







ที่ศาลอาญา รัชดา ‘ธาริต เพ็งดิษฐ์’ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมทนายความ เดินทางมารับฟังคำพิพากษาคดีที่ถูก ‘อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ’ อดีตนายกรัฐมนตรี และ ‘สุเทพ เทือกสุบรรณ’ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ฟ้องเอาผิดฐานปฎิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีแจ้งข้อหาดำเนินคดี ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ ฐานสั่งฆ่าประชาชน จากเหตุสลายการชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ช่วงปี 2553
ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี ‘ธาริต’ อ้างว่ามี ‘ข้อมูลลับ’ ที่ต้องการจะเปิดเผยต่อสังคมเพิ่มเติม โดยอ้างว่าหลังมีการรัฐประหารปี 57 ได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษ เข้ามาแทรกแทรงกระบวนการยุติธรรม ในคดี 99 ศพ ทำให้จนถึงตอนนี้ผ่านมา 13 ปีแล้ว ไม่เคยมีคดีใดขึ้นสู่การพิจารณาของศาลและได้รับความเป็นธรรม
‘ธาริต’ ยังบอกว่าก่อนที่เขาจะมาให้สัมภาษณ์ ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อคัดค้านองค์คณะ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาศาลฎีกาอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้ร่วมกันทำคำพิพากษาในวันนี้ โดยขอให้ศาลอาญาส่งคำร้องนี้ไปยังศาลฎีกา เพื่อให้นำคำพิพากษาคดีนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำคำพิพากษา เพราะมีผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวนหนึ่ง รวมถึงอดีตประธานศาลฎีกาที่เป็นองค์คณะ มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ‘กปปส.’ ที่มี ‘สุเทพ’ เป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว จึงทำให้กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าการที่เขาถูกดำเนินคดีนี้ เกิดจากการกลั้นแกล้งของกลุ่ม ‘สุเทพ’
และไม่ว่าผลของคำพิพากษาของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาจะออกมาอย่างไร ‘ธาริต’ ยืนยันว่าพร้อมยอมรับ เชื่อว่าคำพิพากษาที่ออกมาจะทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ รวมถึงคดี 99 ศพ ได้อย่างแท้จริง
‘ธาริต’ ยืนยันว่า เขาไม่ได้ต้องการเบี่ยงประเด็นหรือประวิงเวลา เป็นเพียงการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ที่เพิ่งออกมาพูดเพราะเพิ่งได้ข้อมูลมา
ส่วนประเด็นที่ ‘ธาริต’ อ้างว่ามี ‘ทหารชั้นผู้ใหญ่’ เรียกเข้าไปในค่ายแล้วขู่ให้หยุดทำคดี 99 ศพ หากไม่ฟังจะรัฐประหาร ผู้สื่อข่าวถามว่า ‘ทหาร’ คนนั้นเป็นใคร ‘ธาริต’ บอกว่าไม่สามารถเปิดเผยชื่อต่อสาธารณะได้ เพราะเกรงจะทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยอมรับ ‘ทหาร’ คนนั้น อยู่ในคณะรัฐประหารปี 57 ด้วย เมื่อถามย้ำว่า ‘ทหาร’ คนดังกล่าว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ‘ธาริต’ ตอบว่าไม่ทราบ
ส่วนประเด็นที่ ‘ราเมศ รัตนะเชวง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีว่า ‘ธาริต’ บิดเบื้อนข้อมูลคดี 99 ศพ และ ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เหน็บ ‘ธาริต’ ว่าเป็นคนกลับไปกลับมา เคยฟ้องดำเนินคดีกับ นปช. แต่พอเปลี่ยนเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับมาดำเนินคดีกับ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ ประเด็นนี้ ‘ธาริต’ โต้กลับว่า ทั้งคู่บิดเบื้อนข้อเท็จจริง และโกหกอย่างร้ายแรง ไม่เคารพการเสียชีวิตของทั้ง 99 ศพ อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานใดพิจารณาว่า การที่ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ สั่งยิงสลายการชุมนุมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
สำหรับแนวทางคำพิพากษาวันนี้ (10 ก.ค.) ‘ธาริต’ เชื่อว่าส่งผลสำคัญ 3 ประการ คือ 1.เป็นการรับรองยืนยันหรือการันตีว่า ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้ทหารใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ไปยิงทำร้ายประชาชนโดยชอบแล้วทุกประการ 2. ผู้ตาย 99 ศพ ผู้บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน และญาติผู้ตายจะไม่มีโอกาสได้รับความยุติธรรมและชดใช้ความเสียหายอีกเลย เพราะผลจากคำพิพากษาเช่นนั้นเท่ากับพิพากษาว่าเขาเป็นผู้สมควรตาย 3. ‘ธาริต’ กับพวกพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้รักษากฎหมายจะกลายเป็นผู้ผิดต้องรับโทษจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่บรรยากาศที่ศาลอาญาวันนี้ พบว่ามีกลุ่มญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 หรือ คดี 99 ศพ เดินทางมาให้กำลังใจ ‘ธาริต’ ด้วย โดยศาลจะอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เวลา 14.00 น.
ก่อนเข้าห้องพิจารณาคดี ‘ธาริต’ อ้างว่ามี ‘ข้อมูลลับ’ ที่ต้องการจะเปิดเผยต่อสังคมเพิ่มเติม โดยอ้างว่าหลังมีการรัฐประหารปี 57 ได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษ เข้ามาแทรกแทรงกระบวนการยุติธรรม ในคดี 99 ศพ ทำให้จนถึงตอนนี้ผ่านมา 13 ปีแล้ว ไม่เคยมีคดีใดขึ้นสู่การพิจารณาของศาลและได้รับความเป็นธรรม
‘ธาริต’ ยังบอกว่าก่อนที่เขาจะมาให้สัมภาษณ์ ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อคัดค้านองค์คณะ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับอดีตประธานศาลฎีกา และผู้พิพากษาศาลฎีกาอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้ร่วมกันทำคำพิพากษาในวันนี้ โดยขอให้ศาลอาญาส่งคำร้องนี้ไปยังศาลฎีกา เพื่อให้นำคำพิพากษาคดีนี้เข้าสู่ที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกา เนื่องจากไม่เชื่อมั่นในการทำคำพิพากษา เพราะมีผู้พิพากษาศาลฎีกาจำนวนหนึ่ง รวมถึงอดีตประธานศาลฎีกาที่เป็นองค์คณะ มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม ‘กปปส.’ ที่มี ‘สุเทพ’ เป็นแกนนำในการเคลื่อนไหว จึงทำให้กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเชื่อว่าการที่เขาถูกดำเนินคดีนี้ เกิดจากการกลั้นแกล้งของกลุ่ม ‘สุเทพ’
และไม่ว่าผลของคำพิพากษาของที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาจะออกมาอย่างไร ‘ธาริต’ ยืนยันว่าพร้อมยอมรับ เชื่อว่าคำพิพากษาที่ออกมาจะทำให้เกิดความเป็นธรรมต่อ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ รวมถึงคดี 99 ศพ ได้อย่างแท้จริง
‘ธาริต’ ยืนยันว่า เขาไม่ได้ต้องการเบี่ยงประเด็นหรือประวิงเวลา เป็นเพียงการใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ที่เพิ่งออกมาพูดเพราะเพิ่งได้ข้อมูลมา
ส่วนประเด็นที่ ‘ธาริต’ อ้างว่ามี ‘ทหารชั้นผู้ใหญ่’ เรียกเข้าไปในค่ายแล้วขู่ให้หยุดทำคดี 99 ศพ หากไม่ฟังจะรัฐประหาร ผู้สื่อข่าวถามว่า ‘ทหาร’ คนนั้นเป็นใคร ‘ธาริต’ บอกว่าไม่สามารถเปิดเผยชื่อต่อสาธารณะได้ เพราะเกรงจะทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยอมรับ ‘ทหาร’ คนนั้น อยู่ในคณะรัฐประหารปี 57 ด้วย เมื่อถามย้ำว่า ‘ทหาร’ คนดังกล่าว ปัจจุบันดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือไม่ ‘ธาริต’ ตอบว่าไม่ทราบ
ส่วนประเด็นที่ ‘ราเมศ รัตนะเชวง’ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โจมตีว่า ‘ธาริต’ บิดเบื้อนข้อมูลคดี 99 ศพ และ ‘นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ’ อดีต ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์เหน็บ ‘ธาริต’ ว่าเป็นคนกลับไปกลับมา เคยฟ้องดำเนินคดีกับ นปช. แต่พอเปลี่ยนเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับมาดำเนินคดีกับ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ ประเด็นนี้ ‘ธาริต’ โต้กลับว่า ทั้งคู่บิดเบื้อนข้อเท็จจริง และโกหกอย่างร้ายแรง ไม่เคารพการเสียชีวิตของทั้ง 99 ศพ อีกทั้งที่ผ่านมาไม่เคยมีหน่วยงานใดพิจารณาว่า การที่ ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ สั่งยิงสลายการชุมนุมเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
สำหรับแนวทางคำพิพากษาวันนี้ (10 ก.ค.) ‘ธาริต’ เชื่อว่าส่งผลสำคัญ 3 ประการ คือ 1.เป็นการรับรองยืนยันหรือการันตีว่า ‘อภิสิทธิ์และสุเทพ’ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้สั่งการให้ทหารใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ไปยิงทำร้ายประชาชนโดยชอบแล้วทุกประการ 2. ผู้ตาย 99 ศพ ผู้บาดเจ็บ 2,000 กว่าคน และญาติผู้ตายจะไม่มีโอกาสได้รับความยุติธรรมและชดใช้ความเสียหายอีกเลย เพราะผลจากคำพิพากษาเช่นนั้นเท่ากับพิพากษาว่าเขาเป็นผู้สมควรตาย 3. ‘ธาริต’ กับพวกพนักงานสอบสวนที่เป็นผู้รักษากฎหมายจะกลายเป็นผู้ผิดต้องรับโทษจำคุกคนละ 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา
ขณะที่บรรยากาศที่ศาลอาญาวันนี้ พบว่ามีกลุ่มญาติของผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมปี 53 หรือ คดี 99 ศพ เดินทางมาให้กำลังใจ ‘ธาริต’ ด้วย โดยศาลจะอ่านคำพิพากษาในวันนี้ เวลา 14.00 น.