อาวุธลับ! รอสอย ‘เศรษฐา’ จับตา ‘บิ๊กป้อม’ คืนชีพ ‘บ้านป่าฯ’ หวังส้มหล่น

8 ม.ค. 2567 - 12:07

  • ความพยายาม ‘ขั้วบ้านป่าฯ’ กลับมาอีกครั้ง ปรากฏการณ์ ‘ป้อมรีเทิร์น’ กลับสู่ ‘สนามอำนาจ’ ส่งสัญญาณถึง ‘ทักษิณ’ หวังเป็นตัวเชื่อม ‘รบ.ข้ามขั้ว’ ให้คงอยู่

  • ความพยาม ‘ขั้วบ้านป่าฯ’ กลับมาอีกครั้ง ปรากฏการณ์ ‘ป้อมรีเทิร์น’ กลับสู่ ‘สนามอำนาจ’ ส่งสัญญาณถึง ‘ทักษิณ’ หวังเป็นตัวเชื่อม ‘รบ.ข้ามขั้ว’ ให้คงอยู่ จับตาบทพลิก ‘พลังประชารัฐ’ หวังเป็น ‘โซ่ข้อกลาง’ 2 ขั้วอำนาจ ในวันที่ ‘ทักษิณ’ มีไพ่ในมือหลายใบ ผ่าน ‘ดีลซ้อนดีลลับ’ จาก ‘ลังกาวี’ ถึง ‘ฮ่องกง’ ยังไม่สิ้นฤทธิ์

  • ชะตากรรม ‘เศรษฐา’ บนเส้นด้าย ‘นายกฯ เสือกระดาษ’ ระวังโดน ‘อาวุธลับ’ สอยได้ในอนาคต

Thaksin-Srettha-Prawit-Deal-Power-Politics-SPACEBAR-Hero.jpg

พลัง ‘บ้าป่ารอยต่อ’ ที่นิ่งมาช่วงหนึ่ง กลับมาขยับอีกครั้ง นับตั้งแต่ ธ.ค.66 ที่ ‘บิ๊กป้อม’พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หน.พลังประชารัฐ เรียกรวมพล ‘คีย์แมน-ลูกพรรค’ มาทานข้าว-พูดคุย ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ ถือเป็นการ ‘เช็คชื่อ’ ไปในตัว เพราะ พปชร. ได้ ‘พลังบ้านใหญ่’ จึงกวาด สส.เขต มาได้ 39 คน โดยมี ‘บิ๊กป้อม’ เป็น สส.บัญชีรายชื่อ เพียงหนึ่งเดียว 

ดังนั้นเท่ากับว่าเสียง ‘พลังประชารัฐ’ ต้องพึ่ง ‘บ้านใหญ่’ และมีข่าวทำนองว่า ‘บ้านใหญ่’ บางจังหวัด เริ่มตีตัวออกห่าง-ปันใจไปพรรคอื่น โดยเฉพาะไป ‘เพื่อไทย’ เพราะบางคนในอดีตเคยเป็น ‘สายไทยรักไทย-เพื่อไทย’ มาก่อน และบางพื้นที่ก็เป็น ‘ถิ่นเพื่อไทย-ฐานเสียงสีแดง’ 

ช่วงวันปีใหม่ ‘บิ๊กป้อม’ เปิดบ้านป่ารอยต่อ รับอวยพร 4 วันเต็ม ทำให้คณะต่างๆ ทยอยเข้าไป โดยเปิดให้ พปชร. เข้าไป 1 วัน นำโดย ‘บิ๊กป๊อด’พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ปธ.ที่ปรึกษา พปชร. , ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการ พปชร. โดยมีทั้ง สส. และ กก.บห.พรรค ขุนพลคีย์แมนต่างๆ มาพร้อมหน้าและร่วมโต๊ะอาหารกัน 

จนมาล่าสุด 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ‘บิ๊กป้อม’ รีเทิร์นลงพื้นที่อีกครั้ง จัดโครงการ ‘พปชร. สัญจร’ เริ่มที่ จ.เพชรบูรณ์ ถิ่นของ ‘สันติ พร้อมพัฒน์’ รองหัวหน้า พปชร. เรียกว่าจัดใหญ่ระดม ‘ขุมกำลัง พปชร.’ ออกสื่ออย่างเป็นทางการ กระชับสัมพันธ์ภายในพรรค ที่สุดท้ายต้องถึงมือ ‘บิ๊กป้อม’ มาจัดการเอง 

สิ่งที่ถูกโฟกัสคือสัมพันธ์ระหว่าง ‘บิ๊กป้อม-ธรรมนัส’ เพราะที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า ‘ธรรมนัส’ จะย้ายกลับไป ‘เพื่อไทย’ หรือไม่? เพราะช่วงหนึ่ง ‘ผู้กอง’ ห่างหายไปจากกิจกรรม พปชร. และไม่ปรากฏภาพอยู่กับ ‘บิ๊กป้อม’ เช่นเมื่อ ‘บิ๊กป้อม’ ไปทอดกฐินวัดต่างๆ 

จนมาช่วง ธ.ค.-ม.ค. ที่ผ่านมา มีภาพของทั้งคู่ปรากฏคู่กัน มีการประเมินว่า ‘ผู้กอง’ ก็ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี หากจะขน สส. ในมือราว 10 คน ไป ‘เพื่อไทย’ เพราะอาจต้องแลกกับการหลุดเก้าอี้ ‘รัฐมนตรี’ เพราะ ‘ผู้กอง’ เป็น รมว.เกษตรฯ ในโควต้า พปชร. หากไป ‘เพื่อไทย’ ตอนนี้โดน ‘ริบเก้าอี้’ แน่นอน เพราะคนใน ‘เพื่อไทย’ ก็จ้องเก้าอี้ รมว.เกษตรฯ หลายคน 

การที่ ‘ผู้กอง’ อยู่กับ ‘บิ๊กป้อม’ เป็นขุนพลข้างกาย ดูจะ ‘สยายปีก’ ได้มากกว่า หากกลับไป ‘เพื่อไทย’ เพราะใน ‘เพื่อไทย’ ก็มีขุนพลที่ใหญ่กว่า-สายตรงถึง ‘ทักษิณ’ ได้มากกว่าหลายคน 

มาพร้อมกับการที่ ‘บิ๊กป้อม’ ออกมาเปิดใจเรื่อง ‘อนาคตการเมือง’ กับสื่อยาวในรอบหลายเดือน แม้จะไม่ได้ ‘คำตอบ’ แต่ก็แฝงไปด้วย ‘นัยยะ’ เพราะไม่ ‘ปฏิเสธ-ไม่ปิดประตูตัวเอง’ โดยการโยนให้สื่อตอบเอง เช่นเรื่องการรีเทิร์นเป็น ‘รัฐมนตรี’ อีกครั้ง หรือหากเกิดอุบัติเหตุการเมือง ถึงขั้น ‘เปลี่ยนนายกฯ’ เพราะ ‘บิ๊กป้อม’ ยังเป็น ‘แคนดิเดตนายกฯ’ และยังเป็น สส. อยู่ด้วย 

ดังนั้นจึงมีการมองว่ามีความพยายามของ ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ ในการดัน ‘บิ๊กป้อม’ กลับสู่ ‘สนามอำนาจ’ อีกครั้ง โดยการให้ ‘บิ๊กป้อม’ กระชับอำนาจภายใน พปชร. ให้เป็นปึกแผ่น เพื่อสยบความเคลื่อนไหว ‘ขุมกำลัง’ ต่างๆ ภายใน พปชร. รวมทั้งการหวังให้ ‘บ้านป่ารอยต่อ’ กลับมามี ‘พาวเวอร์’ อีกครั้ง 

ในสถานการณ์เช่นนี้ มีการ ‘ตีความ’ ว่า ‘บ้านป่ารอยต่อ-บิ๊กป้อม’ ต้องการสื่อสารไปยัง ‘ทักษิณ-ขั้วเพื่อไทย’ หรือไม่?  

‘บ้านป่ารอยต่อ’ ประเมินสถานการณ์ ‘ชั้น 14’ ที่อยู่ของ ‘ทักษิณ’ ไม่สู้ดีนัก หลังกระแสสังคมเริ่ม ‘ตีกลับ’ ไปยัง ‘ขั้วเพื่อไทย’ ถึงเรื่อง ‘อภิสิทธิ์ชน’ โดยชนวนเหตุสำคัญคือ ‘ระเบียบราชทัณฑ์’ ที่ให้คุมขังนอกเรือนจำ ที่ประกาศใช้ ธ.ค.66 

อีกทั้งขั้ว ‘ต่อต้านระบอบทักษิณ’ ในอดีตเริ่ม ‘ตั้งหลัก’ ได้ เริ่มเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ เช่น กลุ่ม คปท. และพรรคประชาธิปัตย์ ก็แทรกซึมเรื่อง ‘ทักษิณ’ ไปในการอภิปรายงบปี 67 , รวมทั้ง กมธ.ตำรวจ ที่นำโดย ‘ชัยชนะ เดชเดโช’ ที่เป็นรองหัวหน้า ปชป. ในฐานะ ประธาน กมธ.ตำรวจฯ ยื่นหนังสือขอ ‘กรมราชทัณฑ์’ เพื่อตรวจสอบชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลัง‘ทักษิณ’ พักรักษาตัวเกิน 120 วันแล้ว 

สถานการณ์เช่นนี้สั่นคลอน ‘เพื่อไทย’ และเก้าอี้ ‘นายกฯ เศรษฐา’ เพราะปรากฏการณ์ ‘ทักษิณกลับไทย’ เป็น ‘ผลพวงซ้อนผลพวง’ จาก ‘ดีลลับลังกาวี’ อันนำมาสู่การตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ ทำให้ ‘ขั้วบ้านป่ารอยต่อ’ โดนริบอำนาจ ‘บิ๊กป้อม’ ไปไม่ถึงเก้าอี้นายกฯ ทำ พปชร. เกือบหลุด ‘ขบวนอำนาจ’ เพราะ สว.สายบ้านป่าฯ ไม่ยกโหวตให้ ‘เศรษฐา’ เป็นนายกฯ อีกทั้งเป็นผลพวง สืบเนื่องจาก ‘ป.ประวิตร-ป.ประยุทธ์’ แยกทางกันเดิน แตกพรรคเป็น ‘พลังประชารัฐ-รวมไทยสร้างชาติ’  

ทว่าอย่าลืม ‘ดีลลับฮ่องกง’ ที่ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ เดินทางไปพบ ‘ทักษิณ’ ช่วงก่อนตั้ง ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ แล้วเสร็จ จากนั้น ‘ธนาธร’ ออกมาเผยกับสื่อ มอง ‘เพื่อไทย’ เป็น ‘มิตร’ ทำให้จับท่าที ‘ก้าวไกล’ ช่วงที่ผ่านมา เลี่ยงการ ‘แตะ’ ถึง ‘ทักษิณ’ และเรื่องชั้น 14 อย่างมีนัยยะสำคัญ ทำให้บทดังกล่าว ตกไปที่ ‘ประชาธิปัตย์’ แทนนั่นเอง 

หากดูจำนวน สส. ของทั้ง ‘ก้าวไกล-เพื่อไทย’ อยู่ที่ราว 290 เสียง จึงมีโอกาสที่ ‘ขั้วอำนาจใหม่’ จะตลบหลัง ‘ขั้วอำนาจเก่า’ ได้ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ พ.ค.67 ที่ 250 สว. จะหมดวาระ 5 ปี ไม่มีอำนาจโหวตนายกฯ  

อีกทั้งสถานการณ์ในช่วงนั้น ‘ทักษิณ’ ก็จะอยู่ระหว่าง ‘พักโทษ’ หลังอยู่ในการควบคุมตัวของ ‘กรมราชทัณฑ์’ ครบ 6 เดือน ตั้ง 22ก.พ.67 เป็นต้นไป หรือเกมอาจถูกลากยาวไปถึง ก.ย.67 ที่ ‘ทักษิณ’ จะพ้นโทษด้วย  

ทำให้ ‘ขั้วป่ารอยต่อ’ ตื่นตัวอย่างฉับพลัน การปรากฏตัวของ ‘บิ๊กป้อม’ ที่กระฉับกระเฉงมากขึ้น หลังกลับมาฟิตร่างกาย งดมื้อเช้า-เย็น น้ำหนักลดไป 14 กิโลกรัม เพื่อ ‘ลดข้อจำกัด’ ในการกลับสู่ ‘สนามอำนาจ’ อีกครั้ง 

สายบ้านป่าฯ จึงมีความพยายามดัน ‘บิ๊กป้อม’ ให้เป็น ‘ตัวเลือก’ หากเกิด ‘ทางตันการเมือง’ ขึ้นมาอีกครั้ง ในการ ‘ดีลอำนาจ’ หรือเป็น ‘โซ่ข้อกลาง’ ระหว่าง ‘ขั้วทักษิณ-ขั้วอำนาจเก่า’ เข้าด้วยกัน  

อีกทั้ง ‘เศรษฐา’ ก็มีโอกาสจะถูก ‘สอย’ ได้เช่นกัน ผ่าน ‘อาวุธลับ’ บางชนิด เพราะ ‘เศรษฐา’ ก็มีเรื่องถูกร้อง ช่วงเป็นแคนดิเดตนายกฯ อยู่ที่ว่าจะถูดขุดขึ้นมาเมื่อใด 

สถานการณ์การเมืองช่วง เม.ย.-พ.ค.67 จึงเป็น ‘ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ’ ในทางการเมือง ในฝั่ง ‘ก้าวไกล’ ก็ปักหมุด ‘ซักฟอก’ ต้น เม.ย.67 และ สว. จะหมดวาระ พ.ค.67  

ขั้วอำนาจทุก ‘สายอำนาจ’ จึงพุ่งตรงไปที่ ‘ทักษิณ’ จะ ‘ดีลอำนาจ’ รอบ 2 อย่างไร? ดังนั้นทำให้ ‘ขั้วบ้านป่าฯ’ จึงกลับมามี ‘ความหวัง’ ในการดัน ‘บิ๊กป้อม’ กลับสู่อำนาจอีกครั้ง เพื่อรักษาสถานะ ‘รัฐบาลข้ามขั้ว’ นี้เอาไว้  

เพราะว่ากันว่าชื่อ ‘แพทองธาร’ ยังไม่ถึงเวลาที่จะมาเป็น นายกฯ ซึ่งอย่างมาก จะต้องมา ‘ทดลองงาน’ ในตำแหน่ง ‘รัฐมนตรี’ ก่อน

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์