











วันนี้ (12 ต.ค.) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. แรงงานไทยในอิสราเอล กลุ่มแรกจำนวน 15 คน ได้เดินทางถึงไทยแล้ว ด้วยสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY 083 โดยหลังจากผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาแรงงานไทยทั้ง 15 คน ไปตรวจสุขภาพที่สถาบันบำราศนราดูร ก่อนให้ญาติรับตัวกลับไปยังภูมิลำเนา โดยแรงงานในจำนวนนี้ มี 2 คน ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณขา แต่อาการโดยรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยแล้ว
ทั้งนี้ นอกจากแรงงานไทย 15 คน ที่ประสานงานขอกลับไทยผ่านกระทรวงการต่างประเทศแล้ว ยังมีแรงงานไทยและนักท่องเที่ยวไทยอีก 26 คน ที่ซื้อตั๋วเครื่องบินด้วยเงินส่วนตัว เดินทางกลับไทย ในเที่ยวบินเดียวกันนี้ด้วย ทำให้ยอดของคนไทยที่เดินทางกลับด้วยสายการบิน อิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบิน LY 083 มีทั้งหมด 41 คน
ขณะที่ ‘ปานปรีย์ พหิทธานุกร’ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงและมอบหมายให้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาต้อนรับผู้ที่เดินทางกลับไทยในวันนี้
พร้อมย้ำว่า รัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจ ยังคงเร่งประสานงานให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ยังอยู่ในอิสราเอล ให้กลับไทยโดยเร็วที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ตลอด 24 ชม. และล่าสุดได้รับแจ้งว่ามีคนลงทะเบียนขอกลับไทย เกือบ 6,000 คนแล้ว แต่สถานการณ์ตอนนี้ ต้องยอมรับว่าการเดินทางภายในอิสราเอลมีความลำบากมาก ขณะเดียวกันคนไทยก็ี่กระจายตัวอยู่ในหลายพื้นที่จึงทำให้การเดินทางมีความยากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีรายงายว่า ตอนนี้มีคนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน จำนวน 16 คน โดยตอนนี้ทางการไทยอยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการนำตัวประกันออกมาในพื้นที่ปลอดภัยให้ได้โดยเร็วที่สุด
โดยช่วงเย็นวันนี้ นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงการต่างประเทศ และคาดว่าหลังการประชุมจะมีความชัดเจนเรื่องแผนการพาคนไทยออกจากอิสราเอลมาพักไว้ที่ประเทศที่ 3 ที่เป็นพื้นที่ปลอดภัยก่อน จากนั้นค่อยทยอยนำเครื่องบินของกองทัพอากาศ และเครื่องบินพาณิชย์ลำเลียงคนไทยกลับสู่มาตุภูมิ เพื่อให้กระบวนการพาคนไทยกลับบ้านมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ดีกว่ารอบินตรงอย่างเดียว
‘แรงงานไทย’ เผยวิธีเก็บศพของอิสราเอล
ส่วนการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไทย ทางเอกอัครราชทูตไทยประจำอิสราเอล กำลังพยายามติดตามเรื่องนี้อยู่ ขณะที่ 1 ในแรงงานไทย ที่เดินทางกลับมาในวันนี้ เปิดเผยว่า ศพของผู้เสียชีวิตทุกสัญชาติ เจ้าหน้าที่อิสราเอลจะนำร่างใส่ถุงและมัด ก่อนเอาไปไว้รวมกันในห้องเย็น โดยจะแยกคนต่างชาติ และคนอิสราเอลเป็นคนละกลุ่ม เพื่อรอการพิสูจน์ตัวตน เนื่องจากในวันเกิดเหตุคนที่เสียชีวิตไม่มีใครพกเอกสารติดตัว ยืนยันตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายไปไหน
‘แรงงานไทย’ เล่านาทีระทึก! หนีตายจากการถูกกลุ่มฮามาสไล่ยิงถล่ม
ด้าน ‘สมมา แซ่จ๊ะ’ ซึ่งเป็นแรงงานไทย ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่ขา เปิดเผยว่า ดีใจที่ทุกฝ่ายช่วยเหลือและพาผู้ที่บาดเจ็บกลับไทยเป็นชุดแรก พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอิสราเอลให้ฟังว่าตอนนั้นเหตุการณ์มีความรุนแรงมาก โดยนายจ้างได้พาเขาและแรงงานคนอื่นๆ ไปหลบภัย พอเหตุการณ์ดูเหมือนจะสงบลงจึงได้พากันออกมา แต่ระหว่างทางที่กำลังจะกลับเข้าที่พัก มีเสียงปืนยิงมาจากถนน ซึ่งตอนนั้นเขาอยู่บริเวณท้ายรถคนสุดท้ายและได้หันไปมองก่อนจะถูกยิงเข้าที่หัวเข่าเป็นคนแรก
โดยตอนแรก ‘สมมา’ บอกว่าเขานึกว่าถูกก้อนหินกระเด็นใส่ แต่พอเห็นว่าที่ขาตัวเองเป็นรู จึงรู้ว่าถูกกระสุนปืนยิงจนทะลุขา จึงรีบบอกให้เพื่อนที่อยู่บนรถหมอบ และให้นายจ้างรีบขับรถหนี แต่ระหว่างนั้นก็มีการยิงปืนไล่ตามตลอดจนรถทะลุและมีคนที่ถูกยิงรวม 4 คน โดยบางคนถูกยิงทะลุกระจกเข้ามาโดนแก้ม และเสียงชีวิตในเวลาต่อมา ยอมรับตอนนั้นคิดว่าตัวเองไม่น่ามีชีวิตรอด เพราะมีการกราดยิงอย่างรุนแรง แต่พอรถขับหนีมาในระยะที่ปลอดภัยแล้ว นายจ้างก็ได้พาผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล