



หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์นานกว่า 5 ชั่วโมง พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงผลการประชุม
โดยประเด็นหลักที่มีการพูดคุยกันในวันนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ เปิดเผยว่าเป็นการนำข้อมูลแต่ละท้องที่ที่เกิดเหตุมาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนต่อ เนื่องจากผู้ต้องหามีการกระทำลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ และจากข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ตอนนี้พบว่ายอดผู้เสียชีวิตและรอดชีวิต ที่ต้องสงสัยว่าถูกแอมวางยายังมีจำนวนเท่าเดิม คือ เสียชีวิต 13 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ส่วนจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตและรอดชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น ตอนนี้เจ้าหน้านี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม และวันนี้ไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม โดยกองปราบฯ ยังคงดูแลคดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นๆ ให้แต่ละท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามว่าหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้สามารถออกหมายจับ ‘แอม’ ในข้อหาฆ่าคนตายได้กี่ศพแล้วนั้น พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า นอกจากคดีของก้อย ล่าสุดที่ออกหมายจับเพิ่ม คือ คดีของสารวัตรปู ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม ที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีแอม มีส่วนเชื่อมโยงกับแอมในการก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.นำเกียรติ บอกว่าตอนนี้ยังไม่พบข้อมูล แต่จากการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เมื่อวานนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และโทรศัพท์ของทั้งสองคนนี้ก่อนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ และต่อจากนี้จะมีการเชิญ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เข้ามาให้ข้อมูลอีกครั้ง
ส่วนประเด็นพบ ‘สารไซยาไนด์’ บริเวณหน้าคอนโซลรถยนต์ของแอม เรื่องนี้ต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง นอกจากนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ยังเปิดเผยว่าจากการสอบปากคำ ‘กอล์ฟ’ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของ ‘แด้’ อดีตสามีแอมที่ตายปริศนา พบว่าให้การเป็นประโยชน์
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่าจากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฎจัดแจนว่าถูกแอมวางยา จำนวน 2 ศพ คือ ‘ก้อย’ ที่เสียชีวิตนพื้นที่ จ.ราชบุรี และ ‘สารวัตรปู’ ที่เสียชีวิตในพื่นที่ จ.นครปฐม โดยตรวจพบสารไซยาไนด์ ในร่างกายในปริมาณที่ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนข้อกังวลว่าผู้เสียชีวิตบางรายมีการเผาศพไปแล้วจะยังหาหลักฐานที่เชื่อมโยงเอาผิด ‘แอม’ ได้หรือไม่ ประเด็นนี้ พ.ต.อ.เอนก บอกว่าสารพิษในร่างกายศพไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการเอาผิด ยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่สามาถเชื่อมโยงเอาผิดได้ โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำให้ศษลเห็นว่าแอมมีการทำผิดจริง ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่มีแนวทางที่จะทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในส่วนนี้แล้ว แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด
โดยประเด็นหลักที่มีการพูดคุยกันในวันนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ เปิดเผยว่าเป็นการนำข้อมูลแต่ละท้องที่ที่เกิดเหตุมาแลกเปลี่ยนกัน เพื่อวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนต่อ เนื่องจากผู้ต้องหามีการกระทำลักษณะเดียวกันในหลายพื้นที่ และจากข้อมูลที่สามารถยืนยันได้ตอนนี้พบว่ายอดผู้เสียชีวิตและรอดชีวิต ที่ต้องสงสัยว่าถูกแอมวางยายังมีจำนวนเท่าเดิม คือ เสียชีวิต 13 ราย และรอดชีวิต 1 ราย ส่วนจะมีจำนวนผู้เสียชีวิตและรอดชีวิตเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่นั้น ตอนนี้เจ้าหน้านี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติม และวันนี้ไม่มีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม โดยกองปราบฯ ยังคงดูแลคดีการเสียชีวิตของก้อยเพียงคดีเดียว ส่วนคดีอื่นๆ ให้แต่ละท้องที่เป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามว่าหลักฐานที่มีอยู่ตอนนี้สามารถออกหมายจับ ‘แอม’ ในข้อหาฆ่าคนตายได้กี่ศพแล้วนั้น พล.ต.ต.นำเกียรติ ระบุว่า นอกจากคดีของก้อย ล่าสุดที่ออกหมายจับเพิ่ม คือ คดีของสารวัตรปู ในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม ที่เหลืออยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนข้อสังเกตว่า พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.สวนผึ้ง อดีตสามีแอม มีส่วนเชื่อมโยงกับแอมในการก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.นำเกียรติ บอกว่าตอนนี้ยังไม่พบข้อมูล แต่จากการสอบปากคำ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เมื่อวานนี้ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และโทรศัพท์ของทั้งสองคนนี้ก่อนว่ามีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ และต่อจากนี้จะมีการเชิญ พ.ต.ท.วิฑูรย์ เข้ามาให้ข้อมูลอีกครั้ง
ส่วนประเด็นพบ ‘สารไซยาไนด์’ บริเวณหน้าคอนโซลรถยนต์ของแอม เรื่องนี้ต้องรอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง นอกจากนี้ พล.ต.ต.นำเกียรติ ยังเปิดเผยว่าจากการสอบปากคำ ‘กอล์ฟ’ ซึ่งเป็นลูกน้องคนสนิทของ ‘แด้’ อดีตสามีแอมที่ตายปริศนา พบว่าให้การเป็นประโยชน์
ด้าน พ.ต.อ.เอนก เปิดเผยว่าจากการสอบสวนพยานหลักฐานต่างๆ พบผู้เสียชีวิตที่ปรากฎจัดแจนว่าถูกแอมวางยา จำนวน 2 ศพ คือ ‘ก้อย’ ที่เสียชีวิตนพื้นที่ จ.ราชบุรี และ ‘สารวัตรปู’ ที่เสียชีวิตในพื่นที่ จ.นครปฐม โดยตรวจพบสารไซยาไนด์ ในร่างกายในปริมาณที่ทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้
ส่วนข้อกังวลว่าผู้เสียชีวิตบางรายมีการเผาศพไปแล้วจะยังหาหลักฐานที่เชื่อมโยงเอาผิด ‘แอม’ ได้หรือไม่ ประเด็นนี้ พ.ต.อ.เอนก บอกว่าสารพิษในร่างกายศพไม่ใช่ปัจจัยเดียวในการเอาผิด ยังมีหลักฐานอื่นๆ ที่สามาถเชื่อมโยงเอาผิดได้ โดยพนักงานสอบสวนจะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อทำให้ศษลเห็นว่าแอมมีการทำผิดจริง ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่มีแนวทางที่จะทำให้เห็นถึงความเชื่อมโยงในส่วนนี้แล้ว แต่ขอยังไม่เปิดเผยรายละเอียด