วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพื่อชี้แจงประเด็นที่ถูก เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย อภิปรายกล่าวหาว่าตนเรียกรับของกำนัล เป็นสูทผ้าไหม มูลค่าเกิน 3,000 บาท ไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง ว่า ขอปฏิเสธว่าเรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง และตนไม่ได้ตกต่ำหรือตกอับ จนต้องเอาอะไรไปแลก กับชุดพระราชทาน เพียงตัวเดียว ตนมีปัญญาที่จะตัดเอง ไม่เคยรับของกำนัลอะไรจากใครในราคาที่เกิน 3,000 บาท เพราะทราบดีว่า ป.ป.ช. มีประกาศลงวันที่ 13 มีนาคม 2563 เรื่องการับของกำนัล 3,000 บาท อีกทั้งตนยังเป็นคนที่คอยเตือนคณะรัฐมนตรีอยู่ตลอดเวลา แล้วที่บอกว่าผมเรียกรับของกำนันเพื่อแลกกับการไปเป็นประธานเปิดงานของ ป.ป.ท. นั้น ขอชี้แจงว่า ช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ผมไม่ได้เดินทางไปงานดังกล่าวแล้ว ไปแบบวิดีโอคอลแทน แม้แต่งานสถาปนา ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาก็ไม่ได้ไปด้วยตนเอง ส่งคลิปไปแทน ย้ำว่าไม่มีการเอาของขวัญหรือเอาอะไรมาให้ทั้งสิ้น และตนไม่เคยได้รับ แต่ยอมรับว่าตัวเองมีผ้าไทยหลายชุด เพราะเวลาภรรยาไปงานก็จะซื้อมา
แต่เมื่อสุขภาพไม่ค่อยดี อ้วนขึ้นผอมลง น้ำหนักลดไป 10 โล ต้องตัดเสื้อใหม่ จึงให้ ‘เบิร์ด’ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในห้องวัดไซต์ตัวเอง และฝากให้ไปสั่งตัดเสื้อแทน ยืนยันว่าตนเสียเงินทุกครั้ง ส่วนใครจะไปแอบอ้างกับร้านว่าสั่งตัดเสื้อให้ตน เรื่องนี้ไม่ทราบ และเสียงในคลิปก็ไม่ใช่เสียงของตน อีกทั้งตนก็ไม่เคยพูดแบบนั้น รวมถึงไม่เคยไปร้านตัดสูทหรือร้านตัดเสื้อของใครทั้งนั้น มีแต่คนอื่นไปทำให้
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังบอกว่าสูทของตน มียี่ห้อเดียว คือ ARROW ส่วนจะมีการ ฟ้องร้องคนที่กล่าวหาหรือไม่นั้น วิษณุบอกว่าขอดูก่อน เพราะตัวเองไม่อยาก ให้เรื่องมันยืดยาว หรือยุ่งยากอะไร แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ เพราะว่าประโยคที่รุนแรงคือคำว่า ‘เรียกรับ’ แลกกับการเป็นประธาน ขอย้ำว่าที่ไปเพราะเขาเชิญไป ไม่ได้ชอบไป และ 3 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ไป แม้กระทั่งปีนี้ปีที่ 4 ก็ไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นก็ขอปฏิเสธทั้งหมดครับ
ส่วนใครจะไปอ้างยังไงไม่ทราบ และเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ของตนก็ได้ติดต่อไปที่ร้านที่ตนสั่งตัดเสื้อ โดยทางร้านบอกว่ามีคนมาติดต่อ ว่าขอให้ร้านช่วยเขียนใบเสร็จ ราคาเกินจริง โดย ค่าตัด 2,500 บาท ขอให้เขียนเป็น 5,000 บาท เพื่อจะนำส่วนต่างไปเบิก แต่ตนไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร รู้แค่ว่าคนนั้นมาขอให้ร้านทำแบบนี้ 2-3 ครั้งแล้ว โดยร้านดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากรัฐสภา
เมื่อถามว่าแบบนี้ถือเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ขึ้นมาใส่ร้ายหรือไม่ วิษณุ ระบุว่าก็เขาพูดแบบนั้น ผมไม่รู้ ส่วนคนที่ไปตัดสูทแล้วขอให้ร้านเขียนใบเสร็จราคาเกินจริง จะเกี่ยวข้องกับการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ ไม่ทราบ ขอตรวจสอบก่อน และส่วนตัวอยากคุยกับเจ้าของร้านเหมือนกัน ส่วนเสื้อสูทไหมไทยที่ เลิศศักดิ์ สั่งตัดมาให้ตนและนำมาโชว์กลางสภาฯ ตนคงไม่เอามาใส่ให้เป็นกาลกิณี
เรื่องที่เกิดขึ้น วิษณุ ยังมองว่าเป็นความพยายามของฝ่ายค้านที่ต้องการดิสเครดิต และส่วนมองว่าถ้ามาบอกว่าตนเรียกรับบ้าน นาฬิกา ที่ดิน หรือเงิน ยังจะเข้าท่ากว่าเอาขีวิตไปแลกกับชุดไทยพระราชทาน เพียงตัวเดียวยืนยันไม่เคยมีประวัติแบบนั้น
วิษณุ ยังบอกว่าจริงๆ อยากชี้แจงเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ติดว่าตนต้องนอนฟอกไตอยู่ที่บ้านเป็น 10 ชั่วโมงทุกวัน ทำให้ตนไม่สามารถใส่สูทหรือชุดที่รัดได้ เพราะจะโดนแผลที่ท้อง ทำให้ต้องใส่เสื้อปล่อยชายแทน พร้อมกับเปิดชายเสื้อให้ดูร่องรอยแผลจากการฟอกไตให้ผู้สื่อข่าวดู
แต่เมื่อสุขภาพไม่ค่อยดี อ้วนขึ้นผอมลง น้ำหนักลดไป 10 โล ต้องตัดเสื้อใหม่ จึงให้ ‘เบิร์ด’ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในห้องวัดไซต์ตัวเอง และฝากให้ไปสั่งตัดเสื้อแทน ยืนยันว่าตนเสียเงินทุกครั้ง ส่วนใครจะไปแอบอ้างกับร้านว่าสั่งตัดเสื้อให้ตน เรื่องนี้ไม่ทราบ และเสียงในคลิปก็ไม่ใช่เสียงของตน อีกทั้งตนก็ไม่เคยพูดแบบนั้น รวมถึงไม่เคยไปร้านตัดสูทหรือร้านตัดเสื้อของใครทั้งนั้น มีแต่คนอื่นไปทำให้
นอกจากนี้ นายวิษณุ ยังบอกว่าสูทของตน มียี่ห้อเดียว คือ ARROW ส่วนจะมีการ ฟ้องร้องคนที่กล่าวหาหรือไม่นั้น วิษณุบอกว่าขอดูก่อน เพราะตัวเองไม่อยาก ให้เรื่องมันยืดยาว หรือยุ่งยากอะไร แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ เพราะว่าประโยคที่รุนแรงคือคำว่า ‘เรียกรับ’ แลกกับการเป็นประธาน ขอย้ำว่าที่ไปเพราะเขาเชิญไป ไม่ได้ชอบไป และ 3 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ไป แม้กระทั่งปีนี้ปีที่ 4 ก็ไม่ได้ไป เพราะฉะนั้นก็ขอปฏิเสธทั้งหมดครับ
ส่วนใครจะไปอ้างยังไงไม่ทราบ และเมื่อเช้าเจ้าหน้าที่ของตนก็ได้ติดต่อไปที่ร้านที่ตนสั่งตัดเสื้อ โดยทางร้านบอกว่ามีคนมาติดต่อ ว่าขอให้ร้านช่วยเขียนใบเสร็จ ราคาเกินจริง โดย ค่าตัด 2,500 บาท ขอให้เขียนเป็น 5,000 บาท เพื่อจะนำส่วนต่างไปเบิก แต่ตนไม่รู้ว่าคนนั้นเป็นใคร รู้แค่ว่าคนนั้นมาขอให้ร้านทำแบบนี้ 2-3 ครั้งแล้ว โดยร้านดังกล่าวอยู่ไม่ไกลจากรัฐสภา
เมื่อถามว่าแบบนี้ถือเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ขึ้นมาใส่ร้ายหรือไม่ วิษณุ ระบุว่าก็เขาพูดแบบนั้น ผมไม่รู้ ส่วนคนที่ไปตัดสูทแล้วขอให้ร้านเขียนใบเสร็จราคาเกินจริง จะเกี่ยวข้องกับการอภิปรายครั้งนี้หรือไม่ ไม่ทราบ ขอตรวจสอบก่อน และส่วนตัวอยากคุยกับเจ้าของร้านเหมือนกัน ส่วนเสื้อสูทไหมไทยที่ เลิศศักดิ์ สั่งตัดมาให้ตนและนำมาโชว์กลางสภาฯ ตนคงไม่เอามาใส่ให้เป็นกาลกิณี
เรื่องที่เกิดขึ้น วิษณุ ยังมองว่าเป็นความพยายามของฝ่ายค้านที่ต้องการดิสเครดิต และส่วนมองว่าถ้ามาบอกว่าตนเรียกรับบ้าน นาฬิกา ที่ดิน หรือเงิน ยังจะเข้าท่ากว่าเอาขีวิตไปแลกกับชุดไทยพระราชทาน เพียงตัวเดียวยืนยันไม่เคยมีประวัติแบบนั้น
วิษณุ ยังบอกว่าจริงๆ อยากชี้แจงเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ติดว่าตนต้องนอนฟอกไตอยู่ที่บ้านเป็น 10 ชั่วโมงทุกวัน ทำให้ตนไม่สามารถใส่สูทหรือชุดที่รัดได้ เพราะจะโดนแผลที่ท้อง ทำให้ต้องใส่เสื้อปล่อยชายแทน พร้อมกับเปิดชายเสื้อให้ดูร่องรอยแผลจากการฟอกไตให้ผู้สื่อข่าวดู
