
ปัญหาเรื่องการ ‘ปรับเลข’ จัดสายรถเมล์ใหม่ กำลังถูกสังคมตั้งข้อสังเกตความเอาแน่เอานอนไม่ได้ของนโยบายภาครัฐบาล ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการรถเมล์ในกรุงเทพฯ ที่มีมหาศาล
ดังนั้น ช่วงวาระกระทู้ถามสด ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล จึงได้ถาม สุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลกรมการขนส่งทางบก เรื่องปัญหาการจัดสายรถเมล์ใหม่ที่มีการปรับเลข ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ประชาชนสับสน ทั้งๆ ที่กรมการขนส่งทางบก เคยทำประชาพิจารณ์แล้ว ประชาชนไม่เห็นด้วย จึงขอถามว่าทราบหรือไม่ มีการกำหนดหมายเลขสายรถเมล์ใหม่ การจัดโซนแบบนี้ ทิศของแผนที่ ผิดและมั่วมาก
ท่านถูกกรมการขนส่งทางบก หลอกแล้ว อีกทั้งการปฏิรูปรถเมล์กลับทำให้เกิดปัญหา นอกจากนี้ ยังมีการลดรอบวิ่ง จึงอยากให้รัฐบาลอุดหนุนรถเมล์และเพิ่มจำนวนรถ ไม่ใช่สนใจแต่รถไฟฟ้า ไม่ทราบรัฐบาลมองคนใช้รถเมล์เป็นพลเมืองชั้นสองหรือไม่อย่างไร
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์
ด้าน สุรพงษ์ ชี้แจงว่า การวิ่งรถนั้น แบ่งเป็นโซนสี โดยภายในโซน เมื่อขึ้นไปแล้วหลง ก็จะสามารถกลับมาจุดเดิม ซึ่งเป็นการวิ่งรถกันภายในโซนสีเท่านั้น ส่วนรหัสในการเดินรถ ยอมรับว่ารัฐบาลเข้ามาทีหลัง และพยายามศึกษาและแก้ไข ถ้าเสียงสะท้อนส่วนใหญ่ออกมาเป็นอย่างไร คงจะมีคณะกรรมการขนส่งกลางมาดำเนินการ ส่วนการที่จะเปลี่ยนกลับไปกลับมา ตนไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีหรือไม่ หรือจะเพิ่มการประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนเข้าใจ คาดว่าไม่เกิน 90 วัน จะได้คำตอบ
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ รถเมล์ ต่อไปจะเป็นพระเอกใน กทม. ที่จะกลายเป็นรถอีวี วันนี้ระบบล้อระบบรางจะสัมพันธ์กัน ต่อไปรถ ขสมก. จะหายไปจากถนนหลายพันคัน เส้นทางการวิ่งก็จะปรับเปลี่ยนหลายเส้นทาง วันนี้รัฐบาลทำงานครึ่งปี พยายามวางแผนนำปัญหาเก่ามาปรับ มาเชื่อมโยงทำให้เกิดการบูรณาการร่วมกัน ประเทศไทยจะเห็นการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งของประเทศไทย โดยเฉพาะขนส่งสาธารณะ ขนส่งมวลชน โดยในต่างจังหวัด เราได้กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมาร่วมจัดการเดินรถได้ วันนี้มีการเชื่อมโยงแบบบูรณาการ ต่อไปบทบาท บขส. จะลดลง ถ้ารถไฟรางคู่และรถไฟความเร็วสูงเสร็จ
สุรพงษ์ ปิยะโชติ