



ที่ศาลอาญา รัชดา ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล’ หรือ ‘บิ๊กโจ๊ก’ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อศาล กรณีถูกตำรวจชุดคอมมานโดนำหมายค้นเข้าตรวจสอบบ้านพัก ย่านวิภาวดี เมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมา ( 25 ก.ย.) หลังตำรวจชุดปฎิบัติการอ้างว่าลูกน้องคนสนิทของ ‘บิ๊กโจ๊ก’ เกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนัน
‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ มองว่าการขอหมายศาลดังกล่าว เป็นการขอหมายศาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และมีลักษณะปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล ไม่แจ้งศาลตรงๆ ว่ามาค้นบ้านของเขา เชื่อหากศาลรู้ข้อเท็จจริงเรื่องนี้จะไม่ออกหมายค้น เพราะเขาเป็นบุคคลที่มียศ ตำแหน่ง และถ้าเป็นตำรวจศาลจะออกหมายเรียกก่อน จึงเป็นที่มาของการยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ เพราะต้องการให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งไต่สวนว่า กรณีดังกล่าวเป็นการละเมิดอำนาจศาลหรือไม่
ส่วนวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่าลูกน้องของเขาก็จะไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญา กรุงเทพใต้ เพื่อขอให้ศาลพิจารณาและมีคำสั่งไต่สวนตำรวจที่เกี่ยวข้องว่าละเมิดคำสั่งศาล หลอกให้มีการออกหมายจับ และหมายค้นในบ้านหรือไม่
‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ย้ำว่า เขาพร้อมรับการตรวจสอบ แต่หากการตรวจสอบมีวาระอื่นซ่อนเร้น เขาก็มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้ตัวเอง เพราะหากเขาที่มีฐานะเป็น รองผบ.ตร. ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วประชาชนจะหาความเป็นธรรมได้จากที่ไหน
ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินของลูกน้อง ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่าไม่ใช่เรื่องของเขา เป็นเรื่องของลูกน้อง แต่หากลูกน้องได้ประกันตัวแล้ว ก็ต้องไปสอบถามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่าหากไปถามข้อเท็จจริงด้วยตัวเองอาจถูกครหาได้ว่าเป็นการเตี๊ยมข้อมูลกันก่อน ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่า ไม่ใช่อย่างนั้น แต่เขาเองต้องไปถามข้อเท็จจริงก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาเองจะได้ไปชี้แจงถูก และไม่กังวลอะไรกับการตั้งคณะกรรมการสอบ และส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องดีที่เขาจะได้ชี้แจงเรื่องทั้งหมด
ส่วนเรื่องนี้จะต้องเอาคืนหรือไม่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ บอกว่า ไม่มีการเอาคืนกัน แต่หากมีคนทำผิดก็ต้องฟ้องกลับ ย้ำว่าเขารู้หมดว่าใครสั่งการเรื่องนี้ พร้อมย้ำว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องการเมืองภายในวงการตำรวจ
เมื่อถามว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งตำแหน่ง ‘ผบ.ตร.’ คนใหม่หรือไม่ ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ ปฎิเสธที่จะตอบเรื่องนี้โดยขอให้สื่อไปคิดเอง พร้อมเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้เขาได้ถาม ‘พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์’ ผบ.ตร.เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วได้คำตอบว่า ก่อนหน้านี้ ‘ผบ.ตร.’ ได้รับแจงเพียงว่าจะมีการเข้าตรวจค้น และ ‘ผบ.ตร.’ ได้บอกกับผู้ที่รายงานว่าหากจะเข้าค้นให้บอกกันก่อน แต่ผู้รายงานได้นำกำลังเข้าค้น โดยไม่รายงานก่อน
จากเรื่องที่เกิดขึ้น ‘พล.ต.อ.สุรเชษฐ์’ จึงสรุปได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากคำสั่งของ ‘ผบ.ตร’ ย้ำเขาต้องรักษาสิทธิ์และปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เขายังไม่ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาแต่ถูกทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงแล้ว