‘บิ๊กเล็ก’ เผย ‘ศบ.ทก.’ เน้นลดความตึงเครียด-ไม่ใช้มาตรการกระทบประชาชนชายแดน

17 มิ.ย. 2568 - 10:26

  • ‘ทีมไทยแลนด์’ เดินหน้าควบคุมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

  • ‘พล.อ.ณัฐพล’ ย้ำไม่มีมาตรการตอบโต้-ตัดไฟ มุ่งปกป้องประชาชนเป็นหลัก

  • เผยโครงสร้าง ‘ศบ.ทก.’ เน้นลดความตึงเครียด หนุนเปิดเวทีฟังนักวิชาการ

‘บิ๊กเล็ก’ เผย ‘ศบ.ทก.’ เน้นลดความตึงเครียด-ไม่ใช้มาตรการกระทบประชาชนชายแดน

พล.อ.ณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ในเวลา 13.00 น. ณ ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกกระทรวง และเหล่าทัพเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง นอกจากนี้ยังมีทีมโฆษกกองทัพบก นำโดย พล.ต.วินธัย สุวารี เข้าร่วมด้วย โดยใช้เวลาประชุม 2 ชั่วโมง

จากนั้นเวลา 15.00 น. พล.อ.ณัฐพล แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า “การประชุมวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วยงานเป็นอย่างดี โดยได้ชี้แจงโครงสร้างการทำงานของศูนย์ฯ และต้องได้ข้อสรุปภายในวันนั้น พร้อมทั้งเสนอนายกฯ ให้ความเห็นชอบ”

ทั้งนี้ ศูนย์ฯ จะมีการประชุมทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.30 น. และแถลงข่าวที่ตึกนารีสโมสร เวลา 12.00 น. หรือ 14.00 น. พร้อมถ่ายทอดสดทาง NBT ยกเว้นวันอังคารที่จะประชุมเวลา 14.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ ให้ทุกคนสแตนด์บาย หากมีประเด็นที่ต้องเรียกประชุม จะเป็นการประชุมผ่านระบบออนไลน์ เวลา 9.30 น.

สำหรับกรอบการทำงานบูรณาการและขับเคลื่อนงานระยะสั้น ติดตามให้ข้อเสนอแนะ และสนับสนุนระยะยาว ขอย้ำว่าทีมไทยแลนด์ไม่ใช่ส่วนการบังคับบัญชา เราทำงานระบบโต๊ะกลม หากทำเช่นนี้ได้ เมื่อถึงเวลาก็จะจบภารกิจ

สำหรับมาตรการอื่นๆ ที่จะบังคับใช้ ได้เตรียมการไว้หมดแล้ว เมื่อถึงเวลาก็จะแจ้งให้นายกฯ รับทราบ แล้วประกาศใช้ทันที แต่บางเรื่องก็ต้องเข้าที่ประชุม ครม. หรือ สมช. นอกจากนี้ ทีมไทยแลนด์จะต้องเข้าไปตีกรอบการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) ไทย-กัมพูชา เพราะต้องเห็นพ้องกันทั้ง 2 ประเทศในการปรับการวางกำลัง

เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางกัมพูชาว่าจะขอเลื่อนประชุมไปก่อนจากเดิมที่กำหนดไว้ 27-28 มิ.ย. โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ก็เป็นหน้าที่ของทีมไทยแลนด์ที่ต้องขับเคลื่อนให้มีการประชุมทวิภาคี นอกจากนี้ ยังมองได้ว่าการเลื่อนประชุม RBC อาจเกิดจากความไม่เข้าใจกันเรื่องการสื่อสาร

พล.อ.ณัฐพล ยังชี้แจงกรณีที่กองกำลังบูรพา มีการยกระดับห้ามคนไทยเดินทางไปทำงานในบ่อน หรือกาสิโนในปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่า “เนื่องจากกัมพูชาไม่ให้รถขนส่งผักและผลไม้ผ่านด่านที่ จ.จันทบุรี ซึ่งทางกัมพูชายังมีการประสานมาพูดคุยในเรื่องนี้ และเราคอยได้ เพราะไม่ได้มองเรื่องนี้เป็นหลัก แต่ห่วงผลกระทบประชาชนตามแนวชายแดน ซึ่งการที่มีอาวุธหนักมาเผชิญหน้ากันอยู่ ถ้าวันใดวันหนึ่งเกิดปืนลั่นขึ้นมา คนชายแดนจะเดือดร้อน จึงต้องออกมาตรการควบคุมกำหนดเวลาเปิด-ปิด ไม่ให้เปิดตอนกลางคืน เพราะในยามวิกาลการดูแลประชาชนลำบาก”

พล.อ.ณัฐพล กล่าวอีกว่า “ส่วนที่ทางกัมพูชาเริ่มมีการตัดไฟฟ้า ทำให้มีไฟตกในพื้นที่ปอยเปตหลายจุด และหันไปใช้ไฟจากประเทศเวียดนามแทนนั้น ผมยืนยันว่าไม่กระทบ”

เราจะไม่ใช้มาตรการตาต่อตาฟันต่อฟัน รัฐบาลไม่มีการสั่งตัดไฟ เราจะไม่ใช้มาตรการอะไรที่กระทบต่อประชาชนที่อยู่ชายแดนไทย-กัมพูชา และพร้อมจะพิจารณาอย่างรอบคอบ เน้นย้ำไม่ให้เกิดข่าวที่เข้าใจผิด

พล.อ.ณัฐพล ระบุด้วยว่า “ที่ผ่านมา ข้อเสนอแนะของนักวิชาการเกี่ยวกับการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บางส่วนก็ทำให้รัฐบาลทำงานลำบาก เพราะทำอะไรก็ไม่เข้าเกณฑ์ของอีกคน จึงขอเสนอให้สมาคมสื่อจัดเวทีเสวนารวบรวมนักวิชาการเหล่านี้มาพูดคุย ซึ่งผมพร้อมรับฟังข้อเสนอ” พร้อมยืนยันว่า “ไม่ถึงขั้นขอให้หยุดวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเราเป็นประเทศเสรี”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ศบ.ทก. มีอำนาจหน้าที่คือ

1. ติดตาม ตรวจสอบ วิเคราะห์การกรองและประเมินสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด

2. ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับมาตรการที่จำเป็น เพื่อประโยชน์ในการบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดน ต่อ สมช. นายกรัฐมนตรี หรือ ครม. แล้วแต่กรณี

3. บูรณาการปฏิบัติงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้มีความเป็นเอกภาพ และเป็นศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อสาธารณชน

4. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน หรือมอบหมายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

5. รายงานผลการปฏิบัติงานและการบริหารสถานการณ์ชายแดน ต่อ สมช. นายกรัฐมนตรี หรือ ครม. แล้วแต่กรณีเพื่อทราบเป็นระยะ

6. ดำเนินการอื่นใดตามที่นายกรัฐมนตรี หรือ ครม. มอบหมาย

ทั้งนี้ การดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจให้คำนึงถึงความมุ่งหมายที่จะแก้ไขความตึงเครียดและความขัดแย้งที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดน ให้กลับสู่ภาวะปกติ เคารพซึ่งกันและกันในเอกราช อธิปไตย ความเสมอภาค บูรณภาพแผ่นดิน และเอกลักษณ์ของทั้งสองประเทศ โดยปราศจากการแทรกแซงของประเทศที่สาม หรือองค์กรระหว่างประเทศทั้งปวง

ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ให้ผู้อำนวยการศูนย์รายงานต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อทราบและมีคำสั่งยกเลิกคำสั่งนี้

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์