กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงสำหรับกรณีคลิป พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) ไปบรรยายธรรมะที่สำนักงานบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ปฯ และพูดในทำนอง “อวย” บริษัทดังกล่าว จนถูกตั้งคำถามที่ว่า “เหมาะสมหรือไม่?”
ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ชี้แจงถึงประเด็นการตรวจสอบเรื่องนี้ ว่า เป็นเรื่องของพระ
ผมเป็นฆราวาส คงไม่มีอำนาจไปตรวจอะไรพระ เป็นเรื่องขององค์กรพระที่จะดูแล
ชูศักดิ์ ศิรินิล
เมื่อถามว่า จากคลิปที่ปรากฏถือว่าขัดต่อหลักพระธรรมวินัยหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ได้ เพราะเป็นเรื่องของพระวินัย ก็เป็นเรื่องที่ต้องว่ากันไป
เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่มีอำนาจหน้าที่จะพิจารณา เราคงไม่ไปก้าวล่วงอะไร เว้นแต่จะมีเรื่องเข้ามา
ชูศักดิ์ ศิรินิล
เมื่อถามว่า เรื่องบานปลายจะกำชับ พศ.อย่างไร ชูศักดิ์ กล่าวว่า ผมบอกไปว่าถ้ามีเรื่องเข้ามาก็ให้พิจารณา และส่งเรื่องมาว่าเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้น เป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ต้องดูว่าเป็นอย่างไร เราคงไม่สามารถตัดสินได้เวลานี้ เว้นแต่จะมีเรื่องส่งเข้ามาที่ พศ. ก็ต้องทำรายงานมาว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร และเบื้องต้น เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ผมได้สั่งให้ พศ.ติดตามเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไร ให้ดูให้ละเอียดถ้ามีปัญหาอะไรก็ส่งมา
ผมยังไม่สามารถไปตัดสินหรือชี้ได้ว่าอะไรเป็นอะไร พูดง่ายๆ ว่าเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องให้คนที่เขาเกี่ยวข้องดูแลพิจารณากันไป
ชูศักดิ์ ศิรินิล
สำหรับกรณีที่หากเป็นคดีอาญา จะสามารถจัดการได้เองหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่จะดูในภาพรวม ซึ่งย้ำว่าเป็นเรื่องของคณะสงฆ์ที่ต้องดูแลกัน ผิดถูกอย่างไรก็ว่ากันไป
ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะเรียกทาง พศ.เข้ามาหารือในเรื่องนี้ ชูศักดิ์ ย้ำว่า ก็บอกไปแล้วว่าเมื่อมีคลิปปรากฏ ก็ให้ลองดู หากมีเรื่องอะไรก็สรุปมาให้ฟังว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า ตามหลักพระพุทธศาสนาถือว่าผิดหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่สามารถชี้ได้ว่าผิดหรือไม่ผิด เป็นเรื่องของสงฆ์ที่ต้องดู
ต้องยอมรับว่าขณะนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป เพราะเมื่อก่อนพระก็เทศน์อย่างเดียว แต่ช่วงหลังก็มีการแสดงความเห็น ซึ่งเป็นเรื่องของพระ และพวกนี้เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับว่าเรามีองค์กรที่ดูแลอยู่ ก็ให้องค์กรเขาว่ากันไป
ชูศักดิ์ ศิรินิล
เมื่อถามว่า จะทำให้วงการพระสงฆ์เสื่อมถอยลงไปเรื่อยๆ หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณากันเอง
เราเห็นว่าในอดีตมีพระมากมายที่แสดงออกเรื่องเงินทองแล้วท้ายที่สุดเวลาหนึ่ง สังคมก็พิพากษาว่าถูกหรือผิด แต่ครั้งนี้เราไม่ควรไปตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร ให้องค์กรที่มีอำนาจหน้าที่ได้พิจารณา
ชูศักดิ์ ศิรินิล
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องเข้าไปถวายรายงานสมเด็จพระสังฆราชในเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ ชูศักดิ์ มองว่า “องค์กรนี้มีคนดูแลอยู่แล้ว ก็ดูว่าอะไรเป็นอะไร ที่สำคัญคือ ต้องดูว่ามีคนว่ากล่าวร้องเรียนอะไรหรือไม่”
ลั่นไม่ถอนผลศึกษา ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขอสภาฯ เดินหน้าลงมติ
ส่วนกรณีที่สภาฯ สั่งปิดการประชุม (วานนี้ 17 ต.ค.) ทั้งที่ยังพิจารณาผลการศึกษา ‘พ.ร.บ.นิรโทษกรรม’ ไม่แล้วเสร็จนั้น
เรื่องนี้ ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม ชี้แจงว่า ความตั้งใจตนเองอยากให้ผลศึกษาดังกล่าวเข้าสภาฯ เพื่อพิจารณาให้แล้วเสร็จว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ผมก็พยายามอธิบาย แต่ยังมี สส.หลายคนเข้าใจไม่ถูก และเข้าใจผิดอยู่หลายประเด็น ซึ่งจะไม่เข้าใจจริงๆ หรือแกล้งไม่เข้าใจผมไม่ทราบ เช่น เข้าใจว่ายกเลิกมาตรา 112 ซึ่งผมว่าพรรคร่วมรัฐบาลต่างก็ต้องคุยกันเพื่อให้เกิดความเข้าใจ
ชูศักดิ์ ศิรินิล
พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่มาตรา 112 ซึ่งยังมีอยู่ แต่เราพิจารณาเรื่องนิรโทษกรรมเหตุการณ์ทางการเมือง ซึ่งดำเนินการมาแล้วหลายครั้ง และมีการอภิปรายเลยไปว่าจะมีการก้าวล่วง ฉะนั้น ขอยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ไม่มีใครไปก้าวล่วงและไม่คิดแบบนั้นเลย
ทั้งนี้ ไม่มั่นใจว่าการกินข้าวพรรคร่วมรัฐบาล วันที่ 21 ตุลาคมนี้ ที่นายกฯ เป็นประธาน จะมีการหยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาพูดคุยหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะตัดสินใจว่าจะคุยกันหรือไม่
มี สส.อภิปรายว่าไม่ให้นิรโทษกรรม มาตรา 110 และมาตรา 112 ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยู่ชั้นร่างกฎหมาย ซึ่งก็ต้องเสนอร่างกฎหมายเข้าไปว่า ไม่มี 2 ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นสิทธิ และที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่ชั้นดังกล่าว เพราะเป็นเพียงแค่รายงานการศึกษา
ชูศักดิ์ ศิรินิล
เมื่อถามว่า สรุปแล้วเรื่องที่ยังค้างอยู่ในสภาฯ จะดำเนินอย่างไรต่อไป หรือจะถอนผลการศึกษาออกมา ชูศักดิ์ ยืนยันว่า ไม่ถอนร่างผลการศึกษาและคงดำเนินการต่อไป เพื่อให้สภาฯ รับทราบว่ามีรายงาน
รับทราบ, ไม่ได้หมายความว่าเห็นด้วย และเมื่อรับทราบแล้ว ก็ต้องมีข้อสังเกตให้ส่งหน่วยงานต่างๆ ดำเนินการ หรือส่งให้เช่นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการก็ต้องลงมติ แต่ถ้าเห็นว่าไม่ควรส่งให้ ครม.ดำเนินการต่อ ก็ไม่ต้องลงมติ ซึ่งผมก็อยากให้การประชุมสัปดาห์หน้าดำเนินการต่อ เพื่อจบกระบวนการ
ชูศักดิ์ ศิรินิล
ทั้งนี้ อยากให้จบ แต่วิปรัฐบาลก็ยังไม่ได้ยืนยันว่าจะประชุมต่อได้วันไหน แต่ยืนยันก็ต้องพิจารณาให้จบ เพราะเรื่องมันค้างอยู่
ส่วนหากสภาฯ ลงมติไม่ควรให้ส่งหน่วยงานดำเนินการต่อ ถือเป็นการ ‘ปิดประตู’ ออกกฎหมายนิรโทษกรรมเลยหรือไม่ ชูศักดิ์ กล่าวว่า “ก็จะเป็นรายงานที่ค้างอยู่ในสภาฯ ใครจะหยิบไปศึกษาหรือไปดู ก็เป็นสิทธิของพรรคต่างๆ”
