เดินทางมาถึงวันสุดท้ายแล้วสำหรับมหกรรมกีฬาของมวลมนุษยชาติอย่าง กีฬาโอลิมปิก 2024 หรือ Paris 2024 ที่เริ่มอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2024 และกำลังจะสิ้นสุดในวันนี้ 11 สิงหาคม 2024 กับพิธีปิดครั้งนี้ หลายๆ อย่างเริ่มชัดเจนมากขึ้นอย่างเช่นตารางเหรียญรางวัล ซึ่งทางด้านชาติที่ได้เหรียญรวมๆ เยอะที่สุดก็คือ ทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ 119 เหรียญ กับ ทีมชาติจีนที่ 88 เหรียญ แต่ตอนนี้จีนยังเป็นที่ 1 เพราะได้เหรียญทองที่ 37 เหรียญ ในขณะที่สหรัฐอยู่ที่ 36 เหรียญ ก็ยังต้องชิงจ้าวเหรียญทองกันต่อไปสำหรับสองชาติมหาอำนาจนี้
นอกจากนี้ก็ยังมีกีฬาใหม่อย่างเต้น Breakdancing ที่เดบิวต์เป็นครั้งแรกในโอลิมปิกหนนี้ และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ โอลิมปิก 2024 ได้ถูกขนานนามไว้แล้วว่านี่คือ ‘โอลิมปิกเกมที่ยั่งยืนที่สุด’ ด้วยวิธีหลายๆ อย่างไล่ตั้งแต่ พลังงาน อาหาร สถานที่ การขนส่ง และบริการด้านดิจิทัล โดยนี่เป็นโมเดลที่โลกกีฬากำลังทำในหลายทัวร์นาเมนต์ ก่อนหน้านี้ก็คือฟุตบอลยูโร 2024 ที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งวันนี้เราจะพาไปดู 5 เรื่องที่ทำให้ Paris 2024 เป็นโอลิมปิกที่ยั่งยืนที่สุด จะมีอะไรบ้าง ติดตามได้เลยครับ
1. วางแผนล่วงหน้า
Paris 2024 ตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนลงร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของ London 2012 และ Rio 2016 โดยจัดการกับการปล่อยมลพิษที่กว้างที่สุดอย่างเช่น การเดินทางของผู้ชม นอกจากนี้ยังมีเรื่องของสิ่งของต่างๆ ที่พยายามให้ความสำคัญของวงจรทรัพยากรเหล่านี้ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการแข่งขัน ตั้งแต่ที่นั่งผู้ชม เต็นท์ เตียง เก้าอี้ โต๊ะ หรือแม้แต่ลูกเทนนิส รวมไปถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน 100 เปอร์เซ็นต์ในระหว่างแข่งขัน หลีกเลี่ยงการใช้พลังงานชั่วคราวให้ได้มากที่สุด ปิดท้ายด้วยการออกแบบสถานที่แข่งขันแบบชั่วคราวเพื่อลดการก่อสร้างและให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้น
2. ลดการใช้ เช่า และนำกลับมาใช้ใหม่
อย่างที่บอกจากประเด็นสุดท้ายของข้อแรกคือ ออกแบบสถานที่แข่งขันแบบชั่วคราว โดยกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ ใน Paris 2024 คือการใช้สถานที่ที่มีอยู่แล้ว หรือสร้างชั่วคราว และที่เหลือคือการใช้วิธีการก่อสร้างแบบสร้างคาร์บอนน้อยที่สุด ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์กีฬาทางน้ำในเมืองแซน-แซ็งต์-เดอนี ศูนย์แห่งนี้ใช้พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ขนาด 4,680 ตารางเมตรที่ติดตั้งบนหลังคาเป็นหลัก ในขณะที่นั่งทั้งหมดทำจากขยะพลาสติกรีไซเคิลในท้องถิ่น ใช้ไม้เป็นโครงหลักของอาคาร ซึ่งช่วยลดมลพิษจากการก่อสร้าง นอกจากนี้อุปกรณ์กีฬา 2 ล้านชิ้น บางส่วนมาจากการเช่าหรือจัดหาโดยสหพันธ์กีฬา รวมไปถึงของอย่างอื่นด้วย ซึ่งด้วยวิธีการทั้งหมดนี้ ผู้จัดยืนยันว่าทรัพย์สิน 90 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด 6 ล้านรายการ จะถูกนำกลับไปใช้ซ้ำโดยพันธมิตร และยังวางแผนกับของที่เหลืออีก 10 เปอร์เซ็นต์ด้วย
3. การฟื้นฟูการใช้งานใหม่
เริ่มตั้งแต่ศูนย์กีฬาทางน้ำที่หลังจากนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางกีฬาหลายประเภทสำหรับชุมชนท้องถิ่น โดยจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับการว่ายน้ำ ปีนเขา และออกกำลังกาย ต่อด้วยสถานที่สำคัญอย่าง หมู่บ้านนักกีฬา ที่จะถูกแปลงโฉมหลังการแข่งขันให้เป็นเขตที่อยู่อาศัยและธุรกิจแห่งใหม่ โดยจะมีสถานที่ทำงานสำหรับคน 6,000 คน และอพาร์ตเมนต์สำหรับคนอีก 6,000 คน หนึ่งในสี่จะเป็นบ้านพักสาธารณะ อีกหนึ่งในสามจะกลายเป็นที่อยู่อาศัยให้เช่าแบบราคาประหยัด ให้นักเรียนและคนมีรายได้น้อยเช่า นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งสายไฟฟ้าใต้ดิน การพัฒนาคลอง Saint Denis การสร้างกำแพงกันเสียงทางทิศใต้ของทางด่วน A86 เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยบริเวณนั้นๆ นอกจากนี้ Paris 2024 ยังเป็นตัวช่วยในการเร่งทำความสะอาดแม่น้ำแซน เพื่อให้ชาวปารีสทุกคนสามารถเอ็นจอยไปกับแม่น้ำสายสำคัญของเมืองหลังจากนี้
4. ความยั่งยืนเรื่องของอาหาร
เรื่องของอาหารเป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในโอลิมปิกครั้งนี้ มีการเพิ่มสัดส่วนของส่วนผสมจากพืชเป็นสองเท่า และเพิ่มตัวเลือกอาหารที่ทำจากพืชสำหรับทุกคน รวมไปถึงผู้ชมและแรงงาน รวมไปถึงการจัดหาวัตถุดิบ 80 เปอร์เซ็นต์จากผลผลิตทางการเกษตรในท้องถิ่น ต่อด้วยการลดฟู้ดเวสต์ หรือขยะอาหาร ด้วยการนำไปแจกจ่าย ทำปุ๋ยหมัก หรือนำอาหารที่ไม่ได้บริโภคไปแปรรูป ปิดท้ายด้วยลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งลงไปครึ่งหนึ่ง นำอุปกรณ์ที่ใช้จัดเลี้ยงและโครงสร้างพื้นฐานกลับมาใช้ใหม่ 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ Coca-Cola พันธมิตรของโอลิมปิกจะติดตั้งตู้กดน้ำ 700 ตู้ทั่วสถานที่จัดการแข่งขัน และผู้จัดงานจะมีจุดบริการเติมน้ำดื่มฟรี เพื่อลดการใช้ขวดน้ำ เอาขวดเดิมมาเติมใหม่ได้
5. การขนส่งที่ระยะทางน้อยลง ปล่อยคาร์บอนน้อยลง
สถานที่จัดการแข่งขันมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ จะตั้งอยู่ในระยะ 10 กม. จากหมู่บ้านนักกีฬา ซึ่งช่วยลดเวลาเดินทางของนักกีฬา นอกจากนี้สถานที่แข่งขันทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้ด้วยระบบขนส่งสาธารณะ ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะขยายบริการรถบัส รถไฟใต้ดิน และรถไฟในปารีสให้มากขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการจราจรในช่วงฤดูร้อนปกติ ปิดท้ายด้วยยานพาหนะที่ให้บริการนักกีฬาและแขกจะใช้ ยานพาหนะไฟฟ้า ไฮบริด และขับเคลื่อนด้วยไฮโดรเจน จัดหาโดยโตโยต้า พันธมิตรสำคัญของโอลิมปิก โดยเมื่อเทียบกับการแข่งขันครั้งก่อนๆ จำนวนยานพาหนะลดลงไปมากถึงประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์
