วยใจ ถ้าถึงเวลาที่จะต้องลงถนนกันก็จะมามากกว่านี้เป็นพันเท่า ถ้าอะไรที่เป็นของเราแล้วมาเอาไปก็ต้องเจอกัน”
สนธิ กล่าว


ส่วนประเด็นที่บางคนพูดถึงเรื่องเก่าว่าประเทศไม่เดินหน้า เพราะการประท้วง และผมเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ผมถามกลับว่าที่ประท้วงในปี 2548 เราประท้วงใคร และเรื่องอะไร ใช้เวลา 18 ปี เพื่อพิสูจน์ว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว
“ให้ทักษิณสารภาพผิด และบรรจุลงในราชกิจจานุเบกษาว่าได้คดโกงประเทศชาติอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอมาตั้ง 18 ปี”
สนธิ กล่าว


‘สนธิ’ ยังถามเชิงกล่าวหาไปยัง นายกฯ และพรรคเพื่อไทย ว่า พวกเราทำผิดตรงไหนที่ไม่ยอมส่งดินแดนของให้กับกัมพูชา เพียงเพราะนายกฯทับซ้อนบางคนมีข้อตกลงกัน จะแบ่งผลประโยชน์กัน 50-50


