หลัง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในรัฐบาลของ ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเป็น ‘นายกเมืองพัทยา’ ช่วงปี 2551 กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้าง ‘โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ’ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 จนนำมาสู่การออกหมายจับ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. ก่อนคดีหมดอายุความในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ก่อนจะมีการออกหมายจับใหม่ โดยไม่มีอายุความ
มหากาพย์คดีนี้ที่ล่วงเลยมากว่า 15 ปี เป็นเหตุให้หลายคนตั้งคำถามว่าคดีนี้ ‘ช้าที่ใคร’ ทีมข่าว SPAEBAR ชวนย้อนดูไทม์ไลน์ เพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้กัน
10 ก.ย. 2551
ข้อกังขาเรื่องความล่าช้าในการตรวจสอบคดีนี้ ถูกหลายฝ่ายตั้งคำถามว่ามันช้าตรงไหนและช้าที่ใคร? ซึ่งหนึ่งในคนที่ออกมาตะโกนเรื่องนี้ดังๆ คือ ‘สมชัย ศรีสุทธิยากร’ อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่บอกว่า ในวันพฤหัสที่ 14 ก.ย. เวลา 09.30 น. เขาจะไปยื่นเรื่องต่อ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่รัฐสภา เพื่อขอให้ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการรวบรวมชื่อ ส.ส. หรือ ส.ว. ให้ครบ 150 คน เพื่อขอให้ประธานรัฐสภาฯ ส่งเรื่องให้ประธานศาลฎีกาตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ ตรวจสอบกรณี ป.ป.ช.ใช้เวลาถึง 14 ปี 10 เดือน กว่าจะชี้มูลความผิด ‘อิทธิพล’ กับพวก ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ป.ป.ช. ยันไม่ได้ดองคดี!
ขณะที่ ‘นิวัติไชย เกษมมงคล’ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันกับสื่อหลายสำนักว่า ป.ป.ช. ไม่ได้ดองคดี แม้คดีนี้จะมีการกระทำความผิดตั้งแต่ปี 2551 แต่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องมาตรวจสอบเมื่อปี 2558 และได้พยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆ จนมีข้อมูลเพียงพอต่อการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนใน ปี 2563
อีกทั้งคดีนี้มีพยานเกี่ยวข้องที่ต้องสอบจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา แต่ ป.ป.ช. พยายามเร่งรัดคดีมาตลอด เมื่อพบว่ามีมูลความผิด ก็เร่งดำเนินการส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างนี้ ป.ป.ช. ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวไปเฝ้าประกบ ‘อิทธิพล’ อยู่ตลอด แต่ที่ ‘อิทธิพล’ หลบหนีไปต่างประเทศได้ คงเพราะรู้ว่าจะถูกอัยการสั่งฟ้อง
คดีนี้จะจบลงอย่างไร?
สำหรับคดีนี้ แม้ ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่ ‘โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง’ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายว่า คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น ‘ผู้ถูกกล่าวหา’ ถือว่ายังมีสิทธิต่อสู้คดีในชั้นศาลได้
ส่วนข้อพิพาทเรื่องการรื้อถอนอาคาร โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ คงต้องติดตามกันว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไรและเมื่อไหร่ เพราะอย่างที่ไล่ไทม์ไลน์ไปข้างต้น เรื่องนี้ยังคงติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เมื่อยังไม่มีการรื้อถอน อาคารกังกล่าวก็จะยังคงบทยังทัศนียภาพความสวยงามของอ่าวพัทยาต่อไป
จับตา ‘อิทธิพล’ กลับไทยหลัง 10 ก.ย.
หากพิจารณาตามข้อมูลที่ ‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยออกตัวว่าเขารู้จักกับ ‘อิทธิพล’ เป็นอย่างดี และเคยคุยกันว่าหลังจากที่ตัวเองเริ่มทำงานในฐานะ รมต.วัฒนธรรมแล้ว จะนัด ‘อิทธิพล’ ซึ่งเป็นอดีต รมต.วัฒนธรรม มาคุยการสานต่องาน แต่เรื่องคดีที่เกิดขึ้นส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องเก่า
ขณะที่ ‘ณรงค์ชัย คุณปลื้ม’ น้องชายของ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ เชื่อว่าเรื่องนี้พี่ชายเขาถูกกลั่นแกล้ง และที่ผ่านมาไม่เคยทราบว่าพี่ชายมีถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งตอนนี้ที่บ้านยังไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหลังวันที่ 10 ก.ย.นี้ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ อาจเดินทางกลับไทย เพื่อมาต่อสู้คดีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองต่อศาลได้ จึงต้องติดตามกันว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะเลือก ‘หลบหนีคดีไปตลอดชีวิต’ หรือจะกลับมา ‘ลบ’ ข้อครหาทั้งหมดด้วยตัวเอง
อ้างอิงข้อมูล : ไทยพีบีเอส, พีพีทีวี, ไทยโพสต์, เดลินิวส์, มติชน, อิศรา, ฐานเศรษฐกิจ, ผู้จัดการฯ, pattaya watchdog
มหากาพย์คดีนี้ที่ล่วงเลยมากว่า 15 ปี เป็นเหตุให้หลายคนตั้งคำถามว่าคดีนี้ ‘ช้าที่ใคร’ ทีมข่าว SPAEBAR ชวนย้อนดูไทม์ไลน์ เพื่อหาคำตอบของเรื่องนี้กัน
10 ก.ย. 2551
- ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ นายกเมืองพัทยาขณะนั้น ได้ออกใบอนุญาตให้ บริษัท บาลี ฮาย จำกัด ก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ พัทยา (Waterfront Pattaya) บริเวณเชิงเขาพระตำหนัก เมืองพัทยา
- ปลายปีเดียวกัน ‘อิทธิพล’ มีคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง หลังตรวจพบมีการก่อสร้างผิดแบบตั้งแต่ฐานราก
- โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ มีปัญหาเรื่องก่อสร้างผิดแบบ จนทำให้การก่อสร้างหยุดชะงัก และมีคดีความกับเมืองพัทยายืดเยื้อนานเกือบ 10 ปี
- ป.ป.ช. รับคดี ‘อิทธิพล’ ออกใบอนุญาตโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ ส่อมิชอบด้วยกฎหมาย ไว้ตรวจสอบ
- ‘อภิชาต วีปรปาล’ รองนายกเมืองพัทยาที่มาจากการแต่งตั้งของ คสช. ประกาศให้รื้อถอนอาคารโครงการดังกล่าว และปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนของการเขียน TOR เพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้รับจ้างและงบประมาณ แต่ที่ยังไม่ได้ดำเนินการรื้อถอนเนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนของการหารือเรื่องกฎหมาย
- ป.ป.ช. ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน คดี ‘อิทธิพล’ ออกใบอนุญาตโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ ส่อมิชอบด้วยกฎหมาย
- ป.ป.ช. ชี้มูล ‘อิทธิพล’ มีความผิดตาม ม.157 ฐานออกใบอนุญาตไม่ถูกกฎหมาย
- ป.ป.ช. ส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุด
- ‘อิทธิพล’ หลบหนีไปต่างประเทศ ผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยสายการบิน คัมโบเดีย แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ KR702 ปลายทางพนมเปญ
- อัยการนัดส่งตัว ‘อิทธิพล’ ฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ภาค 2 แต่ ‘อิทธิพล’ ไม่มาตามนัด
- ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 มีคำสั่งออกหมายจับ ‘อิทธิพล’ กับพวก หลังพบมีพฤติกรรมหลบหนี ก่อนคดีหมดอายุความ 10 ก.ย.นี้
- ‘คำนึง วงษ์ทวีทรัพย์’ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 แนะ ป.ป.ช. ขอศาลออกหมายจับใหม่
- ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 พิจารณาออกหมายจับ ‘อิทธิพล’ กับพวกใหม่ ตามคำร้องของ ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช. ระบุเนื้อหาในคำร้องเกี่ยวกับ พฤติการณ์หลบหนีคดีของผู้ถูกกล่าวหา และเรื่องอายุความ ตาม พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “…ถ้าผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี หรือระหว่างการพิจารณาของศาล มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลยหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ…” ทำให้คดีนี้ไม่มีอายุความแล้ว หมายความว่าหากเขาไม่กลับมาสู้คดีในไทย ก็ต้องกลายเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีไปตลอดชีวิต!
ข้อกังขาเรื่องความล่าช้าในการตรวจสอบคดีนี้ ถูกหลายฝ่ายตั้งคำถามว่ามันช้าตรงไหนและช้าที่ใคร? ซึ่งหนึ่งในคนที่ออกมาตะโกนเรื่องนี้ดังๆ คือ ‘สมชัย ศรีสุทธิยากร’ อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่บอกว่า ในวันพฤหัสที่ 14 ก.ย. เวลา 09.30 น. เขาจะไปยื่นเรื่องต่อ ‘พรรคก้าวไกล’ ที่รัฐสภา เพื่อขอให้ทำหน้าที่เป็นแกนนำในการรวบรวมชื่อ ส.ส. หรือ ส.ว. ให้ครบ 150 คน เพื่อขอให้ประธานรัฐสภาฯ ส่งเรื่องให้ประธานศาลฎีกาตั้งคณะผู้ไต่สวนอิสระ ตรวจสอบกรณี ป.ป.ช.ใช้เวลาถึง 14 ปี 10 เดือน กว่าจะชี้มูลความผิด ‘อิทธิพล’ กับพวก ว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ป.ป.ช. ยันไม่ได้ดองคดี!
ขณะที่ ‘นิวัติไชย เกษมมงคล’ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยืนยันกับสื่อหลายสำนักว่า ป.ป.ช. ไม่ได้ดองคดี แม้คดีนี้จะมีการกระทำความผิดตั้งแต่ปี 2551 แต่ ป.ป.ช.ได้รับเรื่องมาตรวจสอบเมื่อปี 2558 และได้พยายามรวบรวมหลักฐานต่างๆ จนมีข้อมูลเพียงพอต่อการตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนใน ปี 2563
อีกทั้งคดีนี้มีพยานเกี่ยวข้องที่ต้องสอบจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลา แต่ ป.ป.ช. พยายามเร่งรัดคดีมาตลอด เมื่อพบว่ามีมูลความผิด ก็เร่งดำเนินการส่งสำนวนคดีให้อัยการสูงสุดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ระหว่างนี้ ป.ป.ช. ยังได้ส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวไปเฝ้าประกบ ‘อิทธิพล’ อยู่ตลอด แต่ที่ ‘อิทธิพล’ หลบหนีไปต่างประเทศได้ คงเพราะรู้ว่าจะถูกอัยการสั่งฟ้อง
คดีนี้จะจบลงอย่างไร?
สำหรับคดีนี้ แม้ ป.ป.ช. จะชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่ ‘โกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง’ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด อธิบายว่า คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด ดังนั้น ‘ผู้ถูกกล่าวหา’ ถือว่ายังมีสิทธิต่อสู้คดีในชั้นศาลได้
ส่วนข้อพิพาทเรื่องการรื้อถอนอาคาร โครงการวอเตอร์ฟรอนท์ฯ คงต้องติดตามกันว่าจะได้ข้อสรุปอย่างไรและเมื่อไหร่ เพราะอย่างที่ไล่ไทม์ไลน์ไปข้างต้น เรื่องนี้ยังคงติดขัดเรื่องข้อกฎหมาย เมื่อยังไม่มีการรื้อถอน อาคารกังกล่าวก็จะยังคงบทยังทัศนียภาพความสวยงามของอ่าวพัทยาต่อไป
จับตา ‘อิทธิพล’ กลับไทยหลัง 10 ก.ย.
หากพิจารณาตามข้อมูลที่ ‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยออกตัวว่าเขารู้จักกับ ‘อิทธิพล’ เป็นอย่างดี และเคยคุยกันว่าหลังจากที่ตัวเองเริ่มทำงานในฐานะ รมต.วัฒนธรรมแล้ว จะนัด ‘อิทธิพล’ ซึ่งเป็นอดีต รมต.วัฒนธรรม มาคุยการสานต่องาน แต่เรื่องคดีที่เกิดขึ้นส่วนตัวไม่ทราบรายละเอียด เพราะเป็นเรื่องเก่า
ขณะที่ ‘ณรงค์ชัย คุณปลื้ม’ น้องชายของ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ เชื่อว่าเรื่องนี้พี่ชายเขาถูกกลั่นแกล้ง และที่ผ่านมาไม่เคยทราบว่าพี่ชายมีถูก ป.ป.ช. ตรวจสอบเรื่องนี้มาก่อน ซึ่งตอนนี้ที่บ้านยังไม่สามารถติดต่อพี่ชายได้
จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมด ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าหลังวันที่ 10 ก.ย.นี้ ‘อิทธิพล คุณปลื้ม’ อาจเดินทางกลับไทย เพื่อมาต่อสู้คดีและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองต่อศาลได้ จึงต้องติดตามกันว่าท้ายที่สุดแล้วเขาจะเลือก ‘หลบหนีคดีไปตลอดชีวิต’ หรือจะกลับมา ‘ลบ’ ข้อครหาทั้งหมดด้วยตัวเอง
อ้างอิงข้อมูล : ไทยพีบีเอส, พีพีทีวี, ไทยโพสต์, เดลินิวส์, มติชน, อิศรา, ฐานเศรษฐกิจ, ผู้จัดการฯ, pattaya watchdog
