



‘นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม’ หัวหน้าพรรคไทยภักดี ยกมือชูกำปั้นขึ้นสุดแขน เพื่อแสดงออกถึงความดีใจและสื่อสารว่าตัวเองชนะแล้ว หลังศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องคดีที่ ‘ช่อ พรรณิการ์ วานิช’ กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ยื่นฟ้อง ‘นพ.วรงค์’ ฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา กรณี ‘นพ.วรงค์’ เปิดโปงข้อมูลว่าคณะก้าวหน้าอมเงินบริจาคโครงการเมย์เดย์ ที่จัดระดมทุนช่วยเหลือนักดนตรีช่วงโควิด-19
โดยศาลพิเคราะห์ว่า ‘ช่อ พรรณิการ์’ เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรู้จัก การที่ ‘นพ.วรงค์’ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการแสดงความเห็นสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนที่ย่อมทำได้อีกทั้งรายชื่อ 11 คนที่รับเงินบริจาค ตามที่ ‘นพ.วรงค์’ กล่าวอ้าง ตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร จึงไม่มีตัวตน ศาลฯ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ที่พิพากษา ‘ยกฟ้อง’
‘นพ.วรงค์’ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตัวเองถูกกลุ่มคนที่มีแนวคิดต้องการแก้ไขมาตรา 112 ฟ้องทั้งหมด 3 คดี คือ คดีของ ‘ช่อ พรรณิการ์’ และคดีที่ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟ้องฐานหมิ่นประมาทฯ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24 ล้าน แต่ตอนนี้เขาชนะไปแล้ว 2 คดี คือ คดีของ ‘พิธา’ และ ‘ช่อ พรรณิการ์’ เหลือแค่คดีของ ‘ธนาธร’ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี จึงอยากแนะนำให้ ‘ธนาธร’ ถอนฟ้อง เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลา เพราะเชื่อว่าตัวเองจะชนะเเน่นอน เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นของตน อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและหลักฐาน
“ผมอยากจะเรียกร้องว่าการต่อสู้ทางความคิดระหว่าง ก้าวไกล คณะก้าวหน้า ไทยภักดี ควรต่อสู้กันแบบแฟร์ๆ บนข้อมูลและหลักฐาน ไม่ใช่เอะอะฟ้องปิดปาก”
‘นพ.วรงค์’ ยังมองว่าการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นการฟ้องปิดปากคนที่เห็นต่าง ซึ่งขัดแย้งต่อจุดยืนที่คุณบอกว่าต้องการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น
ขณะที่วันนี้ (11 ก.ค.) สมาชิกพรรคไทยภัคดี จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ‘หมอวรงค์’ ที่ศาลอาญา รัชดา โดยหลังฟังคำพิพากษาเสร็จแล้ว สมาชิกพรรคได้มอบ ‘พระไพรีพินาศ’ ให้กับ ‘นพ.วรงค์’ พร้อมบอกว่าคนที่กลั้นแกล้งหมอวรงค์จะต้องพ่ายแพ้ เพราะหมอวรงค์ไม่ได้ทำอะไรผิด
หลังจากนั้น ‘นพ.วรงค์’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom’ โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ผมชนะอีกแล้ว ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง เพราะถือว่าผมวิจารณ์ด้วยความสุจริตและเป็นธรรม
โดยศาลพิเคราะห์ว่า ‘ช่อ พรรณิการ์’ เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรู้จัก การที่ ‘นพ.วรงค์’ เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวถือเป็นการแสดงความเห็นสุจริต ติชมด้วยความเป็นธรรม อันเป็นวิสัยของประชาชนที่ย่อมทำได้อีกทั้งรายชื่อ 11 คนที่รับเงินบริจาค ตามที่ ‘นพ.วรงค์’ กล่าวอ้าง ตรวจสอบแล้วไม่มีชื่อในทะเบียนราษฎร จึงไม่มีตัวตน ศาลฯ จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ที่พิพากษา ‘ยกฟ้อง’
‘นพ.วรงค์’ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ตัวเองถูกกลุ่มคนที่มีแนวคิดต้องการแก้ไขมาตรา 112 ฟ้องทั้งหมด 3 คดี คือ คดีของ ‘ช่อ พรรณิการ์’ และคดีที่ ‘ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ‘พิธา ลิ้มเจริญรัตน์’ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ฟ้องฐานหมิ่นประมาทฯ พร้อมเรียกค่าเสียหาย 24 ล้าน แต่ตอนนี้เขาชนะไปแล้ว 2 คดี คือ คดีของ ‘พิธา’ และ ‘ช่อ พรรณิการ์’ เหลือแค่คดีของ ‘ธนาธร’ ที่อยู่ระหว่างพิจารณาคดี จึงอยากแนะนำให้ ‘ธนาธร’ ถอนฟ้อง เพื่อไม่ให้ต้องเสียเวลา เพราะเชื่อว่าตัวเองจะชนะเเน่นอน เนื่องจากการแสดงความคิดเห็นของตน อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและหลักฐาน
“ผมอยากจะเรียกร้องว่าการต่อสู้ทางความคิดระหว่าง ก้าวไกล คณะก้าวหน้า ไทยภักดี ควรต่อสู้กันแบบแฟร์ๆ บนข้อมูลและหลักฐาน ไม่ใช่เอะอะฟ้องปิดปาก”
‘นพ.วรงค์’ ยังมองว่าการกระทำของกลุ่มคนเหล่านี้เป็นการฟ้องปิดปากคนที่เห็นต่าง ซึ่งขัดแย้งต่อจุดยืนที่คุณบอกว่าต้องการสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็น
ขณะที่วันนี้ (11 ก.ค.) สมาชิกพรรคไทยภัคดี จำนวนหนึ่ง ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ‘หมอวรงค์’ ที่ศาลอาญา รัชดา โดยหลังฟังคำพิพากษาเสร็จแล้ว สมาชิกพรรคได้มอบ ‘พระไพรีพินาศ’ ให้กับ ‘นพ.วรงค์’ พร้อมบอกว่าคนที่กลั้นแกล้งหมอวรงค์จะต้องพ่ายแพ้ เพราะหมอวรงค์ไม่ได้ทำอะไรผิด
หลังจากนั้น ‘นพ.วรงค์’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก ‘วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom’ โดยระบุข้อความตอนหนึ่งว่า ผมชนะอีกแล้ว ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง เพราะถือว่าผมวิจารณ์ด้วยความสุจริตและเป็นธรรม