มีเรื่องให้ต้องช็อกกันต่อเลยสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ในวันที่สี่ สำหรับคู่ไฮไลต์อย่างคู่ 20:00 น. ที่เยอรมนีขึ้นนำก่อน 1-0 แต่โดนญี่ปุ่นแก้เกมใส่พลิกแซงตอนท้าย 1-2 คว้าชัยชนะให้กับชาติจากเอเชียได้อีกหนึ่งทีม ส่วนคู่แรกเป็นบอลอึดอัดระหว่าง โมร็อกโก ที่เจ๊าแบบโนสกอร์กับ โครเอเชีย ต่อที่อีกหนึ่งอดีตแชมป์โลกอย่าง สเปน ที่ไม่เพลี่ยงพล้ำเหมือนเพื่อนร่วมทวีป สอนบอล คอสตาริกา ไปแบบยับเยิน 7-0 และคู่สุดท้าย สำหรับสถิติที่น่าสนใจของทั้ง 4 คู่ จะมีอะไรบ้าง SPACEBAR เอามาฝากกันที่นี่
สถิติน่าสนใจหลังเกมฟุตบอลโลก 23 พ.ย. 2022

โมร็อกโก 0-0 โครเอเชีย
- การเสมอกันของคู่นี้ ทำให้ใน 9 นัดแรกของฟุตบอลโลก 2022 มีผลเสมอแบบไร้สกอร์ไปแล้วถึง 3 นัด ซึ่งเท่ากับจำนวน 115 เกม ในฟุตบอลโลก 2018 และยูโร 2020 รวมกัน
- ฮาคิม ซิเย็ค กลับมาลงสนามให้โมร็อกโกเป็นครั้งแรกในรอบ 1236 วัน นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2019
- ฮาคิม ซิเย็ค มีส่วนร่วมในจังหวะสุดท้าย 5 ครั้งจากการเล่นโอเพ่นเพลย์ ซึ่งมากกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ อย่างน้อย 2 ครั้ง
- ยอสโก กวาร์ดิโอล กลายเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ลงเล่นฟุตบอลโลกให้กับโครเอเชีย (20 ปี 304 วัน) รองจาก มาเตโอ โควาซิช ในฟุตบอลโลกปี 2014 ที่พบกับบราซิล (20 ปี 37 วัน)
- ลูก้า โมดริช กลายเป็นผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงเล่นฟุตบอลโลกให้กับโครเอเชียด้วยวัย 37 ปี 75 วัน
- ลูก้า โมดริช เป็นนักเตะคนแรกที่ได้เล่นทั้งฟุตบอลยูโร และฟุตบอลโลก ในรอบ 3 ทศวรรษที่แตกต่างกัน

เยอรมนี 1-2 ญี่ปุ่น
- ญี่ปุ่น ชนะการแข่งขันฟุตบอลโลกจากการโดนขึ้นนำไปก่อนเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ก่อนหน้านี้ เสมอ 2 แพ้ 7)
- ฟุตบอลโลก 3 นัดหลังสุดที่มีจังหวะการทำประตูถึง 14 ครั้งในครึ่งแรก เป็นเกมกับญี่ปุ่นทั้งหมด (2006 บราซิล ยิงใส่ ญี่ปุ่น, 2014 ญี่ปุ่น ยิงใส่ โคลอมเบีย และ 2022 เยอรมนี ยิงใส่ ญี่ปุ่น)
- ผู้เล่น 8 คนในทีมฟุตบอลโลกชุดนี้ของญี่ปุ่นมาจากสโมสรในเยอรมัน และมีผู้เล่นที่มาจากสโมสรญี่ปุ่นเพียงแค่ 7 คน
- ชูอิจิ กอนดะ ผู้รักษาประตูเซฟได้ถึง 8 ครั้งในเกมนี้ มีเพียง โยชิคาสึ คาวากูจิ ที่ทำได้มากกว่าเขาในเกมพบกับบราซิล เมื่อปี 2006 (10 ครั้ง)
- ยูโตะ นางาโตโมะ เป็นผู้เล่นญี่ปุ่นคนแรกที่ลงเล่นในฟุตบอลโลกถึง 4 ครั้ง และเขายังเป็นผู้เล่นที่ลงเล่นในทัวร์นาเมนต์นี้มากที่สุด (12 นัด) แซงหน้า มาโกโตะ ฮาเซเบะ และ เออิจิ คาวาชิมะ (11 นัด)
- เยอรมนี แพ้เกมฟุตบอลโลกที่พวกเขาขึ้นนำก่อนในครึ่งแรก เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1978 (แพ้ออสเตรีย 2-3) โดยไม่แพ้ใครมา 21 นัดก่อนหน้านี้
- เยอรมนี แพ้การแข่งขันฟุตบอลโลกที่พวกเขาขึ้นนำก่อน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1994 ที่พบกับบัลแกเรีย (1-2)
- เยอรมนีแพ้เกมนี้ทั้งที่มีค่าเฉลี่ยการทำประตู (xG) สูงถึง 3.3 ซึ่งไม่เคยมีทีมไหนแพ้ทั้งที่ค่า xG สูงขนาดนี้
- จามาล มูเซียลา เป็นผู้เล่นเยอรมันอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในฟุตบอลโลก (19 ปี 270 วัน) นับตั้งแต่ คาร์ล-ไฮนซ์ ชเนลลิงเงอร์ ในปี 1958 (19 ปี 72 วัน)
- อิลคาย กุนโดกาน ยิงได้ 9 ประตูจาก 22 นัดให้ทีมชาติเยอรมนีตั้งแต่ต้นปี 2021 หลังจากยิงไป 8 ประตูจาก 42 เกม ให้ทีมระหว่างปี 2011 ถึง 2020

สเปน 7-0 คอสตาริก้า
- โอกาสยิงของคอสตาริก้า ในเกมนี้คือ 0 ครั้ง นี่เป็นครั้งที่สองที่หนึ่งทีมไม่สามารถสร้างจังหวะการทำประตูได้เลยนับตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งสถิตินี้ครั้งแรกก็เป็นของคอสตาริก้า ในเกมเจอบราซิลเมื่อปี 1990
- คอสตาริกาตามหลัง 3 ประตูในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
- ทีมจากคอนคาเคฟแพ้ในฟุตบอลโลก 5 นัด จากการโดนยิงอย่างน้อย 6 ประตู มากกว่าทีมจากทวีปอื่นๆ
- สเปน ผ่านบอลสำเร็จมากที่สุดในครึ่งแรกของเกมฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี 1966 ที่จำนวน 537 ครั้ง (อันดับสอง ปี 2022 เยอรมัน 422 ครั้ง และอันดับสาม ปี 2018 สเปน 395 ครั้ง)
- สเปน ยิงได้ 3 ประตูในครึ่งแรกของการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของพวกเขา โดยครั้งแรกทำได้ในเกมเจอบราซิล เมื่อปี 1934
- สเปน คว้าชัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก แซงหน้าตอนที่พวกเขาชนะบัลแกเรีย 6-1 ในปี 1998 และกลายเป็นทีมแรกที่ทำ 7 ประตูจากการยิงตรงกรอบ 8 ครั้งในเกมเดียวในประวัติศาสตร์ของทัวร์นาเมนต์ นับตั้งแต่ปี 1966
- เปดรี้ ในวัย 19 ปี 363 วัน ลงเล่นทัวร์นาเมนต์ใหญ่เป็นนัดที่ 7 (ยูโร 6, ฟุตบอลโลก 1) เท่ากับ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ในฐานะดาวรุ่งที่ลงเล่นมากที่สุดในฟุตบอลโลกและยูโรรวมกัน
- กาบี้ ในวัย 18 ปี 110 วัน เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่เล่นให้สเปน ในการแข่งขันระดับเมเจอร์ทัวร์นาเมนต์ (ฟุตบอลโลก และยูโร) ในประวัติศาสตร์ของทีมชาติ และเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดอันดับ 3 ในฟุตบอลโลก ต่อจาก เปเล่ เมื่อปี 1958 (17 ปี 239 วัน) และ มานูเอล โรซาซ เมื่อปี 1930 (18 ปี 93 วัน)
- จากการออกสตาร์ทของ กาบี้ และ เปดรี้ ทำให้สเปนเป็นทีมจากยุโรปทีมแรกที่ส่งดาวรุ่ง 2 คนลงเป็น 11 ตัวจริงในฟุตบอลโลก นับตั้งแต่บัลแกเรียพบอังกฤษในปี 1962 (เชเชฟและโซโคลอฟ)
- ดานี โอลโม ทำประตูที่ 100 ให้กับสเปนในฟุตบอลโลก ทำให้ทีมกระทิงดุเป็นทีมที่ 6 ที่ยิงถึงหลัก 100 ลูกในทัวร์นาเมนต์นี้ ต่อจากบราซิล (229), เยอรมี (227), อาร์เจนตินา (138), อิตาลี (128) และฝรั่งเศส (124)
- เฟร์ราน ตอเรส เป็นผู้เล่นคนที่ 3 ที่ทำประตูได้ในนัดเดบิวต์กับสเปนในฟุตบอลโลก ต่อจาก โจเซ อิรารากอร์รี ในเกมพบบราซิล เมื่อปี 1934 และ ดาวิด บียา ในเกมพบยูเครน เมื่อปี 2006

เบลเยียม 1-0 แคนาดา
- แคนาดา กลายเป็นทีมที่สามที่ทำประตูไม่ได้ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 4 นัดแรกของพวกเขา ต่อจากโบลิเวียและกรีซ
- แคนาดา สร้างโอกาสยิงประตู 12 ครั้งในช่วง 32 นาทีแรก มากกว่าที่เคยทำได้จาก 3 นัดในฟุตบอลโลกปี 1986
- จังหวะยิง 14 ครั้งของแคนาดาในเกมนี้เป็นการยิงมากที่สุดในครึ่งแรกของการแข่งขันฟุตบอลโลกโดยทำประตูไม่ได้ นับตั้งแต่อังกฤษ (17 ครั้ง) เมื่อปี 2006
- อติบา ฮัทชินสัน ในวัย 39 ปี 288 วัน เป็นผู้เล่นที่อายุมากที่สุดในการแข่งขันฟุตบอลโลก นับตั้งแต่ โรเจอร์ มิลลา ในปี 1994 (42 ปี 39 วัน) และเป็นผู้เล่นอายุมากสุดที่ลงเล่นตัวจริงในฟุตบอลโลก
- อิสมาเอล โคเน เพิ่งจะอายุได้ 7 เดือน 2 วัน เมื่อผู้เล่นที่เขาลงไปเล่นแทนอย่าง อติบา ฮัทชินสัน เดบิวต์นัดแรกในทีมชาติ
- เบลเยียม ชนะ 8 นัดติดต่อกันในรอบแบ่งกลุ่มในฟุตบอลโลก เท่ากับบราซิลที่เคยทำได้ 2 ครั้งระหว่างปี 1986-1994 และ 2002-2010
- เบลเยียม โดนแคนาดาสร้างโอกาสยิงไปถึง 22 ครั้ง มากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่มฟุตบอลโลกนับตั้งแต่ปี 1998 (22 ครั้งในเกมกับเนเธอร์แลนด์)
- 11 ตัวจริงของเบลเยียมในเกมนี้มีอายุเฉลี่ย 30 ปี 181 วัน เป็น 11 ตัวจริงที่อายุมากที่สุดในฟุตบอลโลก 2022 และอายุมากสุดสำหรับเบลเยียมนับตั้งแต่บอลโลกปี 1998 (31 ปี 301 วัน)
- ติโบต์ กูร์กตัวส์ เป็นผู้รักษาประตูคนแรกที่เซฟจุดโทษให้เบลเยียมในศึกฟุตบอลโลก
- เอแดน อาซาร์ ลงเล่นให้เบลเยียมในวันนี้ไป 62 นาที มากกว่า 6 เกมที่เขาลงเล่นให้ เรอัล มาดริด ในทุกรายการของฤดูกาลนี้ (ลงเล่นมากสุด 60 นาที ในเกมเจอกับเซลติก)